ป่วยโควิดเพิ่ม 8,450 ราย อาการหนัก 528 ราย สะสม 2.41 ล้านราย ตาย 28 ราย เป็นผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนถึง 15 ราย ส่วนนักท่องเที่ยวเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 211 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2565 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 8,450 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 8,191 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 8,153 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 38 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 48 ราย อีก 211 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,415,472 ราย
ถ้ารวมกับผู้ติดเชื้อเข้าค่าย ATK เป็นบวก 2,439 ราย จะมีผู้ติดเชื้อสูงถึง 10,889 ราย
หายป่วยเพิ่ม 7,484 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 83,698 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 528 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 102 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 28 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 22,126 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 28 ราย โดยในจำนวนนี้ มาจาก กทม. 2 ราย ปริมณฑล 3 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 ราย ภาคเหนือ 1 ราย ภาคใต้ 9 ราย และภาคกลาง 6 ราย แบ่งเป็นชาย 17 ราย หญิง 11 ราย อายุระหว่าง 17-93 ปี โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ส่วนปัจจัยเสี่ยงสูงสุดมาจาติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว เพื่อน อาศัยในพื้นที่ระบาด และประกอบอาชีพเสี่ยง
"ในวันนี้พบผู้เสียชีวิตเป็นผู้ป่วยติดเตียงด้วย 1 ราย และ 23 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป และ 4 รายอายุน้อยกว่า 60 ปี แต่มีโรคเรื้อรัง ไม่มีโรคเรื้อรัง 1 ราย โดยส่วนใหญ่ติดเชื้อจากบุคคลใกล้ชิด หรือคนรู้จัก นอกจากนี้ยังพบว่าในจำนวนผู้เสียชีวิต 28 ราย ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ถึง 15 ราย ฉีดเข็มแรกแล้ว 3 ราย และอีก 10 ราย ฉีดครบ 2 เข็ม แต่ระยะไม่เกิน 6 เดือน" พญ.อภิสมัย กล่าว
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 1,292 ราย สมุทรปราการ 743 ราย นนทบุรี 499 ราย ชลบุรี 446 ราย ภูเก็ต 379 ราย ปทุมธานี 245 ราย ราชบุรี 239 ราย นครราชสีมาา 192 ราย ศรีสะเกษ 182 ราย และลพบุรี 168 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ เมื่อวันที่ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 43,799 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 82,138 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 339,217 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 114,087,421 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 52,218,270 ราย คิดเป็น 75.1% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 48,437,177 ราย คิดเป็น 69.6% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 13,431,974 ราย คิดเป็น 19.3%
พญ.อภิสมัย รายงานว่า จังหวัดที่มีร้อยละของประชากรได้นับวัคซีนเข็ม 1 ไม่เกิน 60% มีอยู่ 7 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี นราธิวาส แม่ฮ่องสอน ตาก ลพบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี โดยกาญจนบุรี เป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวด้วย ส่วนจังหวัดที่การฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็ม 1 ในกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรัง ที่ยังต่ำกว่า 60% ได้แก่ ปัตตานี ราชบุรี และกาญจนบุรี
"วัคซีนเข็ม 1 ยังต้องช่วยกันรณรงค์ เราทุกคนไม่มีทางปลอดภัยได้ ถ้าทุกคนไม่ปลอดภัย" พญ.อภิสมัย กล่าว
เดินทางเข้าไทย ม.ค. ติดเชื้อใหม่ 211 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 211 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 24 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 148 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 36 ราย และลักลอบ 3 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน ม.ค. สะสมรวม 6,194 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 2,652 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 2,867 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 675 ราย
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 3.49 ล. รวมสะสม 366.69 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 3,495,466 ราย รวม 366,694,267 ราย อาการหนัก 95,938 ราย หายป่วย 289,771,609 ราย เสียชีวิต 5,656,642 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 497,351 ราย รวม 74,695,333 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,689 ราย รวม 902,140 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 248,697 ราย รวม 40,620,197 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 627 ราย รวม 492,356 ราย บราซิล พบเพิ่ม 228,972 ราย รวม 24,782,922 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 662 ราย รวม 625,169 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 29 ของโลก
ไทยป่วยโควิดใหม่ 8,239 ตายเพิ่ม 28 เป็นผู้สูงอายุ-มีโรคประจำตัว 27 ราย
อนึ่งเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2565 พบผู้ป่วยรายใหม่ 8,450 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 8,239 ราย ในเรือนจำ 48 ราย อีก 211 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมระลอก ม.ค. 192,037 ราย
ทั้งนี้ มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่มเติม 7,484 ราย สะสมรวมระลอก ม.ค. 141,154 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 83,698 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 528 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 102 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 28 ราย เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว 27 ราย
เป็นผู้ป่วยในพื้นที่ 8 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวเต็มพื้นที่ 3,048 ราย จากพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวอื่นๆ 2,283 ราย และจังหวัดอื่นๆ 2,860 ราย