ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎหมายป้องกันการฟ้องคดีปิดปาก ตามที่ ป.ป.ช.โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท ส่วนพนักงานรัฐโดนโทษ 2 เท่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค.2565 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการฟ้องคดีปิดปากในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติมิชอบ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการดำเนินคดีหรือฟ้องคดีปากและมีกฎหมายคุ้มครองบุคคลที่แสดงความเห็นหรือเปิดโปงเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบ
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นการกำหนดกลไกส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการต่อต้านหรือชี้เบาะแสการทุจริตและประพฤติมิชอบ และจะได้รับความคุ้มครองจากรัฐตามกฎหมาย โดยกำหนดให้คุ้มครองแก่บุคคลที่ได้แสดงความคิดเห็น ให้ถ้อยคำ แจ้งเบาะแสหรือข้อมูล รวมถึงมีการกล่าวหาเกี่ยวกับการกระทำของพนักงานของรัฐหรือบุคคลใดอันเป็นที่มาของการสอบสวน การตรวจสอบ หรือการไต่สวนในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติมิชอบ และบุคคลดังกล่าวตกเป็นเหยื่อจากการถูกนำกระบวนการยุติธรรมมาใช้เป็นเครื่องมือโดยมิชอบ หรือกลั่นแกล้ง ด้วยวิธีการฟ้องคดีปิดปากไม่ว่าจะเป็นการถูกฟ้องคดีในทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง รวมถึงการดำเนินการทางวินัย
สำหรับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีสาระสำคัญที่น่าสนใจ ดังนี้
1.กำหนดบทนิยาม ‘การฟ้องคดีปิดปาก’ หมายความว่า การนำกระบวนการยุติธรรมด้วยวิธีการเสนอข้อหาต่อศาล ไม่ว่าจะเป็นทางอาญา ทางแพ่ง หรือทางปกครอง รวมถึงคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีเดิมที่ได้มีการเสนอข้อหาต่อศาลไว้ก่อนแล้ว ซึ่งกระทำในลักษณะการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อกลั่นแกล้งหรือเอาเปรียบบุคคลใด มาใช้เป็นเครื่องมือ
2.กำหนดลักษณะของการดำเนินคดีหรือการฟ้องคดีปิดปาก อาทิ 1) การดำเนินคดีหรือการฟ้องคดี ซึ่งมีสาเหตุมาจากกรณีที่ผู้ถูกฟ้องได้แสดงความคิดเห็น ให้ถ้อยคำ แจ้งเบาะแสหรือข้อมูล จัดทำคำร้องหรือคำกล่าวหาเกี่ยวกับการกระทำที่เป็นความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติมิชอบ 2) การดำเนินคดีหรือการฟ้องคดีอันมีลักษณะของการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อการแกล้งหรือเอาเปรียบผู้ถูกดำเนินคดี
3.กรณีที่พนักงานสอบสวน หรือพนักงานอัยการ หรือผู้ถูกฟ้องคดี เห็นว่าการดำเนินคดีหรือฟ้องคดี อาจเข้าข่ายเป็นลักษณะการฟ้องคดีปิดปากตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานสอบสวน หรือพนักงานอัยการ มีอำนาจตรวจสอบ สอบสวน หรือทำความเห็นในคดีได้
4.กำหนดให้ผู้ถูกฟ้องคดีปิดปากมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากผู้ฟ้องคดีปิดปาก โดยกำหนดให้ศาลมีอำนาจกำหนดมูลค่าความเสียหายจากการถูกฟ้องคดีปิดปาก ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของกฎหมายป้องกันการฟ้องคดีปิดปากในระดับสากล
น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า สำหรับการการกำหนดโทษ มีประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ กรณีที่มีการฟ้องคดีปิดปากตามกฎหมายนี้ ผู้ฟ้องคดีมีสถานะเป็นพนักงานของรัฐและเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ให้ถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดทางวินัยหรือเป็นเหตุแห่งการถอดถอนออกจากตำแหน่ง ในกรณีศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง เพราะเหตุว่าการฟ้องคดีมีลักษณะเป็นการฟ้องคดีปิดปาก และผู้ฟ้องคดีเป็นพนักงานของรัฐ ให้ถือว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดทางวินัยหรือเป็นเหตุแห่งการถอดถอนออกจากตำแหน่งด้วย
ส่วนกรณีที่ ผู้ใดกระทำการไม่สุจริต ได้ยื่นฟ้องคดีปิดปาก ในลักษณะเพื่อกลั่นแกล้งบุคคลให้ต้องรับโทษทางอาญาหรือได้นำความอันเป็นเท็จยื่นฟ้องต่อศาลเป็นคดีอาญา หรือเข้าลักษณะเป็นการฟ้องคดีเพื่อต่อรองหรือข่มขู่ ให้ถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเป็นพนักงานของรัฐเป็นผู้กระทำต้องระวางโทษเป็น 2 เท่าของโทษที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ ลำดับต่อไป จะส่งร่างกฎหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม สำนักงาน ก.พ.ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอรัฐสภาต่อไป
น.ส.รัชดา กล่าวย้ำว่า เมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเพิ่มมาตรการป้องกันการดำเนินคดีหรือการฟ้องคดีปิดปาก ซึ่งจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นการขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบในทุกวงการของสังคมไทย