"...ส่วนตัวก็ไม่อยากจะไปเป็นเครื่องมือให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทั้งคุณจิรายุและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งถ้าหากจะมีเรื่องร้องเรียนก็ทำกันไป เพราะว่าการปฏิบัติการของกระทรวงนับตั้งที่เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีนั้นก็มีการกำชับมาตลอดว่าให้ดำเนินงานด้วยความรอบคอบ และเป็นไปตามกฎระเบียบทั้งหมด..."
..................................
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกโครงการจัดซื้อจัดจ้างของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ขยายผลการตรวจสอบมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีรายบุคคล ช่วงวันที่ 31 ส.ค. – 3 ก.ย.2564 ที่ผ่านมา
ข้อมูลสำคัญที่ตรวจสอบพบไปแล้วในขณะนี้ คือ
1. บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท ไทย อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุ๊ป จำกัด เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยจากการตรวจสอบพบว่าบริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาจ้างงานกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นับตั้งแต่ปี 2558 ถึงปัจจุบัน จำนวนกว่า 1,145 สัญญา รวมวงเงินกว่า 1,220.03 ล้านบาท (ยึดตามข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ภาษีไปไหน ที่เริ่มบันทึกข้อมูลเป็นทางการในช่วงตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา)
ส่วน บริษัท ไทย อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุ๊ป จำกัด ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาจ้างงานกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เริ่มตั้งแต่ช่วงปี 2560 เป็นต้นมา จำนวนกว่า 50 สัญญา รวมวงเงินกว่า 1,064.82 ล้านบาท (ยึดตามข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ภาษีไปไหนเช่นกัน)
จากการตรวจสอบข้อมูลเอกสารจดทะเบียนจัดตั้งเอกชนทั้ง 2 แห่ง รวมถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล พบว่า เป็นกลุ่มเดียวกัน
@ ที่อยู่ บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 10 ถนนปรินายก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร จังหวัดกรุงเทพมหานคร พบว่า เป็นตึกแถวขนาดใหญ่ บริเวณด้านหน้าตึกแถวติดป้ายชื่อว่า THAI INTERCONTINENTAL GROUP และ SITTIYONT GROUP พร้อมระบุว่าดำเนินกิจการเกี่ยวกับอุปกรณ์ขุดเจาะ
2. ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิษณุชลกิจ ตั้งอยู่ในจังหวัดสุโขทัย มีสภาพเป็นตึกแถว เข้าร่วมประมูลงานหลายปี เพิ่งมาได้งานในช่วงปี 2563 เป็นครั้งแรก คือ งานประกวดราคาซื้อวัสดุอุปกรณ์การเจาะบ่อ น้ำบาดาล จำนวน 8 รายการ โครงการสำรวจและพัฒนา น้ำบาดาลเพื่อเสริมแหล่งน้ำดิบ ภายใต้โครงการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี 2562/63 จำนวน 704 แห่ง วงเงิน 11.23 ล้านบาท โดยแข่งงานกับ บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด ชนะราคาไปแค่ 24,000 บาท
อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ปี 2558 ถึงปัจจุบัน ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิษณุชลกิจ ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาจ้างงานกับกรมชลประทาน จำนวนมากถึง 113 โครงการ รวมวงเงิน 189.11 ล้านบาท งานที่ได้รับไปส่วนใหญ่ ได้แก่ การจัดซื้อวัสดุอะไหล่อุปกรณ์เครื่องสูบน้ำ สายไฟ ท่อประปา มีหลายงานใช้วิธีการจัดซื้อวิธีเจาะจง งบประมาณไม่ถึง 5 แสนบาท
@ จุดที่ตั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิษณุชลกิจ ในสุโขทัย
- เจาะ 2 บ. คู่ค้ารายใหญ่กรมฯน้ำบาดาล 7 ปี 1,195 ส. 2,284.85 ล. ผู้ถือหุ้นสกุลเดียวกัน?
- แกะรอย คู่เทียบ ตึกแถว? ยื่นซอง10 ปี ได้งานกรมฯน้ำบาดาล 1 ส. - คู่ค้าหลักกรมชลฯ 189 ล.
