ศบค.ติดตามตัว 252 นักท่องเที่ยว จาก 8 ประเทศทวีปแอฟริกาใต้ ตรวจโควิด ป้องกัน ‘โอไมครอน’ ระบาด นับตั้งแต่ 1 ธ.ค.มีคำสั่งห้ามเข้าประเทศ ยกเว้นคนไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงผลการดำเนินการรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ระหว่างวันที่ 1 – 30 พฤศจิกายน ที่มีคนเดินทางเข้ามารวม 133,061 ราย พบผู้ติดเชื้อ 171 ราย หรือ 0.13% โดยยืนยันว่าเป็นมาตรการที่คุ้มค่าที่จะต้องดำเนินการต่อ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวไทย ทั้งนี้ ยังคงต้องมีมาตรการคุมเข้ม โดยเฉพาะต้องใช้ RT-PCR เป็นมาตรฐานในการตรวจหาเชื้อต่อไป
นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคยังเปิดเผยข้อมูลรายประเทศ ที่พบว่า สหรัฐอเมริกาเดินทางเข้าไทย 14,730 ราย ติดเชื้อ 21 ราย คิดเป็น 0.14% รวมถึง 10 ประเทศที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด ก็ยังพบผู้ติดเชื้อไม่ถึง 1%
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า สำหรับเชื้อกลายพันธ์โอไมครอน หรือ B.1.1.529 ที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณารายละเอียด พบว่า เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์มีรายละเอียด ดังนี้
-
ลักษณะอาการ – ไม่พบว่ามีความแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น คือ ยังปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย แต่ที่สำคัญคือการไม่สูญเสียการรับกลิ่น รส และมีอาการป่วยไม่รุนแรง อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์ดังกล่าวแล้ว
-
ความเร็วในการแพร่โรค – คาดว่าแพร่ได้เร็วขึ้น และมากขึ้น
-
Reproductive number หรือโอกาสการติดเชื้อแบบทวีคูณ – คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า wild type แต่ยังไม่มีข้อมูลหลักฐานยืนยัน
-
ความรุนแรง และ ระยะฟักตัว – ยังไม่มีข้อมูล แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า วัคซีนสามารถป้องกันอาการรุนแรงได้
-
ผลต่อภูมิคุ้มกัน – อาจหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ พบว่าโอกาสติดเชื้อซ้ำได้สูงขึ้น
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับประเทศที่ติดเชื้อโอไมครอนแล้ว รวม 27 ประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศ มีลักษณะของการนำเชื้อเข้าจากผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศในกลุ่ม 8 ประเทศแอฟริกาใต้
ขณะที่ข้อมูลผู้เดินทางจากทวีปแอฟริกาตั้งแต่วันที่ 15 -27 พฤศจิกายน 2564 พบข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
1.กลุ่มเสี่ยงสูง 8 ประเทศในทวีปแอฟริกาใต้ ประกอบด้วย บอตสวานา เอสวาตินี เลโซโท มาลาวี โมซัมบิก นามิเบีย แอฟริกาใต้ และซิมบับเว
เดินทางผ่านระบบ Sandbox 255 ราย ออกจากไทยแล้ว 3 ราย ยังอยู่ในประเทศ 252 ราย และสามารถติดตามตัวได้เพียง 11 ราย
เดินทางผ่านระบบกักตัว (Quarantine) 78 ราย ยังอยู่ในประเทศ 78 ราย และสามารถติดตามตัวได้เพียง 12 ราย
2.กลุ่มเสี่ยงต่ำ ซึ่งเป็นประเทศอื่นๆในทวีปแอฟริกา
เดินทางผ่านระบบ Sandbox 321 ราย ยังอยู่ในประเทศทั้ง 321 ราย และสามารถติดตามตัวได้เพียง 16 ราย
เดินทางผ่านระบบกักตัว (Quarantine) 132 ราย ยังอยู่ในประเทศทั้ง 132 ราย และสามารถติดตามตัวได้เพียง 2 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมได้เน้นย้ำและฝากให้ประชาสัมพันธ์บอกกับคนไทยหรือคนต่างชาติที่พำนักในไทย ที่มาจาก 8 ประเทศกลุ่มเสี่ยง ขอให้มารายงานตัว เพื่อจะเข้ารับการตรวจ RT-PCR ฟรี
“มี 2 ประเด็นที่อยากบอกผู้ที่เดินทางมาจาก 8 ประเทศในทวีปแอฟริกาใต้ คือ ถ้าท่านเดินทางมาตั้งแต่ 15-27 พ.ย. ถ้าอยู่ในระบบ Sandbox ขอให้ท่านสังเกตตัวเอง 14 วันและตรวจหาเชื้อตามช่วงเวลา ส่วนที่กักตัวใน Quarantine ขอให้ขยายการกักตัวให้ครบ 14 วัน”
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวย้ำว่า สำหรับ 8 ประเทศกลุ่มเสี่ยงทวีปแอฟริกานี้ ผู้ที่เดินทางเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. ให้คุมตัวไว้สังเกตเป็นเวลา 14 วัน และตรวจหาเชื้อก่อนเดินทางออกนอกพื้นที่ ส่วนกรณีผู้ที่เดินทางเข้าไทยตั้งแต่ 28 พ.ย. ต้องกักตัว 14 วัน และตรวจหาเชื้อ 3 ครั้งตามช่วงเวลา และตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป ไม่อนุญาตเข้าไทย 1 ธ.ค.2564 ส่วนประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกา เดินทางเข้าไทยตั้งแต่ 15 พ.ย. – 5 ธ.ค. ให้กักตัว 14 วัน และตรวจหาเชื้อ ส่วนผู้ที่เดินทางถึงไทยตั้งแต่ 6 ธ.ค. ให้กักตัว 14 วัน และตรวจหาเชื้อ 3 ครั้ง