นายกฯสั่งการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาปรับกฎหมายอภัยโทษ ให้เป็นไปตามหลักการลงโทษอาญาที่เป็นสากลและเพื่อรักษาความปลอดภัยของสังคม พร้อมขอให้พิจารณาเพิ่มเติมในประเด็นทัศนคติ-การเลื่อนชั้นนักโทษ เสนอให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีข้อสั่งการเกี่ยวกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการอภัยโทษ ดังนี้
ตามที่นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 337/2564 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 2564 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการอภัยโทษขึ้นดำเนินการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวและเสนอแนะแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมนั้น
คณะกรรมการได้รายงานผลการตรวจสอบและมีข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่กำหนด สรุปความได้ว่า การขอพระราชทานอภัยโทษทุกครั้งที่ผ่านมาดำเนินการตามแนวทางเดียวกัน อย่างไรก็ตามได้มีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรมรับไปดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในการอภัยโทษการเว้นช่วงเวลาการอภัยโทษ การกำหนดสัดส่วนการลดโทษ การกำหนดระยะเวลาปลอดภัย การกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับการอภัยโทษเฉพาะสำหรับฐานความผิดบางฐาน รวมทั้งการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผู้ซึ่งจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ
นายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว มีข้อสั่งการให้กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) รับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการไปพิจารณาดำเนินการให้เป็นรูปแบบโดยเร็ว เพื่อให้การขอพระราชทานอภัยโทษในวโรวกาสสำคัญที่จะมีขึ้นต่อไป เป็นไปโดยปราศจากข้อห่วงกังวลของสาธารณชน ในกรณีต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติราชทัณฑ์หรือกฎระเบียบใดให้เป็นไปตามหลักการนี้ ก็ขอให้เสนอมาด้วย และได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาเพิ่มเติมในประเด็นดังต่อไปนี้ด้วย
-
ผู้อยู่ในข่ายจะได้รับการเสนอชื่อเพื่อขอรับพระราชทานอภัยโทษต้องให้ความสำคัญแก่ทัศนคติหรือความสำนึกผิดชอบชั่วดีในความผิดที่ตนได้กระทำลง และการกระตือรือร้นเต็มใจจะกลับตนเป็นพลเมืองดีของสังคมมากกว่าการเป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อยหรือไม่ก่อความวุ่นวายในระหว่างต้องโทษ ซึ่งโดยปกติผู้ต้องโทษต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้สำหรับผู้ต้องโทษอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นรายกรณี และบุคคลดังกล่าวควรต้องรับโทษตามคำพิพากษาอันถึงที่สุดมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 และสัดส่วนการลดโทษนั้น ควรเสนอลดโทษไม่เกิน 1 ใน 4
ทั้งนี้เพื่อให้การลงโทษอาญาแก่ผู้กระทำความผิดเป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักการลงโทษอาญาที่เป็นสากลและเพื่อรักษาความปลอดภัยของสังคม -
ปรับปรุงกระบวนการจัดชั้นและเลื่อนชั้นนักโทษ การตรวจสอบรายชื่อ รวมทั้งพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความสำนึกผิดชอบชั่วดีของผู้เสนอชื่อ เพื่อรับพระราชทานอภัยโทษ โดยให้พนักงานอัยการหรือศาลเข้ามามีส่วนร่วมในการประเมินพฤติกรรมและให้ความเห็นประกอบด้วย
-
ให้กระทรวงยุติธรรม/กรมราชทัณฑ์ นำเสนอแนวปฏิบัติหรือปรับปรุงกฎระเบียบตามข้อ 1,2 นำเสนอให้นายกรัฐมนตรี/คณะรัฐมนตรี ทราบโดยเร็วที่สุด ให้มีความพร้อมดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ รัดกุม รอบคอบ และโปร่งใส เพื่อไม่ให้เกิดเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในสังคมเหมือนอย่างที่ผ่านมาเป็นอันขาด