โควิดวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24,719 ราย หายป่วย 469,385 ราย เหลือกำลังรักษาตัว 208,846 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 42 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 และมีประวัติยังไม่ได้รับวัคซีนมากถึง 23 ราย จับตา กทม.-ชลบุรี-สมุทรปราการ-นครศรีธรรมราชป่วยเกินพันราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 24,719 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 24,527 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 24,360 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 167 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 72 ราย อีก 120 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,869,616 ราย ขณะที่มียอดผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) 15,708 ราย
หายป่วยเพิ่ม 16,875 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 208,846 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 955 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 268 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 42 ราย เป็นผู้สูงอายุ 35 ราย คิดเป็น 83% ป่วยเรื้อรัง 6 ราย คิดเป็น 14% รวม 97% เสียชีวิตสะสม 22,891 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 42 ราย โดยในจำนวนนี้ มาจาก กทม. 6 ราย สมุทรสาคร 3 ราย นครปฐม 2 ราย สมุทรปราการ 1 ราย สุรินทร์ 2 ราย อุบลราชธานี 2 ราย บุรีรัมย์ 1 ราย ตาก 2 ราย เชียงใหม่ 1 ราย เชียงราย 1 ราย แพร่ 1 ราย พิจิตร 1 ราย พิษณุโลก 1 ราย กระบี่ 5 ราย ภูเก็ต 2 ราย นราธิวาส 1 ราย ปัตตานี 2 ราย สตูล 1 ราย ชลบุรี 3 ราย สระแก้ว 2 ราย จันทบุรี 1 ราย ฉะเชิงเทรา 1 ราย ราชบุรี 1 ราย มีปัจจัยเสี่ยงมาจากโรคประจำตัว การอาศัยในพื้นที่ระบาด และการติดเชื้อจากคนใกล้ชิด
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 2,645 ราย ชลบุรี 1,434 ราย สมุทรปราการ 1,068 ราย นครศรีธรรมราช 1,011 ราย นครราชสีมา 882 ราย นนทบุรี 774 ราย สมุทรสาคร 734 ราย นครปฐม 713 ราย ภูเก็ต 683 ราย และระยอง 681 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 67,406 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 33,769 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 201,917 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 123,462,330 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 53,516,065 ราย คิดเป็น 76.9% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,707,279 ราย คิดเป็น 71.5% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 20,238,986 ราย คิดเป็น 29.1%
โดยมีผลการให้บริการวัคซีนโควิดกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จากเป้าหมาย 12,704,543 ราย ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 10,525,127 ราย คิดเป็น 82.8% เข็มที่สอง 9,948,817 ราย คิดเป็น 78.3% เข็มที่สาม 3,702,222 ราย คิดเป็น 29.1% และกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี จากเป้าหมาย 5,150,082 ราย ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 654,155 ราย คิดเป็น 12.7 เข็มที่สาม 15,562 ราย คิดเป็น 0.3%
เดินทางเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 120 สะสมเดือนนี้ 4.35 พันราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 120 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 41 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 107 ราย และแบบกักตัว (Quarantine) 6 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน ก.พ. สะสมรวม 4,350 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 1,390 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 2,715 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 245 ราย
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1.30 ล. รวมสะสม 434.88 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1,303,911 ราย รวม 434,888,523 ราย อาการหนัก 76,643 ราย หายป่วย 364,821,753 ราย เสียชีวิต 5,963,550 ราย โดย 3 ประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อเฉลี่ยย้อนหลัง 7 วันสูงสุด ได้แก่ เยอรมนี พบผู้ป่วย 1,135,211 ราย รวม 14,633,511 ราย เสียชีวิต 1,457 ราย รัสเซียพบผู้ป่วย 975,303 ราย รวม 16,175,023 ราย เสียชีวิต 5,403 ราย และเกาหลีใต้พบผู้ป่วย 973,274 ราย รวม 2,994,841 ราย เสียชีวิตเฉลี่ย 541 ราย ทั้งนี้ไทยยังติดอยู่อันดับที่ 20 ของโลก
ไทยติดโควิด 24,719 เสียชีวิต 42 ราย ยังไม่ได้รับวัคซีนมากถึง 23 ราย
อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 08.49 น. สำนักข่าวอิศรารายงานสถานการณ์โควิดประจำวันว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 24,719 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 24,599 ราย และผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 120 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 646,181 ราย
ขณะที่มีผู้หายป่วย 16,875 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสมระลอกใหม่ 469,385 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 208,846 ราย และมีผู้เสียชีวิต 42 ราย
ด้านผู้เสียชีวิต มีอายุระหว่าง 28-99 ปี มีค่ามัธยฐานเริ่มป่วย-เสียชีวิต 7 วัน พบเชื้อเสียชีวิต 3 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 คิดเป็น 97% จำแนกเป็น ผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี 35 ราย คิดเป็น 83% ป่วยเรื้อรัง 6 ราย คิดเป็น 14%
และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 1 ราย คิดเป็น 3% ซึ่งยังไม่ได้รับวัคซีน
ทั้งนี้ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด ยังไม่ได้รับวัคซีน 23 ราย คิดเป็น 55% ได้รับเพียงเข็มแรก 3 ราย คิดเป็น 7% ได้รับเข็ม 2 นาน 3 เดือน 11 ราย คิดเป็น 26% ได้รับเข็ม 2 ไม่เกิน 3 เดือน คิดเป็น 7% และได้รับเข็มสามแล้ว 2 ราย คิดเป็น 5%