ศบค.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,122 ราย หายป่วยมากกว่าติดเชื้อ 7,460 ราย เสียชีวิต 12 ราย ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน-รับวัคซีนไม่ครบโดส ขณะที่ยอดติดเชื้อ กทม.ยังนำที่หนึ่ง 820 ราย ด้านผู้เดินทางเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 172 สะสม 4.51 พันราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 7,122 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 6,935 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 6,846 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 89 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 15 ราย อีก 172 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,344,933 ราย
หายป่วยเพิ่ม 7,460 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 81,602 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 511 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 113 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 12 ราย เป็นผู้สูงอายุ 7 ราย ป่วยเรื้อรัง 3 ราย ไม่มีประวัติเรื้อรัง 2 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 21,968 ราย สำหรับผู้เสียชีวิต 12 ราย โดยในจำนวนนี้ มาจาก กทม.1 ราย ปทุมธานี 1 ราย สมุทรปราการ 1 ราย ศรีสะเกษ 2 ราย นครราชสีมา 1 ราย ตาก 1 ราย พิษณุโลก 1 ราย สตูล 1 ราย สุราษฎร์ธานี 1 ราย ระยอง 1 ราย และสระแก้ว 1 ราย
ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด คนรู้จัก ครอบครัว และอาศัยในพื้นที่ระบาด ทั้งนี้พบว่า ผู้เสียชีวิต 7 ราย ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดคิดเป็น 58% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด และพบ 3 รายยังฉีดวัคซีนไม่ครบ เกิดการติดเชื้อทำให้รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต มีผู้ป่วยติดเตียง 1 ราย รวมถึงกลุ่มโรคประจำตัว เช่น อ้วน ไต เบาหวาน ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ มีข้อมูลต่อเนื่องว่า หากมีข้อมูลติดเชื้อแม้จะเป็นโอไมครอนก็สามารถรุนแรงถึงชีวิตได้
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม.820 ราย สมุทรปราการ 601 ราย ชลบุรี 506 ราย ภูเก็ต 383 ราย นนทบุรี 319 ราย ขอนแก่น 313 ราย ปทุมธานี 250 ราย สมุทรสาคร 185 ราย อุบลราชธานี 166 ราย และระยอง 156 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 45,031 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 96,086 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 340,711 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 110,310,481 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 51,879,455 ราย คิดเป็น 72% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 47,733,153 ราย คิดเป็น 66.3% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 10,697,873 ราย คิดเป็น 14.9%
เดินทางเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 172 สะสม 4.51 พันราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 172 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 59 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 88 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 24 ราย และลักลอบ 1 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน ม.ค. สะสมรวม 4,515 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 2,402 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 1,724 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 389 ราย
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 3.01 ล. รวมสะสม 335.28 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 3,016,974 ราย รวม 335,286,854 ราย อาการหนัก 96,762 ราย หายป่วย 270,790,615 ราย เสียชีวิต 5,573,381 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 546,714 ราย รวม 68,766,247 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,720 ราย รวม 877,240 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 277,740 ราย รวม 37,896,011 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 442 ราย รวม 487,226 ราย บราซิล พบเพิ่ม 132,254 ราย รวม 23,215,551 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 317 ราย รวม 621,578 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 26 ของโลก
ป่วยเพิ่ม 7,122 เสียชีวิต 12 กทม.ติดเชื้อสูงสุด 820 ราย
อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 07.28 น. สำนักข่าวอิศรารายงานสถานการณ์โควิดประจำวันว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 6,397 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 6,232 และมาจากต่างประเทศ 165 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 114,376 ราย
ผู้ติดเชื้อแบ่งออกตามรายพื้นที่ แบ่งเป็น พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 2,292 ราย พื้นที่ 18 จังหวัด (นำร่องท่องเที่ยว) 2,094 ราย และจังหวัดอื่น 1,836 ราย
ขณะที่มีผู้หายป่วย 6,637 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสมระลอกใหม่ 65,409 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 81,952 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 534 ราย ต้องท่อช่วยหายใจ 114 ราย และมีผู้เสียชีวิต 18 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 258 ราย