นายกรัฐมนตรี เรียกประชุม ศบค. 7 ม.ค.ประเมินสถานการณ์โควิดระลอกหลังปีใหม่ 4 สัปดาห์ ก่อนปรับมาตรการรับมือ พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่กวดขันร้านอาหารกึ่งผับบาร์ หลังพบลักลอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด หลังจากหลายหน่วยงานกลับมาดำเนินกิจกรรมตามปกติ และเตรียมประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ในวันที่ 7 ม.ค.นี้
นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลจะทำการประเมินสถานการณ์การติดเชื้อระลอกหลังปีใหม่เป็นเวลาประมาณ 4 สัปดาห์ โดย 2 สัปดาห์แรกจะประเมินสถานการณ์ จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อ ส่วน 2 สัปดาห์หลังจะประเมินผู้ป่วยอาการหนักและอัตราการเสียชีวิต ก่อนตัดสินใจปรับมาตรการต่าง ๆ ขอความร่วมมือประชาชน สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีน โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื่อรัง สตรีมีครรภ์ ติดต่อขอรับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด หรือหากเคยฉีดแล้วก็ควรติดต่อขอฉีดเข็มกระตุ้นต่อไป
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา หลายจังหวัดมีสถานการณ์น่าเป็นห่วง กล่าวคือมีการแพร่ระบาดลักษณะเป็นคลัสเตอร์จากร้านอาหารกึ่งผับบาร์ และลักลอบเปิดสถานบันเทิงขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อสอบสวนโรคแล้วพบว่าร้านที่เป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อไม่ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting ไม่ว่าจะเป็นภายในร้านจัดที่นั่งแออัด ไม่เว้นระยะห่าง ไม่มีระบบระบายอากาศที่ดี พนักงานไม่สวมหน้ากากอนามัย มีการจำหน่ายสุราและแสดงดนตรีโดยไม่เคร่งครัดตามแนวทางที่กำหนด ตลอดจนมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค
น.ส.ไตรศุลี กล่าวย้ำว่า จากรายงานดังกล่าว นายกรัฐมนตรีมีความกังวล โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการกวดขัน บังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนกฎระเบียบ โดยเฉพาะกรณีลักลอบเปิดสถานบันเทิงหากพบการกระทำผิดต้องลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งหากตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่เองที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แสวงหาประโยชน์จากช่วงสถานการณ์นี้จะต้องถูกลงโทษทางวินัยต่อไป