ป่วยโควิดใหม่ 6,428 ราย อาการหนัก 1,595 ราย รวมสะสม 2.07 ล้านราย ตาย 49 ราย เป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน 23 ราย ขณะที่นักท่องเที่ยวเข้าไทยแล้วกว่า 8.5 หมื่นราย พบติดเชื้อใหม่ 6 สะสม 112 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 6,428 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 6,418 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 5,732 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 113 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 553 ราย อีก 10 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,071,009 ราย
มีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย ผล ATK เป็นบวก 1,487 ราย รวมยอดสะสมตั้งแต่ 20 ส.ค. 2564 จำนวน 249,211 ราย
หายป่วยเพิ่ม 7,882 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 85,768 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,595 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 382 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 49 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 20,436 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 49 ราย มาจาก กทม. 6 ราย ปริมณฑล 2 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 ราย ภาคเหนือ 5 ราย ภาคใต้ 14 ราย และภาคกลาง 13 ราย แบ่งเป็นชาย 29 ราย หญิง 20 ราย อายุระหว่าง 14-95 ปี เป็นผู้ไม่เคยได้รับวัคซีน 23 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ส่วนปัจจัยเสี่ยงสูงสุดมาจาติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว เพื่อน อาศัยในพื้นที่ระบาด และประกอบอาชีพเสี่ยง
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 815 ราย สงขลา 457 ราย นครศรีธรรมราช 438 ราย ราชบุรี 289 ราย สุราษฎร์ธานี 280 ราย เชียงใหม่ 240 ราย ปัตตานี 195 ราย สมุทรปราการ 164 ราย ชลบุรี 150 ราย และยะลา 146 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ทั้งหมด 10 ราย แบ่งเป็น สหราชอาณาจักร 1 ราย เบลเยียม 1 ราย สวีเดน 1 ราย เนเธอแลนด์ 1 ราย เกาหลีใต้ 1 ราย อียิปต์ 1 ราย มาเลเซีย 3 ราย และกัมพูชา 1 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 71,076 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 101,076 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 13,487 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 88,989,235 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 46,718,014 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 39,202,716 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 3,068,505 ราย
นักท่องเที่ยวเข้าไทยติดเชื้อ 6 สะสม 112 ราย
ส่วนรายงานการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 มีผู้เดินทางเข้าประเทศรายใหม่ 5,591 ราย รวมสะสม 85,608 ราย จำแนกเป็น Test and Go 65,622 ราย Sandbox 16,228 ราย กักตัว 7 วัน 1,364 ราย และ กักตัว 10 วัน 2,394 ราย ติดเชื้อใหม่ 8 ราย รวมสะสม 112 ราย คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 0.13%
จังหวัดจับตามอง ติดเชื้อเกิน 100 ราย มีผลตรวจ ATK มากกว่า 5%
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงการตรวจหาเชื้อด้วย ATK ว่า ค่าเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 3-4% พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบป่วย 815 ราย คิดเป็น 14% ซึ่งผลตรวจมีแนวโน้มลดลงทั้งหมด ส่วนการเฝ้าระวังจังหวัดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดจากการพบผู้ติดเชื้อเกิน 100 รายต่อวันและมีผลตรวจ ATK มากกว่า 5% คือ จังหวัดสงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี กระบี่ และนครศรีธรรมราช ซึ่งบางจังหวัดเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวด้วย ส่วนจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มสูงขึ้น คือจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 100 รายต่อวัน แต่มีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด คือ จังหวัดเชียงราย ลำพูน พิษณุโลก และสิงห์บุรี
