'นิวัติไชย เกษมมงคล ' เลขาฯ ป.ป.ช. เผยทราบข่าวสื่อนอกเปิดโปง 'ธนาคารสวิส' ถูกใช้เป็นเส้นทางการเงินให้อาชญากร - มีคนไทยบัญชีนับพันรายแล้ว คงต้องมีการหารือตรวจสอบ ขรก.-นักการเมือง รายใดมีไม่แจ้งเข้าข่ายซุกซ่อนชัดเจน รับขอข้อมูลอาจลำบากเพราะติดข้อกฎหมายความลับในต่างประเทศ
สืบเนื่องจากสื่อต่างประเทศหลายแห่งได้รายงานข่าวเปิดโปงธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของโลกอันได้แก่ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยได้บอกเล่าถึงวิธีการที่ลูกค้าผู้ร่ำรวยของธนาคารนั้นได้ดำเนินการปกปิดความมั่งคั่งของพวกเขา ซึ่งความมั่งคั่งดังกล่าวนั้นมีที่มาอันไม่ถูกกฎหมาย อาทิ มาจากการทรมาน การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการทุจริตเป็นต้น ซึ่งในข้อมูลการเปิดโปงดังกล่าวยังได้มีการรายงานว่าประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่มีการเปิดบัญชีกับธนาคารเครดิตสวิสติดอันดับ 1 ใน 4 ของโลก โดยมีผู้เปิดบัญชีจากประเทศไทยทั้งสิ้นมากกว่า 1,000 บัญชี
จากกรณีดังกล่าว สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้สอบถามไปยังนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อสอบถามความเห็นในเรื่องนี้ โดยเฉพาะประเด็นที่อาจมีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองและข้าราชการในประเทศไทย ในการแอบไปเปิดบัญชีธนาคารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์และไม่ได้มีการแจ้งข้อมูลบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.
นายนิวัติไชย กล่าวว่า ได้รับทราบข่าวกรณีดังกล่าวแล้ว และกำลังให้มีการหารือในประเด็นดังกล่าวอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ในหลักการยื่นบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการนั้นผู้ยื่นจำเป็นจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินทั้งหมดรวมไปถึงบัญชีธนาคารที่อยู่ในต่างประเทศด้วย
เมื่อถามว่า ยังไม่เห็นว่าเคยมีผู้ที่ยื่นทรัพย์สินว่ามีบัญชีสวิสรวมอยู่ด้วย นายนิวัติไชยกล่าวว่า "ก็เป็นไปได้ 2 อย่างว่าเขาอาจจะไม่มีบัญชีหรือไม่ก็มีเจตนาปกปิด"
เมื่อถามต่อว่าหลังจากที่ปรากฎเป็นข่าวแล้ว ตามหลักการแล้ว ป.ป.ช.จะดำเนินการอะไรได้หรือไม่ โดยเฉพาะกับกรณีที่ธนาคารเครดิตสวิสมีบริษัทย่อยอยู่ในประเทศไทยด้วย
นายนิวัติไชยกล่าวว่า "ถ้าเราขอทราบข้อมูลไปแล้วเขาจะยอมเปิดเผยข้อมูลหรือไม่ ซึ่งถ้ามีข่าวแบบนี้ก็ต้องตรวจสอบก่อน"
นายนิวัติไชย กล่าวต่อไปว่า "กรณีถ้าหากพบว่ามีกรณีข้าราชการหรือนักการเมืองคนไหนมีบัญชีธนาคารสวิสอยู่แล้วไม่ได้ยื่น ก็ต้องให้เขาชี้แจงว่าเขาจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าหลังจากมีข่าวนี้ออกไป ก็คงไม่ส่งผลทำให้มีใครต้องรีบมายื่นบัญชีทรัพย์สินกับ ป.ป.ช.เพิ่มเติมในส่วนของบัญชีสวิสเพราะว่าการมายื่นบัญชีทรัพย์สินภายหลังดังกล่าวนั้นอาจจะเข้าข่ายว่าปกปิดบัญชีทรัพย์สินก็ได้ และถ้าหากพบว่าในบัญชีสวิสมีเงินจำนวนมาก ก็หมายความว่าเขามีเจตนาที่จะซุกซ่อนชัดเจน"
"ถ้าเขามายื่นภายหลังแบบนี้ จะอ้างเหตุผลว่าหลงลืมไม่ได้มายื่นบัญชีทรัพย์สินในครั้งแรกก็คงจะลำบากแล้ว" นายนิวัติไชยกล่าว
เมื่อถามว่าตามหลักการแล้วการทำงานของ ป.ป.ช. การจะขอดูหรือขอข้อมูลจากบริษัทธนาคารในประเทศที่มีหลักกฎหมายความลับทางธนาคารในระดับที่ค่อนข้างสูง ป.ป.ช.จะดำเนินการอย่างไร
นายนิวัติไชยกล่าวว่า ป.ป.ช.จะมีหน่วยงานที่ประสานกับหน่วยงานในต่างประเทศ ก็ต้องดูหน่วยงานในต่างประเทศที่ว่ามานั้นสามารถจะไปเชื่อมโยงกับทางธนาคารของเอกชนในต่างประเทศได้หรือไม่
เมื่อถามว่า ณ เวลานี้ ป.ป.ช.จะยื่นเรื่องเพื่อขอให้เปิดเผยว่ามีใครเป็นลูกค้าของธนาคารในไทยได้หรือไม่
นายนิวัติไชยกล่าวว่า "คงจะไม่ได้ เขาคงจะไม่ได้ เพราะกฎหมายเขาก็อาจจะมีการรักษาความปลอดภัยของกลุ่มลูกค้า ซึ่งตรงนี้ก็ยอมรับว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของ ป.ป.ช.พอสมควร แต่ถ้าหากเขา (เครดิตสวิส) ส่งข้อมูลทางบัญชีมาให้กับเราได้บ้างก็จะเป็นเรื่องดี"
นายนิวัติไชยกล่าวต่อว่า หลังจากที่มีข่าวนี้ปรากฎออกมา คาดว่า ป.ป.ช.ก็คงต้องพูดคุยและหารือกันต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องของการเข้าถึงและตรวจสอบข้อมูล เพราะตอนนี้ยังเป็นแค่กระแสข่าวแต่ขอเรียนว่าทาง ป.ป.ช.นั้นได้มีการดำเนินการมาโดยตลอด แต่ในบางเรื่องอาจจะไม่ได้ประชาสัมพันธ์เท่านั้นเอง