"...กรณีนี้ ถ้าในข้อเท็จจริงปรากฏว่า แท้จริงแล้ว บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท ไทย อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุ๊ป จำกัด เป็นเอกชนกลุ่มเดียวกัน เท่ากับว่าในช่วงระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมา เอกชนกลุ่มนี้ปรากฏชื่อเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จำนวนกว่า 1,195 สัญญา รวมวงเงินกว่า 2,284.85 ล้านบาท ..."
......................................
ในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล รวม 6 ราย ช่วงวันที่ 31 ส.ค. – 3 ก.ย.2564 ที่ผ่านพ้นไปแล้ว
การจัดซื้อจัดจ้างของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย หยิบยกขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ข้อมูลที่น่าสนใจมี 2 ประเด็นหลัก คือ
1. มีเอกชน 2 ราย เป็นลูกค้ารายใหญ่ของ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล คือ บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท ไทยอินเตอร์คอนติเนนตัลกรุ๊ป จำกัด
นายจิรายุ อ้างรายงานตรวจสอบกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ได้รับงานเป็นจำนวนมากในช่วงปี 2562 ที่ตั้ง 2 บริษัท อยู่แถววัดปรินายก และอยู่ตรงข้ามกัน
2. ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิษณุชลกิจ ตั้งอยู่ในจังหวัดสุโขทัย มีสภาพเป็นตึกแถว เข้าร่วมประมูลงานมา10กว่าปี แต่ไม่เคยได้งาน เพิ่งมาได้งานในช่วงปี 2563 เป็นครั้งแรก โดยแข่งงานกับ บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด ชนะราคาไปแค่ 24,000 บาท
พร้อมเรียกร้องให้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้าไปติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง
@ ภาพนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบยืนยันข้อมูล การจัดซื้อจัดจ้างของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลตามที่นายจิรายุ นำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ พบข้อเท็จจริงสำคัญดังต่อไปนี้
หนึ่ง.
บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาจ้างงานกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นับตั้งแต่ปี 2558 ถึงปัจจุบัน จำนวนกว่า 1,145 สัญญา รวมวงเงินกว่า 1,220.03 ล้านบาท (ยึดตามข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ภาษีไปไหน ที่เริ่มบันทึกข้อมูลเป็นทางการในช่วงตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา) ดังนี้
ปี 2558 ได้งานทั้งสิ้น 134 โครงการ มูลค่า 283.59 ล้านบาท
ปี 2559 ได้งานทั้งสิ้น 104 โครงการ มูลค่า 80.79 ล้านบาท
ปี 2560 ได้งานทั้งสิ้น 102 โครงการ มูลค่า 325.16 ล้านบาท
ปี 2561 ได้งานทั้งสิ้น 189 โครงการ มูลค่า 75.10 ล้านบาท
ปี 2562 ได้งานทั้งสิ้น 244 โครงการ มูลค่า 96.32 ล้านบาท
ปี 2563 ได้งานทั้งสิ้น 274 โครงการ มูลค่า 271.27 ล้านบาท
ปี 2564 ได้งานทั้งสิ้น 98 โครงการ มูลค่า 87.80 ล้านบาท
ทั้งนี้ งานส่วนใหญ่ที่ได้รับเป็นเรื่องการประกวดราคาซื้อเครื่องสูบน้ำวัสดุอุปกรณ์ อะไหล่ เครื่องเจาะ สัญญาจ้างมี 2 ส่วน คือ วงเงินไม่เกิน 5 แสนบาทใช้วิธีการเจาะจง วงเงินเกินล้านบาทขึ้นไปใช้วิธีวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) (คลิกดูรายละเอียดตามลิงค์นี้ https://govspending.data.go.th/budget?tgsq=0105543008324)
สอง.
บริษัท ไทย อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุ๊ป จำกัด ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาจ้างงานกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เริ่มตั้งแต่ช่วงปี 2560 เป็นต้นมา จำนวนกว่า 50 สัญญา รวมวงเงินกว่า 1,064.82 ล้านบาท (ยึดตามข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ภาษีไปไหน) มีรายละเอียดดังนี้
ปี 2560 ได้งาน 1 สัญญา วงเงิน 132.44 ล้านบาท
ปี 2561 ได้งานทั้งสิ้น 10 โครงการ มูลค่า 7.62 ล้านบาท
ปี 2562 ได้งานทั้งสิ้น 14 โครงการ มูลค่า 199.29 ล้านบาท
ปี 2563 ได้งานทั้งสิ้น 18 โครงการ มูลค่า 711.99 ล้านบาท
ปี 2564 ได้งานทั้งสิ้น 7 โครงการ มูลค่า 13.48 ล้านบาท
ทั้งนี้ งานส่วนใหญ่ที่ได้รับเป็นเรื่องการประกวดราคาซื้อเครื่องสูบน้ำวัสดุอุปกรณ์ อะไหล่ เครื่องเจาะ สัญญาจ้างมี 2 ส่วน คือ วงเงินไม่เกิน 5 แสนบาทใช้วิธีการเจาะจง วงเงินเกินล้านบาทขึ้นไปใช้วิธีวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เหมือนกับ บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด (คลิกดูรายละเอียดตามลิงค์นี้ https://govspending.data.go.th/budget?tgsq=0105547085374)
สาม .
จากการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท ไทย อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุ๊ป จำกัด ที่แจ้งไว้ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
พบว่า ผู้ถือหุ้นทั้ง 2 บริษัท มีนามสกุลเดียวกัน นอกจากนี้ที่ตั้งของบริษัทเอกชน ทั้ง 2 แห่ง ยังอยู่ใกล้กันด้วย
บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 25 มกราคม 2543 ทุนปัจจุบัน 50,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 10 ถนนปรินายก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร จังหวัดกรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจขายส่งเครื่องจักรและอุปกรณ์งานวิศวกรรมโยธางานเหมืองแร่และงานก่อสร้าง ขายอุปกรณ์เจาะน้ำบาดาล
ปรากฏชื่อ นาย ประเสริฐ สุนทรปกาสิต นาย ประสิทธิ์ สุนทรปกาสิต เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ 30 เมษายน 2564 นาย ประเสริฐ สุนทรปกาสิต ถือหุ้นใหญ่สุด 55% มูลค่า 27,500,000 บาท นาย ประสิทธิ์ สุนทรปกาสิต 43% มูลค่า 21,500,000 บาท นาง นรีวรรณ ข้างน้อย ถืออยู่ 2% มูลค่า 1,000,000 บาท (ดูข้อมูลประกอบ)
บริษัท ไทย อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 25 มิถุนายน 2547 ทุนปัจจุบัน 30,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 12 ถนนปรินายก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร จังหวัดกรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจปูพิ้นยางและผนัง ขายอุปกรณ์งานก่อสร้าง ขายเครื่องฟอกอากาศ
ปรากฏชื่อ นางกรอาภา สุนทรปกาสิต เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ 30 เมษายน 2564 นาง กรอาภา สุนทรปกาสิต ถือหุ้นใหญ่สุด 87% มูลค่า 26,100,000 บาท นางสาว จารุภา สุนทรปกาสิต ถืออยู่ 12.3333% มูลค่า 3,700,000 บาท นางสาว ญนันทพร มีเคลือบ 0.6667% มูลค่า 200,000 บาท
@ ที่ตั้งของบริษัทเอกชน ทั้ง 2 แห่งอยู่ใกล้กัน
กรณีนี้ ถ้าในข้อเท็จจริงปรากฏว่า แท้จริงแล้ว บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท ไทย อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุ๊ป จำกัด เป็นเอกชนกลุ่มเดียวกัน
เท่ากับว่า ในช่วงระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 2558-2564) เอกชนกลุ่มนี้เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้รับงานไปจำนวนกว่า 1,195 สัญญา รวมวงเงินกว่า 2,284.85 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบข้อมูลของสำนักข่าวอิศรา ยังไม่พบว่า เอกชนทั้ง 2 ราย เคยเข้าร่วมประกวดราคาพร้อมกันหรือไม่
และที่ผ่านมายังไม่เคยปรากฏข่าวว่า การจัดซื้อจัดจ้างที่เกี่ยวข้องกับเอกชนทั้ง 2 ราย ถูกเคยหน่วยงานตรวจสอบชี้มูลความผิดแต่อย่างใด จึงถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิษณุชลกิจ ที่ถูกระบุว่า ตั้งอยู่ในจังหวัดสุโขทัย มีสภาพเป็นตึกแถว เข้าร่วมประมูลงานมา 10 กว่าปี แต่ไม่เคยได้งาน เพิ่งมาได้งานในช่วงปี 2563 เป็นครั้งแรก โดยแข่งงานกับ บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด ชนะราคาไปแค่ 24,000 บาท
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สำนักข่าวอิศรา อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก เพื่อนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบในตอนต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/