ศบค.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,363 ราย หายป่วย 15,651 ราย เหลือกำลังรักษาตัวอยู่ 169,074 ราย เป็นผู้ป่วยหนักพุ่ง 827 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มอีก 214 ราย เสียชีวิตนิวไฮ 35 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ขณะที่คร่าเด็กวัย 14 ปีป่วยเป็นลมชักด้วย 1 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2565 ศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 18,363 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 18,205 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 18,129 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 76 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 31 ราย อีก 127 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,749,561 ราย
หายป่วยเพิ่ม 15,651 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 169,074 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 827 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 214 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 35 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 22,691 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 35 ราย มาจาก กทม. 8 ราย ปทุมธานี 1 ราย สมุทรปราการ 1 ราย ร้อยเอ็ด 3 ราย บึงกาฬ 2 ราย บุรีรัมย์ 1 ราย ศรีสะเกษ 1 ราย สกลนคร 1 ราย เชียงใหม่ 4 ราย แม่ฮ่องสอน 1 ราย สุโขทัย 1 ราย กระบี่ 2 ราย ลพบุรี 1 ราย สระบุรี 1 ราย และสุพรรณบุรี 1 ราย มีอายุระหว่าง 14 - 93 ปี จำแนกเป็น ผู้สูงอายุ 30 ราย หรือ 86% ผู้ป่วยเรื้อรัง 4 ราย หรือ 11% และเด็กไทยอายุ 14 ปี 1 ราย หรือ 3% มีโรคประจำตัวเป็นลมชัก
โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว อาศัยในพื้นที่ระบาด และติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 2,638 ราย ชลบุรี 929 ราย สมุทรปราการ 887 ราย นนทบุรี 792 ราย นครศรีธรรมราช 741 ราย นครราชสีมา 716 ราย ภูเก็ต 660 ราย สมุทรสาคร 593 ราย นครปฐม 479 ราย และสุรินทร์ 425 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 36,655 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 24,981 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 129,037 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 121,915,999 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 53,163,555 ราย คิดเป็น 76.4% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,496,871 ราย คิดเป็น 71.2% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 19,255,573 ราย คิดเป็น 27.7%
เดินทางเข้าไทย ก.พ. ติดเชื้อใหม่ 127 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 127 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 64 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 57 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 3 ราย และลักลอบ 3 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน ก.พ. สะสมรวม 3,619 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 933 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 2,454 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 232 ราย
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1.24 ล. รวมสะสม 426.38 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1,248,450 ราย รวม 426,389,058 ราย อาการหนัก 81,243 ราย หายป่วย 353,317,816 ราย เสียชีวิต 5,909,184 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 27,798 ราย รวม 80,145,282 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 294 ราย รวม 960,157 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 11,542 ราย รวม 42,850,066 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 230 ราย รวม 512,371 ราย บราซิล พบเพิ่ม 42,379 ราย รวม 28,250,591 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 333 ราย รวม 644,695 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 32 ของโลก
ไทยติดโควิด 18,363 หายป่วย 15,651 เสียชีวิตนิวไฮ 35 ราย
อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 07.49 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานสถานการณ์โควิดวันนี้ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 18,363 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 18,236 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 31 ราย อีก 127 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 526,126 ราย
หากจำแนกผู้ป่วยออกเป็นรายพื้นที่ แบ่งออกเป็น ผู้ป่วยใน 8 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวเต็มพื้นที่ 5,851 ราย ผู้ป่วยใน 18 จังหวัดที่มีพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวอื่นๆ 4,876 ราย และผู้ป่วยในจังหวัดอื่นๆ 7,478 ราย
หายป่วยเพิ่ม 15,651 ราย รวมหายป่วยสะสมระลอกใหม่ 389,302 ราย เหลือกำลังรักษาตัว 169,074 ราย เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 827 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 214 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 35 ราย รวมเสียชีวิต 993 ราย