‘บิ๊กป้อม’ พร้อมแกนนำ พปชร.ช่วย ‘ชวลิต อาจหาญ’ หาเสียงเลือกตั้งซ่อมชุมพร ด้าน ‘จุรินทร์’ ปราศรัยใหญ่ ส่ง ‘สุภาพร กำเนิดผล’ สู้สนามสงขลา อัดพรรคการเมืองอ้างเป็นเจ้าของโครงการคนละครึ่ง ทั้งที่เป็นของรัฐบาล เปรียบเหมือนลักวิ่งชิงปล้นกลางแดด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยแกนนำพรรค ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงที่หน้าศาลาว่าการอำเภอเมืองชุมพร เพื่อช่วยนายชวลิต อาจหาญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ของพรรคในการเลือกตั้งซ่อม จ.ชุมพร ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 ม.ค.นี้
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตั้งใจเดินทางมาที่จังหวัดชุมพร เพื่อมายืนยันว่า นายชวลิต เหมาะสมที่จะสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม ในฐานะตัวแทนของ พปชร. ที่มีคะแนนเสียงอันดับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อสานต่องานนโยบาย รวมถึงการดูแลประเทศ โดยสิ่งสำคัญคือเรื่องแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนมีความกินดีอยู่ดี เข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงรถไฟเพื่อการเชื่อมต่อระหว่างภาคมาถึงภาคใต้ และเชื่อว่าหากนายชวลิตได้รับเลือกตั้ง จะเข้ามาทำหน้าที่ขับเคลื่อนพัฒนาเมืองชุมพรที่เป็นหน้าด่านของ 14 จังหวัดภาคใต้
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า คนในพื้นที่จะรับทราบถึงปัญหาดีที่สุด ซึ่ง นายชวลิต เป็นผู้ที่ลงพื้นที่แก้ปัญหาร่วมกับตนเองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วมภาคใต้อย่างหนัก ที่เข้าไปช่วยประชาชนอย่างรวดเร็วที่สุด พร้อมยังวางแผนในระยะยาวเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะเป็นคนที่เหมาะสมในการดูแลชาวชุมพรที่สานต่อนโยบายทันทีโดยมีฐานข้อมูลพื้นที่ที่ครอบคลุมในเขต 1 ที่จะทำให้การแก้ปัญหาเข้าถึงได้ทันที
ด้านพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่ศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อ ช่วย น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 ของพรรค ในการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม จ.สงขลา ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 ม.ค.เช่นเดียวกัน
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ใหญ่ของพรรคการเมืองพรรคหนึ่งมาปราศรัยและเชียร์เบอร์อื่นบอกว่าคนสงขลาเขต 6 ต่อไปนี้วิธีเลือกผู้แทนต้องเลือกคนที่มีคุณสมบัติสำคัญข้อหนึ่งก็คือจะต้องเป็นคนรวย มีคลิปเผยแพร่ทั่วประเทศบอกว่าถ้าเลือกคนรวยแล้วดี ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเลือกตั้ง ประชาชนก็ไม่ต้องมีความหมาย เอาเก้าอี้มาตั้งแล้วก็ประมูลกัน และใครจะมาทำหน้าที่แทนคนจนในเมื่อมีแต่คนรวยทั้งสภา เพราะฉะนั้นความรวยไม่ใช่เงื่อนไขที่จะนำมาซึ่งการตัดสินใจให้เราได้ผู้แทนราษฎรที่ดีที่เป็นผู้แทนแทนเราได้ เราต้องพิจารณาจากสภาพความเหมาะสมและคุณสมบัติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า มีเหตุผล 2 ข้อที่ควรเลือก น.ส.สุภาพร เพราะเป็นคนดีมีความเหมาะสม ทำงานทุ่มเทร่วมกับกลุ่มสตรีจังหวัดสงขลามาตลอด สำหรับในทางการเมืองบทบาทในการบริหาร น.ส.สุภาพร ได้มีโอกาสเข้าไปทำงานเป็นรองนายก อบจ. เพราะฉะนั้นจึงมีประสบการณ์ในการบริหารท้องถิ่น ดังนั้นถ้ามีโอกาสระดับประเทศก็สามารถทำงานในฐานะ ส.ส.ได้สบาย
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงโครงการคนละครึ่งด้วยว่า โครงการดังกล่าวไม่ใช่นโยบายของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ทั้งชุด เพราะไม่ใช่นโยบายที่พรรคการเมืองใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง แต่เป็นโครงการที่เกิดขึ้นช่วงโควิด รัฐบาลที่มี ปชป.อยู่ ร่วมกันแก้ปัญหา เมื่อมีการลงมติให้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน จึงได้นำเงินนั้นมาทำนโยบายคนละครึ่ง เพราะฉะนั้นคนละครึ่งจึงไม่ใช่นโยบายพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
“ถ้าพรรคไหนก็ตามมาบอกว่าเป็นนโยบายพรรคเขา อันนี้ลักวิ่งชิงปล้นกลางแดดเลย และพรรคการเมืองที่ยกมือให้กับคนละครึ่ง ประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคการเมืองหนึ่ง ใครก็ตามมาบอกว่าถ้าไม่เลือกเขา เขาจะเลิกคนละครึ่ง หลายคนส่ายหัว มันเลิกไม่ได้เพราะเป็นนโยบายรัฐบาล” นายจุรินทร์ กล่าว