รอลงอาญา คุก 9 ด.! อดีตนายก อบต.ตบหู อุบลฯ แบ่งจัดซื้อถุงยังชีพช่วยน้ำท่วม

เขียนวันที่

วันเสาร์ ที่ 05 มีนาคม 2565 เวลา 08:44 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

2974 views

picppckdessasassa3 5 65

ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สมศักดิ์ ห่องคำ' อดีตนายก อบต.ตบหู อำเภอเดชอุดม อุบลฯ แบ่งจัดซื้อถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ปี 50 ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษ จำคุก 9 เดือน ปรับ 1 หมื่น - พวก 1 ราย โดน 6 เดือน แต่ได้รอลงอาญา 3 ปี ทั้งคู่

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายสมศักดิ์ ห่องคำ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตบหู อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี กับพวก คือ นายไพโรจน์ เหมลา แบ่งจัดซื้อถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยประจำปีงบประมาณ 2550 เพื่อจัดซื้อโดยวิธีตกลงราคา

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 152,157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า นายสมศักดิ์ ห่องคำ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 152 , 157 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90 ลงโทษ จำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 20,000 บาท

นายไพโรจน์ เหมลา จำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 157 ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 16,000 บาท

จำสองทั้งสองให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78

คงลงโทษ จำเลยที่ 1 จำคุก 9 เดือน และปรับ 10,000 บาท และลงโทษ จำเลยที่ 2 จำคุก 6 เดือน และปรับ 8,000 บาท

โทษจำคุกจำเลยทั้งสองให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 3 ปี

ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในกรณีที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท

มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

picppckkedsaasssssss3 5 65

อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage