นายทะเบียนพรรคการเมือง ชง กกต.ตีตกคำร้องตรวจสอบมติ พปชร.ขับ 21 ส.ส. ‘ก๊วนธรรมนัส’ อ้างจำนวนผู้ร้องไม่ครบตามกฎหมาย จับตา กกต.นัดประชุมอีกครั้ง 15 ก.พ. ขณะที่ ‘เอกราช-วัฒนา ช่างเหลา’ สมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทยแล้ว
เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2565 มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ได้มีการพิจารณาคำร้องกรณี นายสมัย รามัญอุดม พร้อมพวก รวม 155 คน ซึ่งอ้างตัวเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นคำร้องต่อ กกต.ว่า มติของพรรค พปชร.ที่ให้ขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พร้อม ส.ส.รวม 21 คนออกจากพรรค ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และคำร้องที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือขอให้ กกต.ตรวจสอบมติ พปชร.กรณีขับ 21 ส.ส.ออกจากพรรคว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แม้ก่อนหน้านี้ จะมีกระแสข่าวว่า จะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในการประชุม กกต.ก็ตาม แต่ทั้งนี้ กกต.ยังมีนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 15 ก.พ. จึงต้องจับตาดูว่าจะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาหรือไม่ และจะมีมติอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้ทันวันที่ 18 ก.พ.2565 ซึ่งจะครบกรอบเวลา 30 วัน ที่กลุ่ม 21 ส.ส.ต้องหาพรรคใหม่สังกัดหลังจากถูกขับพ้นพรรคพลังประชารัฐ
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า คำร้องของ นายศรีสุวรรณ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความถูกต้องของมติพรรคการเมือง ผู้มีอำนาจวินิจฉัยโดยตรง คือ เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง
ส่วนกรณีคำร้องของนายสมัยนั้น จะเป็นอำนาจของ กกต.ที่จะทำหน้าที่พิจารณา ซึ่งก่อนหน้านี้ นายแสวง บุญมี รักษาการเลขาธิการ กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมืองได้มีความเห็นต่อเรื่องนี้เสนอ กกต.ว่า กกต.ไม่ควรรับคำร้องนายสมัย เนื่องจากตรวจสอบรายชื่อการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่นายสมัย และพวกทั้ง 155 คน ยื่นกับระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ทางพรรคเป็นผู้คีย์เข้าระบบ พบว่า มีชื่อเป็นสมาชิกเพียง 99 ราย คำร้องดังกล่าวจึงไม่ถูกต้องตาม มาตรา 42 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองที่กำหนดว่า ในกรณีสมาชิกซึ่งเป็น ส.ส.คนหนึ่งคนใด หรือสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 100 คน เห็นว่า มติของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกอยู่ขัดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองนี้หรือกฎหมายอื่น ให้มีสิทธิร้องต่อ กกต.เพื่อพิจารณาวินิจฉัย และ กกต.ได้มีมติเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565 รับทราบการดำเนินการของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2565 แล้วว่าเป็นไปตามกฎหมาย แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กกต.ว่าจะมีความเห็นอย่างไร
ทั้งนี้คำร้องที่นายสมัยมายื่นในวันนี้ ขอให้ชะลอการพิจารณาและให้ตรวจสอบรายชื่อสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ 155 คน ที่ยื่นว่ามติขับ 21 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐไม่ชอบใหม่นั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการรับเรื่องและตรวจสอบคำร้องเบื้องต้นของทางสำนักงาน ซึ่งต้องดำเนินการตามขั้นตอน จึงไม่น่าจะเข้าพิจารณาในคราวเดียวกัน แต่อาจจะมีการรายงานให้ กกต.ทราบ
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าว กกต.ให้ความเห็นว่าต่อกรอบเวลาในเรื่องนี้ ว่า กฎหมายพรรคการเมืองไม่ได้กำหนดกรอบเวลาไว้ชัดเจนว่า กกต. จะต้องตอบรับการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค หรือแจ้งรับทราบมติการขับสมาชิกพรรค ภายในกี่วัน โดยเห็นว่า ตามกฎหมายพรรคการเมืองปัจจุบัน เมื่อพรรคมีมติก็จะถือว่ามีผลในทางกฎหมายทันที แตกต่างกับกฎหมายพรรคการเมืองในอดีตที่แม้พรรคการเมืองมีมติ แต่ต้องรอการตอบรับจากนายทะเบียนพรรคการเมืองจึงจะมีผลทางกฎหมาย ดังนั้น จึงเห็นว่าในกรณีนี้ เมื่อพรรคมีมติขับ 21 ส.ส. ผลทางกฎหมายเกิดขึ้นทันที โดย 21 ส.ส. ต้องหาพรรคการเมืองใหม่สังกัดภายใน 30 วัน ซึ่งหากต่อมานายทะเบียนพรรคการเมือง หรือ กกต. เห็นว่ามติขับไม่ถูกต้องและสั่งเพิกถอน ก็เท่ากับว่า 21 ส.ส.ยังคงเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเช่นเดิม
ทั้งนี้ ปัจจุบันอดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 21 คน ที่ถูกขับในจำนวนนี้ 18 คน สมัครเป็นสมาชิกและทำหน้าที่เป็น ส.ส.ในนามพรรคเศรษฐกิจไทยแล้ว นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา ยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนจาก กกต.
ขณะที่ นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเรียบร้อยแล้ว