ป่วยโควิดเพิ่ม 18,883 ราย อาการหนัก 749 ราย สะสม 2.73 ล้านราย ตาย 32 ราย เป็นผู้ฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม ถึง 13 ราย ขณะที่พบ 51 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกินร้อย จับตานครศรีธรรมราชพุ่งขึ้นอันดับ 2 ติดเชื้อเกือบพัน ส่วนนักท่องเที่ยวเข้าไทยติดเชื้อใหม่ 162 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2565 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ รองโฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 18,883 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 18,704 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 18,618 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 86 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 17 ราย อีก 162 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,731,198 ราย
หายป่วยเพิ่ม 14,914 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 166,397 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 796 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 202 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 32 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 22,656 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 32 ราย มาจาก กทม. 6 ราย ปริมณฑล 2 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 ราย ภาคเหนือ 4 ราย ภาคใต้ 7 ราย และภาคกลาง 4 ราย แบ่งเป็นชาย 13 ราย หญิง 19 ราย อายุระหว่าง 28 - 92 ปี โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ส่วนปัจจัยเสี่ยงสูงสุดมาจาติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว เพื่อน อาศัยในพื้นที่ระบาด และประกอบอาชีพเสี่ยง
"ผู้เสียชีวิตในวันนี้มีอยู่ 19 ราย ที่ไม่เคยรับการฉีดวัคซีนโควิดเลย ส่วนอีก 8 ราย ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม แล้ว แต่นานเกิน 4 เดือน และอีก 5 ราย ได้วัคซีน 2 เข็ม ยังอยู่ในระยะ 4 เดือน แต่ยังไม่ได้รับการฉีดเข็มกระตุ้น" พญ.อภิสมัย กล่าว
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 2,753 ราย นครศรีธรรมราช 960 ราย สมุทรปราการ 926 ราย ชลบุรี 884 ราย นนทบุรี 852 ราย ภูเก็ต 628 ราย นครราชสีมา 563 ราย ระยอง 475 ราย นครปฐม 429 ราย และบุรีรัมย์ ปทุมธานี 421 ราย
พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า สำหรับสถานการณ์การระบาดในประเทศ พบว่ามีถึง 51 จังหวัดที่มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เกินร้อย โดยมากที่สุดที่ภาคกลาง 15 จังหวัด ตามด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14 จังหวัด ภาคใต้ 9 จังหวัด ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด และน่าจับตาภาคเหนือ ที่พบเกินร้อยเพิ่มขึ้นเป็น 4 จังหวัด
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ เมื่อวันที่ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 26,544 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 13,130 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 101,987 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 121,725,326 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 53,126,900 ราย คิดเป็น 76.4% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,471,890 ราย คิดเป็น 71.1% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 19,126,536 ราย คิดเป็น 27.5%
เดินทางเข้าไทย ก.พ. ติดเชื้อใหม่ 162 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 162 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 76 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 58 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 20 ราย และลักลอบ 8ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน ก.พ. สะสมรวม 3,495 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 869 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 2,397 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 229 ราย
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1.27 ล. รวมสะสม 424.99 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1,279,979 ราย รวม 424,990,285 ราย อาการหนัก 81,525 ราย หายป่วย 350,515,903 ราย เสียชีวิต 5,906,093 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 15,056 ราย รวม 80,087,617 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 282 ราย รวม 959,412 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 15,487 ราย รวม 42,837,960 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 206 ราย รวม 512,141 ราย บราซิล พบเพิ่ม 40,625 ราย รวม 28,208,212 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 424 ราย รวม 644,362 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 32 ของโลก
ไทยติดโควิด 18,883 หายป่วย 14,914 เสียชีวิตเพิ่ม 32 ราย
อนึ่งเมื่อเวลาประมาณ 07.50 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2565 พบผู้ป่วยรายใหม่ 18,883 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 18,883 ราย และผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 162 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 507,763 ราย
ผู้ติดเชื้อแบ่งออกตามรายพื้นที่ แบ่งเป็น ผู้ป่วยใน 8 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว 5,965 ราย ผู้ป่วย 18 จังหวัดในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวอื่นๆ 4,995 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดอื่นๆ 7,744 ราย และเป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 17 ราย
ขณะที่มีผู้หายป่วย 14,914 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสมระลอกใหม่ 373,651 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 166,397 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 796 ราย ต้องท่อช่วยหายใจ 202 ราย และมีผู้เสียชีวิต 32 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 958 ราย