- ตามไปดู 2 บ. คู่ค้ากรมฯน้ำบาดาล 7 ปี 1,195 ส. 2,284.85 ล.-ป้ายชื่อหราเครือเดียวกัน
ทั้งนี้ หากสาธารณชนยังจำกันได้ ในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังกล่าว หนึ่งในบุคคล ที่ถูกเรียกร้องให้ออกมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ทันที คือ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องเป็นทางการ มีรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้
นายวราวุธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันสำนักข่าวอิศรากรณีการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลว่า "เรื่องนี้เราก็มีการดำเนินการไปตามปกติ เพราะว่าที่ผ่านมาก็มีคนมาตรวจสอบอยู่แล้ว อันที่จริงเรื่องนี้นั้นมีประเด็นสืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557-2558 แล้ว ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้เลือกตั้งด้วยซ้ำ พอใครมีข้อสงสัยอะไรมาตั้งแต่ตอนนั้น เขาก็ใส่เลยตอนนี้"
“อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ผ่านมา ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขาก็มีการตรวจสอบบัญชีของกรมน้ำบาดาลอยู่แล้ว เท่าที่ทราบ เท่าที่ได้รับคำชี้แจงมา ถ้ามีเรื่องร้องเรียนเข้ามา เราก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง” นายวราวุธระบุ
@ ภาพนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อถามถึงประเด็นที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับบริษัทคู่เทียบรายหนึ่งที่แม้จะแพ้การประกวดราคาทุกครั้ง แต่ก็เข้าร่วมการประกวดราคาทุกครั้งเช่นกัน
นายวราวุธ กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าในทุก ๆ หน่วยงาน มันก็จะมีประเด็นอย่างนี้ เพียงแต่ว่าในรายละเอียดก็คือว่า ถ้าผมจะต้องลงไปดูในทุก ๆ การประมูลทุกงานของกระทรวง ผมคิดว่างานอื่น ๆ คงไม่ได้ทำ แล้วถ้าหากลงไปดูทุกงาน เดี๋ยวก็จะมีข้อครหาว่ารัฐมนตรีล้วงลูกอีก"
"ดังนั้น ตอนนี้มีบริษัทไหนไม่ได้งานแล้วมีการร้องเรียนเข้ามา อย่างที่ผมบอกผมก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร แล้วยินดีรับไปสอบสวน แต่ว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการร้องเรียนอะไร ซึ่งถ้าหากคุณจิรายุจะไปร้องเรียนกับหน่วยงานไหน เราก็ยินดี ถ้ามีหลักฐานอะไร เราก็ไม่ว่าอะไร"
"แต่เราก็สงสัยว่าทำไมคุณจิรายุถึงจิ้มเอากรมทรัพยากรน้ำบาดาล และทำไมจิ้มเอาหน่วยงานของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เราก็ไม่ทราบ”
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวก็ไม่อยากจะไปเป็นเครื่องมือให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทั้งคุณจิรายุและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งถ้าหากจะมีเรื่องร้องเรียนก็ทำกันไป เพราะว่าการปฏิบัติการของกระทรวงนับตั้งที่เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีนั้นก็มีการกำชับมาตลอดว่าให้ดำเนินงานด้วยความรอบคอบ และเป็นไปตามกฎระเบียบทั้งหมด
“ถ้าผมต้องไปดูการประมูลทุกตัว อย่าว่าแต่แค่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเลย แค่กรมอุทยานฯ แห่งเดียวผมก็ตายแล้ว"
"ถ้าจะบอกว่างบประมาณนั้นมีมูลค่าสูงเป็นนับพันล้านมันก็ถูกต้อง แต่เขาก็ไม่ได้มาประมูลกันรวดเดียวเป็นเงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้น เขาประมูลกันทีด้วยเงินประมาณ 5-10 ล้าน และมันก็ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐมนตรีด้วยที่จะต้องมาดูเรื่องการประมูลทุกเรื่อง มันเป็นเรื่องของอธิบดี ถ้าหากรัฐมนตรีลงไปดูถึงขนาดว่าใครเป็นใคร ใครมาประมูล ดีไม่ดี ผมอาจจะโดนฟ้องเอาได้ว่าทำงานเกินเลยหน้าที่ เพราะมันไม่ใช่อำนาจของรัฐมนตรี”
@ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เมื่อถามถึงกรณีที่สำนักข่าวอิศราได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบว่า บริษัทคู่ค้ารายใหญ่ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล 2 ราย คือ บริษัท สิทธิยนต์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท ไทยอินเตอร์คอนติเนนตัลกรุ๊ป จำกัด เป็นกลุ่มเดียวกัน
นายวราวุธ ตอบว่า อย่างที่บอกไปแล้วว่าถ้ามันมีความผิดปกติจนเป็นเหตุให้มีเรื่องร้องเข้ามา ส่วนตัวก็คงจะต้องมีการสั่งการให้ปลัดกระทรวงฯ เข้าไปดำเนินการตามระเบียบเรื่องการร้องเรียน
“แต่ว่าในเวลา 2 ปีที่ผ่านมาทุกครั้งที่ไปตรวจราชการ หรือว่า กรมน้ำบาดาล จนถึงวันนี้เราเห็นการดำเนินงานว่าผ่านไปได้ด้วยดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร ผลงาน พี่น้องประชาชนก็สามารถจับต้องได้ ถ้าหากมีประเด็นเข้ามา หรือมีประเด็นที่ทางหน่วยงานภายนอกรวมไปถึง สตง.ได้ตรวจสอบและแจ้งเข้ามาอันเกี่ยวข้องกับทุกกรมในกระทรวง ผมก็จะแทงให้ท่านปลัดดำเนินการตรวจสอบต่อไป” รมว.กระทรวงทรัพยากรฯกล่าว
และย้ำว่า ถ้าจะให้รัฐมนตรีมาเป็นกรรมการกับทุกรายการนั้น ก็คงจะไม่ใช่เรื่องแน่นอน
“ทุกกรมนั้นจะมีปัญหาอย่างนี้หมด ทำไมคนนี้ได้ ทำไมคนนี้ไม่ได้ ทำไมเป็นอย่างนี้ เช่นบอกว่ารถ 4 ล้อ เครื่องยนต์ 2,500 มี 4 ประตู มันก็มีตั้งแต่โตโยต้า โคโรล่า ไปจนถึงโรล์สรอยซ์ ซึ่งเหมือนกัน"
"คือเรื่องแบบนี้ผมถึงบอกว่ามันเป็นรายละเอียดที่ทางกรมฯ หรือผู้ปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องเป็นคนไปชี้แจงกับทางผู้ที่สงสัยหรือว่าผู้ที่ร้องเรียนเอา” รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ ระบุ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/