ศบค.รายงานตัวเลขผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 2,899 ราย กทม.ติดเชื้อลดลงเหลือ 395 ราย จับตาชลบุรีพุ่ง 197 ราย ขณะที่ยอดมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 22 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด ฉีดวัคซีนทะลุ 99 ล้านโดส เป็นเข็มแรกครอบคลุม 70% แล้ว ขณะที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยเดือน ธ.ค. สะสม 1.46 แสน ติดเชื้อ 306 คน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดประจำวันเพิ่มเติมว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,899 ราย และมีผู้เสียชีวิต 22 ราย โดยเป็นผู้สูงอายุ 18 ราย คิดเป็น 82% และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 3 ราย คิดเป็น 14% ซึ่งหากรวมกันพบมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 96% และมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ส่วนใหญ่มาจากคนใกล้ชิดถึง 13 ราย รองลงมาคือ คนรู้จัก อาศัยในพื้นที่ระบาด และติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม. 395 ราย ชลบุรี 197 ราย นครศรีธรรมราช 185 ราย สมุทรปราการ 133 ราย ขอนแก่น 115 ราย สงขลา 97 ราย กระบี่ 86 ราย ราชบุรี 73 ราย สุราษฎร์ธานี 72 ราย และพระนครศรีอยุธยา 65 ราย
ด้านผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 54 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย ออสเตรีย 1 ราย รัสเซีย 2 ราย ฝรั่งเศส 2 ราย สวีเดน 2 ราย ซาอุดิอาระเบีย 14 ราย ไอร์แลนด์ 1 ราย ไนจีเรีย 1 ราย สหราชอาณาจักร 8 ราย กัมพูชา 2 ราย มาเลเซีย 4 ราย เคนยา 1 ราย สหรัฐอเมริกา 8 ราย แคนาดา 2 ราย โปแลนด์ 1 ราย เดนมาร์ก 2 ราย และลาว 2 ราย
นอกจากนั้น มีผู้ได้รับวัคซีนโควิดเพิ่ม 376,281 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 89,262 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 137,385 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 149,634 ราย รวมสะสม 99,761,523 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 50,527,954 ราย คิดเป็น 70.1% ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 44,332,226 ราย คิดเป็น 61.5% และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 4,901,343 ราย คิดเป็น 6.8%
โดยจังหวัดที่ฉีดวัคซีนเข็มแรกได้ครอบคลุมประชากรทั้งหมด 70% แล้ว มีทั้งหมด 17 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี สมุทรสาคร สงขลา เชียงราย จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ลำพูน กทม. เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ พังงา ภูเก็ต ระนอง สุราษฎร์ธานี และกระบี่
ขณะที่มี 14 จังหวัดที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรังแล้ว 80% ได้แก่ ปทุมธานี เชียงราย น่าน ลำปาง นครพนม บึงกาฬ สกลนคร หนองบัวลำภู กทม. เชียงใหม่ สมุทรปราการ อุดรธานี บุรีรัมย์ และสุราษฎร์ธานี
นทท.เข้าไทยเดือน ธ.ค. สะสม 1.46 แสน ติดเชื้อ 306 คน
ส่วนรายงานการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร วันที่ 18 ธ.ค.2564 มีผู้เดินทางเข้าประเทศ 12,203 ราย จำแนกเป็น Test and Go 10,324 ราย Sandbox 1,702 ราย กักตัว 7 วัน 64 ราย กักตัว 10 วัน 81 ราย และกักตัว 14 วัน 32 ราย รวมสะสมผู้เดินทางเข้าประเทศ จำนวน 146,781 ราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 49 ราย สะสมแล้ว 306 ราย คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 0.21%
โดยจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศ จำแนกตามประเทศต้นทาง 10 ประเทศแรก ได้แก่ เยอรมนี สหราชอาณาจักร รัสเซีย สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส สวีเดน สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอร์เวย์ และเกาหลีใต้ ตามลำดับ
ทั้งนี้ ขณะนี้ยอดผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรราวครึ่งเดือน ธ.ค.นี้ มีจำนวนมากกว่าผู้เดินทางเข้ามามากกว่าช่วงเดือน พ.ย.2564 ตลอดทั้งเดือนแล้ว โดยในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมามีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร รวม 133,061 ราย แบ่งเป็น Test and Go 106,211 ราย Sandbox 21,438 ราย กักตัว 7 วัน 1,743 ราย กักตัว 10 วัน 3,654 ราย และกักตัว 14 วัน 15 ราย
ทั่วโลกป่วยเพิ่ม 557,866 รวมสะสม 274.53 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 557,866 ราย รวม 274,536,717 ราย อาการหนัก 89,276 ราย หายป่วย 246,334,110 ราย เสียชีวิต 5,366,516 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 85,924 ราย รวม 51,696,205 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 487 ราย รวม 827,206 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 5,390 ราย รวม 34,738,584 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 12 ราย รวม 477,170 ราย บราซิล พบเพิ่ม 3,323 ราย รวม 22,212,343 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 137 ราย รวม 617,784 ราย ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 24
โควิดลดลงต่ำกว่า 3 พัน! ไทยติดเชื้อเพิ่ม 2,899 เสียชีวิต 22 ราย
อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 08.14 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 2,899 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 2,802 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 22 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 21 ราย และผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 54 ราย รวมสะสมผู้ป่วยตั้งแต่ เม.ย. 2,162,665 ราย ขณะที่มีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) 946 ราย
หากจำแนกผู้ป่วยตามรายพื้นที่ กทม.และปริมณฑล 657 ราย ชายแดนใต้ 212 ราย และจังหวัดอื่น 1,955 ราย
มีผู้หายป่วย 4,389 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสมระลอกใหม่ 2,100,932 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 41,793 ราย โดยเป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 928 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 249 ราย และมีผู้เสียชีวิต 22 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 21,283 ราย