ศบค.รายงานยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 3,537 ราย เสียชีวิต 41 ราย กทม.ยังครองแชมป์ติดเชื้อสูงสุด 578 ราย เจอคลัสเตอร์แคมป์คนงานในคลองเตย 56 ราย-หมูกระทะ 12 ราย สั่งเฝ้าระวังเข้มคนเดินทางปีใหม่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2564 เวลา 12.30 น. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดประจำวันเพิ่มเติมว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,537 ราย และมีผู้เสียชีวิต 41 ราย โดยเป็นผู้สูงอายุ 33 ราย คิดเป็น 80% และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 6 ราย คิดเป็น 15% ซึ่งหากรวมกันพบมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 95% และมีปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อมาจากคนใกล้ชิด ครอบครัว คนรู้จัก และการอาศัยในพื้นที่ระบาด
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม. 578 ราย นครศรีธรรมราช 208 ราย ชลบุรี 166 ราย สงขลา 137 ราย สมุทรปราการ 128 ราย สุราษฎร์ธานี 89 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 78 ราย พัทลุง 77 ราย ปัตตานี 74 ราย และเชียงใหม่ 65 ราย
ด้านผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 17 ราย เดินทางมาจากอียิปต์ 1 ราย เม็กซิโก 1 ราย ตุรกี 1 ราย สหราชอาณาจักร 5 ราย นอร์เวย์ 1 ราย บังคลาเทศ 1 ราย เดนมาร์ก 1 ราย ฝรั่งเศส 2 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย และคาซัคสถาน 1 ราย
นอกจากนั้น มีผู้ได้รับวัคซีนโควิดเพิ่ม 416,336 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 110,704 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 162,632 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 143,000 ราย รวมสะสม 98,856,753โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 50,314,980 ราย คิดเป็น 69.8% ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 43,974,460 ราย คิดเป็น 61% และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 4,567,313 ราย คิดเป็น 6.3%
ทั้งนี้ พญ.อภิสมัย กล่าวถึงการทำเอกสารวัคซีนปลอมด้วยว่า จังหวัดอุดรธานี มีการจับคนที่ทำเอกสารวัคซีนปลอม ซึ่งถือว่าเป็นความผิด ทั้งคนทำและคนแอบอ้างใช้เอกสารปลอม จึงขอให้หันไปรับวัคซีน เพื่อให้ได้รับเอกสารที่ถูกต้อง ซึ่งสามารถเช็คได้ที่การสแกนเอกสารการฉีดวัคซีนที่หมอพร้อม
กทม.พบคลัสเตอร์แคมป์คนงาน 56 คน ศบค.สั่งเข้มตรวจคนเดินทางปีใหม่
พญ.อภิสมัย กล่าวรายงานสถานการณ์คลัสเตอร์ประจำวันว่า วันนี้พบคลัสเตอร์เรือนจำในกระบี่ 137 ราย ปัตตานี 36 ราย ขณะที่พบคลัสเตอร์โรงงานและบริษัทในปราจีนบุรี ระยอง และชลบุรี ส่วนประจวบคีรีขันธ์ เจอคลัสเตอร์ห้างสรรพสินค้า
ส่วนคลัสเตอร์ตลาด เจอในหลายจังหวัด ทั้งอ่างทอง ลพบุรี นครศรีธรรมราช และคลัสเตอร์พิธีกรรม งานศพ ยังมีรายงานอย่างต่อเนื่อง โดยพบที่นราธิวาสและแม่ฮ่องสอน คลัสเตอร์โรงเรียน เจอในสมุทรปราการ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และประจวบคีรีขันธ์ และคลัสเตอร์แคมป์คนงานพบในชลบุรีและกรุงเทพมหานคร
สำหรับกรุงเทพมหานคร นอกจากเจอคลัสเตอร์แคมป์คนงาน ในคลองเตย 56 ราย จากคนงานทั้งหมด 120 ราย คิดเป็น 47% ซึ่งพบจากการตรวจ ATK ประจำทุกสัปดาห์แล้ว ขณะนี้ทุกคนเข้าสู่ระบบการรักษาแล้ว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงได้มีการให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังเจอคลัสเตอร์หมูกระทะในเขตบางกะปิ 12 คน ซึ่งจากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ติดเชื้อรายแรกไม่ทราบว่าติดเชื้อ จึงไปร่วมงานเลี้ยงหมูกระทะ ร่วมกินอาหารจากกระทะใบเดียวกัน และใช้เวลานาน
“ในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีคนกลับบ้าน ศบค.ชุดเล็กขอเน้นย้ำไปยังทุกจังหวัดเฝ้าระวังคนกลับบ้าน โดยเฉพาะผู้เดินทางกลับจากโรงงาน แคมป์คนงาน อาจติดเชื้อไม่แสดงอาการ จึงขอให้จังหวัดมีมาตรการคัดกรองเข้มงวด และเมื่อเดินทางกลับมาทำงานขอให้สถานประกอบการ ตรวจคัดกรองบุคลากรก่อนกลับเข้าทำงานเช่นเดียวกัน เพราะการร่วมสังสรรค์ปีใหม่เป็นเวลานาน อาจเป็นความเสี่ยงทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้” พญ.อภิสมัย กล่าว
นทท.เข้าไทยเดือน ธ.ค. ติดเชื้อสะสม 226 คน คิดเป็นอัตรา 0.18%
ส่วนรายงานการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร วันที่ 16 ธ.ค.2564 มีผู้เดินทางเข้าประเทศ 11,060 ราย จำแนกเป็น Test and Go 9,568 ราย Sandbox 1,256 ราย กักตัว 7 วัน 61 ราย กักตัว 10 วัน 157 ราย และกักตัว 14 วัน 18 ราย รวมสะสมผู้เดินทางเข้าประเทศ จำนวน 122,363 ราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16 ราย สะสมแล้ว 226 ราย คิดเป็นอัตราติดเชื้อ 0.18%
โดยจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศ จำแนกตามประเทศต้นทาง 10 ประเทศแรก ได้แก่ เยอรมนี สหราชอาณาจักร รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ นอร์เวย์ และอิสราเอล ตามลำดับ
จับตาอินโดนีเซียเจอผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายแรก
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 711,255 ราย รวม 273,218,485 ราย อาการหนัก 89,344 ราย หายป่วย 245,296,117 ราย เสียชีวิต 5,352,581 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 144,871 ราย รวม 824,520 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 997 ราย รวม 824,520 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 2,505 ราย รวม 34,721,174 ราย เสียชีวิตสะสม 476,478 ราย บราซิล พบเพิ่ม 3,720 ราย รวม 22,204,941 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 173 ราย รวม 617,521 ราย ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 24
ทั้งนี้ อินโดนีเซีย แม้จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 213 ราย แต่ตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอยรายแรกในประเทศแล้ว โดยเป็นพนักงานทำความสะอาด ไม่มีประวัติเดินทาง นอกจากนี้มาเลเซียยังพบเด็กวัย 8 ปี ติดเชื้อโอไมครอนเป็นรายที่ 2 และอยู่ระหว่างตรวจหาสายพันธุ์โควิดอีก 18 ราย ทำให้ทางการออกมาตราการให้ประชาชนเข้ารับเข็มกระตุ้น
ติดเชื้อใหม่ 3,537 เสียชีวิต 41 กำลังรักษาตัว 43,479 ราย
อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 07.39 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดประเทศไทย ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,537 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,156,634 ราย ขณะที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) เพิ่ม 1,080 ราย
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,537 ราย แยกเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากต่างประเทศ 17 ราย ติดเชื้อในประเทศ 3,520 ราย เป็นผู้ป่วยในเรือนจำ 182 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดกรุงเทพและปริมณฑล 870 รายผู้ป่วยใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ 309 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดอื่นๆ 2,159ราย
ส่วนการรักษา มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 5,459 ราย ยอดหายป่วยสะสม 2,093,265 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 43,479 ราย อาการหนัก 972 ราย และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจจำนวน 254 ราย
มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 41 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 21,192 ราย