โควิดวันนี้ ติดเชื้อนิวไฮ 23,557 ราย หายป่วย 16,131 ราย เหลือรักษาตัวอยู่ 180,993 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนักพุ่งต่อเนื่อง 905 ราย เสียชีวิต 38 ราย คร่าเด็ก 7 ปีป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว-เบาหวาน 1 ราย ด้าน กทม.ติดเชื้อสูงสุด 3,236 จับตาอีก 57 จว.ป่วยใหม่เกินร้อยราย ไทยขยับขึ้นอันดับที่ 22 ของโลก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 23,557 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 23,233 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 23,123 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 110 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 96 ราย อีก 228 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,794,350 ราย
หายป่วยเพิ่ม 16,131 ราย หายป่วยสะสม 2,590,589 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 180,993 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 905 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 240 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 38 ราย เป็นผู้สูงอายุ 28 ราย คิดเป็น 74% ป่วยเรื้อรัง 9 ราย คิดเป็น 23% เด็กอายุ 7 ปีป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและเบาหวาน 1 ราย รวม 100% เสียชีวิตสะสม 22,768 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 38 ราย มีอายุระหว่าง 7-97 ปี โดยในจำนวนนี้ มาจาก กทม. 10 ราย นครปฐม 2 ราย สมุทรปราการ 2 ราย นครพนม 1 ราย บุรีรัมย์ 1 ราย พิษณุโลก 3 ราย พิจิตร 2 ราย เชียงใหม่ 1 ราย ตาก 1 ราย ภูเก็ต 2 ราย กระบี่ 1 ราย ชุมพร 1 ราย ตรัง 1 ราย พังงา 1 ราย พัทลุง 1 ราย สตูล 1 ราย ลพบุรี 2 ราย จันทบุรี 2 ราย ระยอง 1 ราย สมุทรสงคราม 1 ราย และสระบุรี 1 ราย มีปัจจัยเสี่ยงมาจากโรคประจำตัว การอาศัยในพื้นที่ระบาด และการติดเชื้อจากคนใกล้ชิด
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 3,236 ราย ชลบุรี 1,250 ราย สมุทรปราการ 994 ราย นครศรีธรรมราช 899 ราย นนทบุรี 875 ราย สมุทรสาคร 790 ราย ราชบุรี 666 ราย ภูเก็ต 645 ราย ระยอง 642 ราย และนครราชสีมา 629 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 61,074 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 43,136 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 183,689 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 122,473,371 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 53,282,587 ราย คิดเป็น 76.6% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,582,984 ราย คิดเป็น 71.3% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 19,607,800 ราย คิดเป็น 28.2%
เดินทางเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 228 สะสมเดือนนี้ 3.95 พันราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 228 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 115 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 78 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 29 ราย และลักลอบ 6 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน ก.พ. สะสมรวม 3,955 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 1,135 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 2,583 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 237 ราย
ไทยขยับขึ้นอันดับ 22 ของโลก
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1,839,365 ราย รวม 430,112,281 ราย อาการหนัก 79,480 ราย หายป่วย 358,517,350 ราย เสียชีวิต 5,936,424 ราย โดยสามประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อเฉลี่ยย้อนหลัง 7 วันสูงสุด ได้แก่ เยอรมนีพบผู้ป่วยเฉลี่ย 1,165,693 ราย รวม 14,092,621 ราย เสียชีวิตเฉลี่ย 1,419 ราย รัสเซียพบผู้ป่วยเฉลี่ย 1,135,690 ราย รวม 15,795,570 ราย เสียชีวิตเฉลี่ย 5,433 ราย และเกาหลีใต้พบผู้ป่วยเฉลี่ย 776,331 ราย รวม 2,499,188 ราย เสียชีวิตเฉลี่ย 405 ราย ไทยจัดอยู่อันดับที่ 22 ของโลก
ติดเชื้อนิวไฮอีก 23,557 ยอด ATK 22,240 เสียชีวิต 38-หายป่วย 16,131
อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 08.40 น. สำนักข่าวอิศรารายงานสถานการณ์โควิดประจำวันว่า ในวันนี้มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 23,557 ราย ซึ่งยังเป็นยอดติดเชื้อสูงสุดหรือนิวไฮในรอบ 10 วัน ส่งผลทำให้มีผู้ติดเชื้อใหม่นั้บตั้งแต่ปี 2565 ทั้งสิ้น 570,915ราย ติดเชื้อสะสมตั้งแต่มีสถานการณ์ 2,794,350 ราย โดยแบ่งออกเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศ 23,329 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 228 ราย มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 38 ราย ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 22,768 ราย นับตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด ส่วนยอดผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่ต้นปี 2565 อยู่ที่ 1,070 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเข้าข่ายหรือ ATK อยู่ที่ 22,240 ราย
ขณะที่ข้อมูลการรักษานั้นพบว่ามีผู้หายป่วยรายใหม่รวม 16,131 ราย ทำให้นับตั้งแต่ต้นปี 2565 มีผู้หายป่วยรวมแล้ว 422,095 ราย หายป่วยสะสม 2,590,589 ราย มีผู้ป่วยที่กำลังรักษา 180,993 ราย เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 905 ราย และเป็นผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 240 ราย
ทั้งนี้ผู้ป่วยรายใหม่ 23,329 รายนั้น เป็นผู้ป่วยรายใหม่ใน 8 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว 6,917 ราย ฝุ้ป่วยรายใหม่ใน 18 จังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 5,887 ราย ผู้ป่วยในจังหวัดอื่น 10,429 ราย และผู้ป่วยในเรือนจำ 96 ราย ส่วนใน 3 จังหวัดแรกที่มีผู้ป่วยสูงสุดนั้น จังหวัดกรุงเทพมหานคร มีผู้ป่วยใหม่ 3,236 ราย จังหวัดชลบุรีมีผู้ป่วยใหม่ 1,250 ราย และจังหวัดสมุทรปราการมีผู้ป่วยใหม่ 994 ราย