กทม.พบผู้ป่วยโควิดเพิ่มมากขึ้นจาก ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ – หอพัก แฟลตตำรวจ เหตุพื้นที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ขู่ถอนใบรับรอง SHA Plus และ Thai Stop 2 Plus กรณีพบร้านไม่ทำตามมาตาการควบคุมโรค
นพ.สุทัศน์ โชตนะพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โควิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า วันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่ 939 ราย เสียชีวิต 3 ราย และมีผู้ที่รักษาหายประมาณ 300 ราย
เมื่อจำแนกผู้ป่วยรายใหม่ 939 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อจากต่างประเทศ 45 ราย ติดเชื้อในประเทศ 894 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยยืนยันเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 272 ราย สัมผัสผู้ป่วย 218 ราย และอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือแหล่งชุมชน 300 ราย
นพ.สุทัศน์ กล่าวว่า สำหรับผลการสอบสวนการระบาดใน กทม. พบว่า พื้นที่เสี่ยงที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก คือ กลุ่มร้านอาหารกึ่งผับบาร์ที่ได้ขออนุญาตเปิดเป็นร้านอาหาร เนื่องจากเป็นพื้นที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก จึงทำให้พื้นที่เหล่านี้กลายเป็นพื้นที่เสี่ยงที่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ซึ่งแต่ละกลุ่มพบผู้ป่วยมากกว่า 5 รายขึ้นไป ส่วนอีกพื้นที่ คือ กลุ่มที่อยู่ในหอพักที่มีลักษณะแออัด เช่น หอพักนักศึกษา หรือ แฟลตตำรวจ ปัจจุบันเริ่มมีรายงานผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น
“กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือร้านอาหารกึ่งผับบาร์ที่ปรับเป็นร้านอาหาร แต่ละกลุ่มมีการระบาดมากกว่า 5 รายขึ้นไป หากจำเป็นจะต้องเข้าใช้บริการ ขอให้ดูความแออัดและมาตรฐานการควบคุมโรคว่าเป็นไปตามที่กำหนดหรือไม่ หากพบว่าผู้ประกอบการจงใจหลีกเลี่ยงไม่ทำตามมาตรการควบคุมโรค ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งเรากำลังพิจารณาว่าอาจมีการถอนใบรับรองมาตรฐานทั้ง SHA Plus และ Thai Stop 2 Plus ต่อไป” นพ.สุทัศน์ กล่าว
นพ.สุทัศน์ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อมูลผู้เสียชีวิตใน กทม. ระห่วางวันที่ 1 เม.ย.2564 – 6 ม.ค.2565 มีทั้งหมด 6,905 ราย พบว่า เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบโดส 4,266 ราย หรือ 61.8% เป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดส 940 ราย หรือ 13.6% และไม่ระบุ 1,699 รายหรือ 24.8%
- ไทยป่วยโควิดใหม่ 8,167 สะสมแตะ 2.3 ล้าน ตาย 14 ราย ชลบุรีติดเชื้อใหม่อันดับหนึ่ง
- กทม.เตรียมพร้อมรับการระบาดรอบใหม่ เร่งฉีดเข็ม 3-วัคซีนเด็ก 5-11 ปี มาปลาย ม.ค.นี้
คำแนะนำสำหรับประชาชน คือ งดเข้าสถานที่เสี่ยง ได้แก่สถานที่ระบายอากาศไม่ดี สถานที่แออัด , งดร่วมกิจกรรมเป็นเวลานาน หากไม่สวมหน้ากากอนามัย เช่น วงเหล้า , ชะลอการเดินทางหากไม่จำเป็น , กลับจากต่างจังหวัด เฝ้าสังเกตอาการ 14 วัน และ WFH , ตรวจ ATK หากสงสัย และเมื่อพบการติดเชื้อ โทร.1330 สปสช. , ลงทะเบียนรักษาแบบแยกกักที่บ้าน (Home Isolation) , เร่งฉีดวัคซ๊นทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้น
ส่วน สถานประกอบการ ขอให้ปฏิบัติตามมาตร Covid Free Setting อย่างเคร่งครัด หากพบผู้ติดเชื้อให้ทำ Bubble & Seal ในโรงงาน