เผยคำพิพากษาศาลฎีกา ตัดสินยืนโทษคุก 1 ปี หนุ่มใหญ่สหกรณ์ออมทรัพย์บินไทย ปลอมใบมรณบัตร 'เมีย' รับเงินสงเคราะห์ 5.3 แสน หลังฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบา-รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมา ศาฎีกา มีคำพากษาตัดสินยืนโทษ จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมศักดิ์ นงค์เยาว์ สมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) จำเลย กรณีปลอมใบมรณบัตรและทะเบียนบ้านปลอม นางเพียงใจ นงค์เยาว์ ภรรยา เพื่อขอรับเงินสงเคราะห์ตามสิทธิเป็นจำนวนเงิน 534,449 บาท ทั้งที่ ความเป็นจริงแล้ว นางเพียงใจ ยังไม่ได้เสียชีวิต นายสมศักดิ์ ยังไม่มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์ดังกล่าว
หลังจากที่ในการพิจารณาของศาลชั้นต้น นายสมศักดิ์ นงค์เยาว์ ให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 , 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265 จำเลยเป็นผู้ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ให้ลงโทษฐานใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคสอง แต่กระทงเดียว จำคุก 2 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ขอให้ศาลฯ ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุก
แต่ศาฎีกามีคำพากษายืน ตัดสินลงโทษจำคุก 1 ปี ดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ระบุว่า ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ
ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้น หรือเป็นผู้แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความนั้นเองให้ลงโทษตามมาตรานี้แต่กระทงเดียว