จับตาคลัสเตอร์งานศพ จ.กาญจนบุรี ติดเชื้อ 19 ราย
ส่วนการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน มีคลัสเตอร์ที่ต้องจับตาคือ คลัสเตอร์งานบุญประเพณี งานบวชและทอดกฐิน พบใน จ.ร้อยเอ็ด คลัสเตอร์งานศพ พบใน จ.กาญจบุรี เป็นกลุ่มก้อนรวม 19 ราย และ จ.อุดรธานี คลัสเตอร์แคมป์คนงาน พบที่ จ.สระแก้ว จ.ขอนแก่น จ.ลำพูน จ.เชียงใหม่ โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยว แต่ยังมีการติดเชื้อในจังหวัด และการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน คลัสเตอร์โรงเรียนพบที่ จ.อุบลราชธานี จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่ กทม.ยังพบคลัสเตอร์โรงงาน ตลาด สถานประกอบการ
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 386,888 รวมสะสม 257.82 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 386,888 ราย รวม 257,821,964 ราย อาการหนัก 79,730 ราย หายป่วย 232,719,287 ราย เสียชีวิต 5,167,773 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 27,484 ราย รวม 48,592,810 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 96 ราย รวม 793,651 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 291 ราย รวม 34,510,704 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวม 465,662 ราย บราซิล พบเพิ่ม 5,126 ราย รวม 22,017,276 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 97 ราย รวม 612,722 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกได้สรุปให้เห็นว่า อัตราติดเชื้อในส่วนสหรัฐค่อนข้างขยายปริมาณ อยู่ในกลุ่มสีเหลืองสูงสุด ส่วนสีเขียวจะอยู่ในกลุ่มยุโรป อย่างยุโรปตะวันออก มีปัญหาประชากรฉีดวัคซีนไม่ครอบคลุม ทำให้มีอัตราการติดเชื้อสูง ป่วยหนัก เสียชีวิตสูง ส่วนประเทศทางยุโรปตะวันตกแม้จะฉีดวัคซีนครอบคลุม แต่ยังลดอัตราการติดเชื้อไม่ได้ จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้นโยบายหลายประเทศแข็งกร้าวมากขึ้น อย่างบางประเทศประกาศว่า คนที่ไม่ฉีดวัคซีนจะไม่สามารถใช้บริการสถานที่สาธารณะต่างๆ รวมถึงขนส่งสาธารณะ
"บางประเทศมีการปิดเมือง จึงทำให้มีการประท้วงหลากหลายพื้นที่ของยุโรปเช่นกัน ตรงนี้ประเทศไทยจึงต้องติดตามยุโรป สหรัฐอย่างใกล้ชิด เพราะนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาไทย จะเป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรปและอเมริกาด้วย"
ไทยติดโควิด 6,428 หายป่วยกลับบ้าน 7,882 ตายเพิ่ม 49 ราย
อนึ่งเมื่อเวลา 07.52 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 6,428 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 5,732 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 133 ราย ภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 553 ราย และอีก 10 รายเดินทางมาจากต่างประเทศ
หากจำแนกผู้ป่วยรายใหม่ ตามพื้นที่ พบเป็นผู้ป่วยในจังหวัดกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1,195 ราย ผู้ป่วยใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ 883 ราย และเป็นผู้ป่วยในจังหวัดอื่นๆ 3,787 ราย
ทำให้มีผู้ป่วยรวมสะสมตังแต่ 1 เม.ย.2564 จำนวน 2,042,146 ราย นอกจากนี้มีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) 1,507 ราย รวมสะสม 325,864 ราย
ขณะที่มีผู้หายป่วยกลับบ้าน 7,882 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสมระลอกใหม่ 1,937,379 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 85,768 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,595 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 382 ราย และมีผู้เสียชีวิต 49 ราย รวมสะสม 20,436 ราย
สำหรับจังหวัดที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 815 ราย สงขลา 457 ราย นครศรีธรรมราช 438 ราย ราชบุรี 289 ราย สุราษฎร์ธานี 280 ราย เชียงใหม่ 240 ราย ปัตตานี 194 ราย สมุทรปราการ 164 ราย ชลบุรี 150 ราย และยะลา 146 ราย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage