โควิดโลกระบาดหนัก 'หมอธีระ' เตือนอย่าประมาท-การ์ดตก ด้าน 'หมอนิธิ' เผยมั่นใจไทยไม่มีทางรอด จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งระดมฉีดวัคซีนเตรียมพร้อม โดยเฉพาะกลุ่มเด็กนักเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2564 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ Thira Woratกanarat ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อทะลุ 257 ล้านคนไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 472,580 คน ตายเพิ่ม 5,535 คน รวมแล้วติดไปรวม 257,398,408 คน เสียชีวิตรวม 5,162,910 คน โดย 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน สหราชอาณาจักร รัสเซีย อเมริกาและโปแลนด์ จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 95.88 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 94.01%
ล่าสุด จำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นมากถึง 70.58% ของทั้งโลก พอๆ กับจำนวนเสียชีวิตเพิ่มที่คิดเป็น 63.07% และเมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก
สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 6,595 คน สูงเป็นอันดับ 17 ของโลก หากรวม ATK อีก 3,012 คน จะขยับเป็นอันดับ 14 ของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ไทยเป็นอันดับ 3 ของเอเชียรองจากตุรกีและเวียดนาม แต่ถ้ารวม ATK ด้วย ไทยจะมีจำนวนติดเชื้อเมื่อวานเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน
องค์การอนามัยโลกแสดงความเป็นห่วงว่าการระบาดระลอกนี้หนักมากในยุโรป หากไม่มีมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ คาดการณ์ว่าจะมีคนเสียชีวิตเพิ่มอีกถึง 500,000 คนภายในมีนาคมปีหน้า
ความยากลำบากของการควบคุมการระบาดในระยะถัดจากนี้ไปนั้นจะเป็นไปตามที่เคยแลกเปลี่ยนไว้ นั่นคือจะเกิดปัญหาที่ซับซ้อน ที่นอกจากจะมีด้านสุขภาพ และเศรษฐกิจแล้ว ยังมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาทางสังคมตามมาหนักขึ้นกว่าระลอกก่อนหน้านี้ได้ อาทิ ความขัดแย้ง โกลาหล ประท้วง จราจล รวมถึงอาชญากรรม ดังที่ตอนนี้เริ่มเห็นการเดินขบวนประท้วงในหลายประเทศในทวีปยุโรป เช่น ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ อิตาลี โครเอเชีย ไอร์แลนด์เหนือ ฯลฯ
สำหรับไทย จำนวนคนที่มาก แออัด ใกล้ชิด พบปะติดต่อกันเป็นเวลานานขึ้น จำนวนครั้งในการมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างการใช้ชีวิตประจำวันมีมากขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ครบองค์ประกอบของการระบาดของโรคติดต่อ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่จำนวนติดเชื้อสูง กระจายไปทั่วทั้งประเทศ มองในมุมการแพทย์แล้วยังไงก็ต้องระบาดมากขึ้นแน่นอน
วัคซีนคืออาวุธสำคัญ ที่ช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรง ลดโอกาสเสียชีวิต แต่ไม่ได้การันตี 100% ฉีดวัคซีนแล้วยังติดเชื้อได้ ป่วยได้ และตายได้ ดังที่เห็นในประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ฉีดด้วยวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง และครอบคลุมประชากรมากกว่าเรา ตอนนี้ก็กลับมาระบาดหนัก มีทั้งติดเชื้อมาก มีป่วย และตาย จนต้องหันกลับมาใช้มาตรการเข้มข้นอีก
การใส่หน้ากากเสมอ และเว้นระยะห่างจากคนที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของตัวเองและครอบครัวได้ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดเช่นนี้ จะทำอะไรก็ตาม ในช่วงถัดจากนี้ไป จงทำให้เป็นกิจวัตร “ไปในที่ที่คนน้อย ไม่แออัด ระบายอากาศดี เว้นระยะห่างจากคนอื่นมากกว่าหนึ่งเมตร แต่หากเลี่ยงไม่ได้ก็อยู่ในบริเวณนั้นให้สั้นที่สุดโดยใส่หน้ากากเสมอ
ทางด้าน ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก Nithi Mahanonda เรื่อง Golden Window Period ระบุว่า ช่วงเวลานี้ที่เรามีวัคซีนมากพอ การระบาดพอคุมได้ จึงเป็นหน้าต่างทองของช่วงเวลาที่สำคัญในการที่จะเร่งระดมฉีดวัคซีน ทั้งที่เป็นเข็มที่สามในคนที่ได้วัคซีนมาครบและถึงเวลาที่ควรมีการกระตุ้น และเป็นเข็มที่หนึ่งและสองในคนที่ยังไม่เคยได้เลย
ทั้งสองกลุ่มมีความสำคัญพอๆกัน ที่ผู้เกี่ยวข้องวางแผนควรเห็นความจำเป็นและให้ความสำคัญที่เท่าๆกัน และที่สำคัญคือควรให้ความสำคัญในกลุ่มเด็กอายุน้อยๆ ทุกช่วงอายุด้วย อย่าทำให้เด็กๆ และพ่อแม่เด็กๆต้องเครียดไปกว่านี้ เด็กไม่ได้ไปโรงเรียนกันเป็นปีแล้ว
สำหรับเหตุผลที่ต้องรีบฉีดช่วงเวลานี้ เพราะประเทศอื่นๆทั่วโลก ได้มีการระบาดระลอกที่ 4 และ 5 อย่างรุนแรง ไม่มีเหตุผลที่ประเทศไทยจะรอดไปได้ แต่อาจทำให้เบาลงได้ ด้วยการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึง ทั้งในคนที่ไม่เคยได้รับเลย ในคนที่ถึงเวลาควรได้รับการกระตุ้น และในทุกช่วงอายุครับ วัคซีนมีพอแล้วรีบกระจายให้ดี ในต่างจังหวัดยังได้กันอยู่น้อย อย่าช้า อย่านอนใจ และอย่าประมาท และอย่าลืมเด็กๆ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage