ป.ป.ช. เผยความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สมโรจน์ มงคลชาติ' อดีตอัยการประจวบคีรีขันธ์ ให้จำเลยเลี้ยงอาหาร เรียกรับพระเครื่อง แลกเปลี่ยนไม่อุทธรณ์คดี ล่าสุดศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนโทษ จำคุก 3 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสมโรจน์ มงคลชาติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้จำเลยเลี้ยงอาหาร และเรียกรับพระเครื่องจากจำเลยเพื่อแลกกับการไม่อุทธรณ์คดี
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน ตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ที่มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม มาตรา 201 จำคุก 5 ปี
ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 ลงมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการ พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี หรือพนักงานสอบสวน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต