ป.ป.ช.เผย อสส.สั่งฟ้องคดียิ่งลักษณ์โยกย้าย 'ถวิล เปลี่ยนศรี'โดยไม่ชอบ- 'กิตติรัตน์' ไม่ตรวจสอบ อสส.ส่งมอบข้าวให้ BULOG อินโดฯแล้ว-แจงกำลังตรวจสอบปมบัญชีทรัพย์สินสุชัชวีร์ คาด มี.ค. นี้ แจ้งข้อกล่าวหาคดีเสาไฟกินรีได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 28 ก.พ.. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสํานักงาน ป.ป.ช. พร้อมด้วยนายนิติพันธุ์ ประจวบเหมาะ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รองโฆษกสํานักงาน ป.ป.ช. และนายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รองโฆษก สํานักงาน ป.ป.ช. ร่วมแถลงข่าว “ป.ป.ช. แถลงผลงานด้านปราบปรามการทุจริต ไตรมาสแรก ปี 2565
โดยในช่วงการแถลงข่าวนั้นนายนิวัติไชยยังได้แถลงข่าวถึงคดี ป.ป.ช.ได้มีการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ได้แก่คดีที่มีการกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่มีคำสั่งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เรื่องนี้อัยการมีความเห็นแล้วว่าอัยการควรสั่งฟ้องให้
นายนิวัติไชยกล่าวต่อว่าส่วนกรณีกล่าวหา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวก กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยละเว้นไม่ควบคุมดูแลหรือสั่งการให้มีการตรวจสอบ กรณีองค์การคลังสินค้าคัดเลือกบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ให้เป็นผู้ส่งมอบข้าวให้ BULOG ประเทศอินโดนีเซีย โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เรื่องนี้นั้นคณะกรรมการร่วม 2 ฝ่าย ทั้ง ป.ป.ช.และอัยการมีความเห็นควรสั่งฟ้องในเรื่องนี้เช่นกัน
ต่อมาหลังจากการแถลงข่าวได้มีการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามคำถามในประเด็นสำคัญต่างๆ ซึ่งนายนิวัติไชยได้ตอบคำถามในกรณีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) แคนดิเดตเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเรื่องนี้นั้นเป็นการตรวจสอบบัญชีตามปกติ แต่เข้าใจว่าเนื่องจากนายสุชัชวีร์กำลังลงสมัครเลือกตั้งเลยทำให้เป็นเป้าสายตาขึ้นมา ทั้งนี้ในเรื่องของการยื่นบัญชีนั้น นายสุชัชวีร์ได้เข้าดำรงตำแหน่งอธิการบดี สจล. เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2558 แล้วก็ยื่นบัญชีในตำแหน่งอธิการบดีทุก 3 ปี ครั้งที่ 1 วันที่ 1 ต.ค. 2561 ครั้งที่ 2 1 ต.ค. 2564 และครั้งที่ 3 ตอนที่ พ้นจากตำแหน่งวันที่ 13 ธ.ค. 2564 ดังนั้นการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ถ้าหากพบว่ามีทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น หนี้สินลดน้อยลงผิดปกติ จนเป็นเหตุทำให้ต้องสงสัย ก็จะต้องมีการตรวจสอบตามกฎหมายกันต่อไป ส่วนเรื่องที่เป็นกระแสข่าว รวมไปถึงกรณีที่นายสุชัชวีร์ได้มายื่นด้วยตัวเองเร่งรัดให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบพร้อมทั้งชี้แจงข้อเท็จจริง ทาง ป.ป.ช.ก็จะรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ไว้ ส่วนกำหนดการในการดำเนินงานตรวจสอบนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่ว่าเอกสารต่างๆที่ ป.ป.ช.ได้ขอจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ที่ดิน บัญชีธนาคาร รวมไปถึงการเชิญบุคคลต่างๆมาให้ข้อมูล ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า ป.ป.ช. จะสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้มาเร็วแค่ไหน
เมื่อถามต่อถึงกรณีความคืบหน้าการดำเนินการในคดีเสาไฟกินรี องค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ จะสามารถชี้มูลได้เมื่อไร นายนิวัติไชยกล่าวว่าเท่าที่ทราบยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ในเดือน มี.ค. นี้ก็น่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาได้ ซึ่งเรื่องนี้นั้นแบ่งออกเป็นหลายสำนวนประมาณ 5-6 สำนวน คาดว่าจะสรุปแล้วเสร็จก็น่าจะอีกสักระยะหนึ่ง ประมาณเดือนถึง 2 เดือน ซึ่งในระหว่างการสรุปสำนวน ก็จะต้องเปิดโอกาสให้ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหานั้นได้มาแก้ต่างข้อกล่าวหาต่างๆด้วย เช่นเดียวกับความคืบหน้าคดีถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ตอนนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างการสรุปสำนวน มีการแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว ก็น่าจะสามารถจะดำเนินการส่งฟ้องได้ไม่เกิน 2 เดือนนี้ เช่นเดียวกับกรณีที่ฝ่ายค้านได้ยื่นเรื่องให้มีการตรวจสอบการจัดซื้ออันเกี่ยวกับการรับมือการระบาดของไวรัสโควิด-19 เรื่องเหล่านี้ก็กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเช่นกัน เพราะ ป.ป.ช.มีเรื่องร้องเข้ามามาก จึงต้องทยอยกันตรวจสอบ
เมื่อถามถึงกรณีที่สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นมีการรายงานข่าวเรื่องธนาคารเครดิตสวิส ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ปรากฏว่ามีรายชื่อเปิดบัญชีจากประเทศไทยจำนวนนับพันบัญชี นายนิวัติไชยกล่าวว่าทราบข่าวเรื่องนี้เช่นกันแต่ต้องยอมรับว่าการเข้าถึงข้อมูลของทางสวิตเซอร์แลนด์นั้น เขาก็มีกฎหมายปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่ค่อนข้างจะเข้มแข็งในทางบัญชี ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ ป.ป.ช.ไม่อยากได้ บัญชีทุกอย่างเราก็พยายามเจาะ ซึ่งตามกฎหมายบอกแล้วว่าการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆนั้นต้องยื่นทั้งที่อยู่ในประเทศ และที่อยู่ต่างประเทศ แต่ปัญหาคือถ้าเขาไม่ยื่นแล้วถ้าเราทราบ เราก็คงต้องเจาะไปยังประเทศนั้นและขอข้อมูลประกอบว่าทำไมเขาไม่ยื่น แต่มันก็มีอยู่หลายประเทศที่การเข้าถึงข้อมูลนั้นยากหรือไม่ได้รับความร่วมมือของต่างประเทศ ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ลำบากกับทาง ป.ป.ช.อยู่เหมือนกันในการหาพยานหลักฐาน เพราะเราไม่สามารถบังคับประเทศต่างๆให้เปิดเผยข้อมูลได้
โดยนายนิวัติไชยได้ให้ทางนายนิติพันธุ์ ประจวบเหมาะ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ได้ชี้แจงในประเด็นเหล่านี้เพิ่มเติม ซึ่งนายนิติพันธุ์ได้กล่าวว่าข้อมูลเหล่านี้ทาง ป.ป.ช.ได้เฝ้าติดตามดูอยู่อย่างใกล้ชิด ประเทศไทยถือว่ามีความก้าวหน้ามากอยู่แล้วในเรื่องการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งในหลายๆประเทศยังไม่มีในส่วนนี้ที่เกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินเสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีเรื่องร้องเรียนจนเป็นคดีขึ้นมา ป.ป.ช.ก็จะมีการดำเนินการได้หลายช่องทาง อาทิ การขอความร่วมมือผ่าน พ.ร.บ. ระหว่างประเทศในคดีทางอาญาเป็นต้น