'ประยุทธ์' เรียกผู้เกี่ยวข้อง ติดตามความก้าวหน้าไทย-ซาอุฯ 'ดอน' ยัน 'มกุฎราชกุมาร' เยือนไทยปีนี้ ด้าน 'สุชาติ' เผยนายกฯ ย้ำส่งแรงงานไทยไปซาอุฯ ให้ทำแบบรัฐต่อรัฐ ป้องกันปัญหานายหน้าค้ากำไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เรียกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือเพื่อติดตามความก้าวหน้าและความร่วมไทยและราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ภายหลังเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 25-26 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
จากนั้นเมื่อเวลา 16.30 น. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรอบการหารือวันนี้ เราพูดทุกเรื่อง และเป็นส่วนหนึ่งของงานที่เดินทางไปซาอุฯ ที่ครอบคลุมทุกอย่าง ส่วนเรื่องการขุดเจาะน้ำมัน A6 นั้นไม่มีการพูดเรื่องนี้ โดยในเรื่องของพลังงานนั้น ทั้งสองประเทศได้พูดคุยกันเป็นไปได้ด้วยดี แต่ก็ยังมีอะไรที่เราต้องเดินต่อกันไปอีกมาก ส่วนความคืบหน้าการส่งแรงงานไทยไปซาอุดีอาระเบียเป็นอีกเรื่องที่พุดคุยกัน โดยรัฐมนตรีแรงงานทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันบนพื้นฐานที่ผู้นำทั้งสองประเทศได้ตกลงกัน ที่จะเร่งรัดดำเนินการทั้ง 9 ด้านที่เคยพูดคุยกัน
นายดอน กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการเดินทางเยือนประเทศไทยของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีช อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียนั้น ขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมที่ครบถ้วนมากกว่านี้ เพราะเราต้องเตรียมการหลายๆ ด้านด้วยกันทั้งสองฝ่าย ส่วนช่วงเวลายืนยันว่าภายในปีนี้ แต่ยังไม่กำหนดวัน อยู่ที่ความพร้อมของทั้งสองฝ่าย เป็นเรื่องปกติของการเดินทางเยือนต่างประเทศที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกัน รวมถึงความพร้อมของภารกิจที่จะต้องทำร่วมกันในระหว่างเยือน
ด้าน นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การหารือในวันนี้ การดำเนินการความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยเฉพาะการแต่งตั้งทูตนั้นกำลังดำเนินการอยู่ เช่นเดียวกับกำหนดการเยือนของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีช อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร ก็กำลังดำเนินการอยู่เช่นกัน
ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า โอกาสด้านการลงทุนกับซาอุดิอาระเบียนั้น ได้มีการหารือกันอยู่ทั้งสองประเทศ ส่วนที่นายฯสั่งการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 2 เดือน ขณะนี้ก็มีการตั้งประเด็น 8 หัวข้อที่จะมีการพูดคุยกัน แต่จะต้องดูรายละเอียดทั้งหมดจากกระทรวงการต่างประเทศก่อน เช่นเรื่องพลังงาน และซอร์ฟพาวเวอร์ ซึ่งเราจะพยายามทำให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 2 เดือน
ขณะที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า ได้นำเรียนให้นายกรัฐมนตรีรับทราบถึงความคืบหน้าการจัดทำข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งแรงงานระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งขณะนี้กระทรวงแรงงานได้จัดทำรายละเอียดเสร็จแล้วกว่าที่คาดการณ์ประมาณ 1 เดือน ขณะนี้ได้ส่งร่างข้อตกลงให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจแล้ว และคาดว่าจะจะมีการลงนามในข้อตกลงร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศในช่วงเดือน มี.ค.
รมว.แรงงาน กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่าการส่งแรงงานไปที่ซาอุดีอาระเบีย ควรจะเป็นกลุ่มที่มีทักษะฝีมือแรงงาน พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังอยากให้การจัดส่งแรงงานในระยะแรก เป็นการดำเนินการระหว่างรัฐต่อรัฐ เพื่อไม่ให้ประชาชนมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่านายหน้า ทั้งนี้หากเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าไม่เกิน 2 ไตรมาส เรื่องการจัดส่งแรงงานน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น