'จิรายุ' แจ้ง 'วราวุธ' ลงโทษวินัย-ม.157 อธิบดีน้ำบาดาล ไม่ชี้แจงข้อมูลเงินกองทุน กพน.

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เวลา 15:09 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

3314 views

picwatrefsasasasasa11 25 64

'จิรายุ ห่วงทรัพย์' ทำหนังสือแจ้ง 'วราวุธ ศิลปอาชา' รมว.ทส. ลงโทษวินัย - ม.157 อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรณีเพิกเฉยไม่ชี้แจงข้อมูลเอกสารแสดงรายละเอียดการดำเนินงานใช้จ่ายเงินกองทุน กพน. ต่อ กมธ. ด้านอธิบดีฯ แจ้ง เคยส่งจนท.ไปแล้ว แต่โดนปิดกั้นไม่ให้เข้าห้องชี้แจงข้อมูล

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกโครงการจัดซื้อจัดจ้างของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ปรากฏข้อมูลว่า บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท ไทยอินเตอร์คอนติเนนตัลกรุ๊ป จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) สิทธิยนต์ บริษัท ดี.เอ็ม.ไอ. จำกัด บริษัท ทรัพย์ธาราวัสดุ จำกัด และบริษัท นทีชลกิจ จำกัด ที่ส่อว่าจะเป็นเอกชนกลุ่มเดียวกัน จากหลักฐานสำคัญผ่านการแจ้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อสำนักงาน หมายเลข ********882 อีเมล sirirat2882 @ hotmail.com ในแบบนำส่งงบการเงิน ที่แจ้งไว้ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ขณะนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เอกชนกลุ่มนี้ได้รับงานว่าจ้างจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มูลค่าหลายพันล้านบาท และมีบางสัญญาที่เอกชนกลุ่มนี้เข้าแข่งขันงานกันเองด้วย

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รับการเปิดเผยจาก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ว่าได้ทำหนังสือถึง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอให้พิจารณาดำเนินการลงโทษทางวินัยต่ออธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 82, 83, 84, 85 และความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีไม่ชี้แจงข้อมูลและจัดส่งเอกสารแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินของกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล (กพน.) เพื่อประกอบการพิจารณาสีบหาข้อเท็จจริงเรื่องร้องเรียนกรณีการดำเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล ให้แก่ คณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร

796d12c015ff3a6f89166e35d6864b17

@นายจิรายุ ห่วงทรัพย์

โดยหนังสือที่แจ้งถึง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า "คณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ได้ขอให้ท่านพิจารณาสั่งการให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลชี้แจงข้อมูลและจัดส่งเอกสารแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินของกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล (กพน.) เพื่อประกอบการพิจารณาสีบหาข้อเท็จจริงเรื่องร้องเรียนกรณีการดำเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล

คณะกรรมาธิการได้ขอให้ท่านพิจารณาสั่งการให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการในวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2564 และในวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2564 เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าว ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น

ในการนี้ คณะกรรมาธิการพิจารณาแล้วเห็นว่า เนื่องจากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมิได้จัดส่งข้อมูลและเอกสารแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินของกองทุนพัฒนาน้ำบาดาลให้แก่คณะกรรมาธิการ ทั้งที่คณะกรรมาธิการได้มีหนังสือขอให้ชี้แจงข้อมูลและจัดส่งเอกสารดังกล่าวมาแล้วถึง 3 ครั้ง อีกทั้งท่านในฐานะรัฐมนตรีที่มีหน้าที่ควบคุมและกำกับดูแลการปฏิบัติราชการของอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้สั่งการให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลชี้แจงข้อมูลและจัดส่งเอกสารดังกล่าวให้แก่คณะกรรมาธิการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564

นอกจากนี้ เมื่อคณะกรรมาธิการมีหนังสือเชิญอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียน พร้อมนำส่งข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว ในวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2564 และในวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2564 และท่านได้สั่งการให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเข้าร่วมประชุม พร้อมนำส่งข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แก่คณะกรรมาธิการแล้ว แต่อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลกลับเพิกเฉย ไม่เข้าร่วมประชุมหรือมอบหมายผู้แทนเข้าร่วมประชุม และไม่ได้ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นในการไม่เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการแต่อย่างใด

การกระทำของอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรณีไม่ชี้แจงข้อมูลและจัดส่งเอกสารและไม่เข้าร่วมประชุมหรือมอบหมายผู้แทนเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการ โดยไม่ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นดังกล่าว เป็นเหตุให้พิจารณาได้ว่าอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางการปฏิบัติการตามหน้าที่ของคณะกรรมาธิการตามพระราชบัญญัติคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 15 และอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่คณะกรรมาธิการ ทำให้ไม่สามารถพิจารณาเรื่องร้องเรียนตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการต่อไปได้ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

อีกทั้งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งสั่งในหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ ซึ่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้รับคำสั่งจากท่านให้ไปชี้แจงให้ข้อมูลและจัดส่งเอกสารต่อคณะกรรมาธิการหลายครั้งแต่อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลหาได้ปฏิบัติตามคำสั่งของท่าน ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาที่สั่งในหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของราชการ ทำให้คณะกรรมาธิการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
จึงถือได้ว่าอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 82, 83, 84, 85

คณะกรรมาธิการจึงขอให้ท่านพิจารณาดำเนินการลงโทษทางวินัยต่ออธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 82, 83, 84, 85 และความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ทั้งนี้ ในส่วนของคณะกรรมาธิการจะได้มีหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลตามพระราชบัญญัติคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 15 และ มาตรา 16 ต่อไป" (ดูหนังสือประกอบ)

co1