ศบค.รายงานยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 6,343 ราย เสียชีวิต 45 ราย เป็นผู้สูงอายุ-ป่วยเรื้อรัง 96% สถานการณ์ภาคใต้ 6 จังหวัดยังติดเชื้อสูง ยอดติดเชื้อรายใหม่ ขณะที่กทม.เพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อวานนี้ พร้อมเผยรายชื่อ 10 จังหวัดฉีดเข็ม 1 ในกลุ่มประชาชนทั่วไป-กลุ่ม 608 ต่ำที่สุด เร่งรับวัคซีนเพิ่ม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2564 เวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดประจำวันเพิ่มเติมว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,343 ราย และมีผู้เสียชีวิต 45 ราย โดยเป็นผู้สูงอายุ 31 ราย คิดเป็น 69% และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 12 ราย คิดเป็น 27% ซึ่งหากรวมกันพบมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 96% และมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากในครอบครัว คนรู้จัก และอาศัยในพื้นที่ระบาด
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม. 790 ราย สงขลา 462 ราย นครศรีธรรมราช 428 ราย เชียงใหม่ 376 ราย ปัตตานี 318 ราย สุราษฎร์ธานี 231 ราย ยะลา 207 ราย นราธิวาส 193 ราย ชลบุรี 185 ราย และสมุทรปราการ 168 ราย
ด้านผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 12 ราย เดินทางมาจากมาเลเซีย 1 ราย เยอรมนี 1 ราย ฟินแลนด์ 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย เบลเยียม 1 ราย เมียนมา 4 ราย และกัมพูชา 3 ราย
นอกจากนั้น มีผู้ได้รับวัคซีนโควิดเพิ่ม 545,174โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 169,641 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 351,591 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 23,942 ราย รวมสะสม 85,012,905 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 45,374,194 ราย คิดเป็น 63% ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 36,855,732 ราย คิดเป็น 51.2% และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 2,782,979 ราย คิดเป็น 3.9%
สำหรับจังหวัดที่มีความครอบคลุมได้รับวัคซีนโควิดเข็มที่ 1 ต่ำที่สุด 10 จังหวัด ได้แก่ นครพนม หนองบัวลำภู บึงกาฬ สกลนคร กาฬสินธุ์ แม่ฮ่องสอน สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอ่างทอง
ขณะเดียวกันจังหวัดที่มีความครอบคลุมได้รับวัคซีนโควิดเข็มที่ 1 ในกลุ่ม 608 หรือ กลุ่มผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยเรื้อรัง ต่ำที่สุด 10 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน นครนายก สุพรรณบุรี ราชบุรี อ่างทอง ขอนแก่น ลพบุรี กาญจนบุรี ปัตตานี และสระบุรี
“ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเข้าไปรับวัคซีนเพิ่ม เพื่อสุขภาพของท่านเอง ทั้งนี้ได้มีข้อเสนอมาตรการเร่งรัดฉีดวัคซีน จากที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุขให้จัดกิจกรรมสัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีน 27 พ.ย.-5 ธ.ค.นี้ พร้อมจัดทีมฉีดวัคซีนเชิงรุก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และขยายให้กลุ่มแรงงานต่างด้าวด้วย และอาจมีสิ่งจูงใจให้ประชาชนฉีดวัคซีนระดับพื้นที่ เช่น สิ่งของ รางวัล เป็นต้น หรือระดับประเทศ เช่น ของรางวัล คนละครึ่ง ส่วนลดพิเศษ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมและสรุปเป็นมาตรการต่อไป ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นักท่องเที่ยวเข้าไทยสะสมทะลุ 5 หมื่น ติดเชื้อ 56 คน
ส่วนรายงานการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ประจำวันที่ 14 พ.ย.2564 มีผู้เดินทางเข้าประเทศ 5,105 ราย จำแนกเป็น Test and Go 4,378 ราย Sandbox 577 ราย กักตัว 7 วัน 82 ราย และ กักตัว 10 วัน 68 ราย รวมสะสมผู้เดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่ 1 พ.ย.2564 จำนวน 50,074 ราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย สะสมแล้ว 56 ราย
โดยจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศ จำแนกตามประเทศต้นทาง 10 ประเทศแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เยอรมนี สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส รัสเซีย เกาหลีใต้ อิสราเอล และสวิตเซอร์แลนด์
ทั่วโลกป่วยเพิ่ม 347,414 รวมสะสม 254.02 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 347,414 ราย รวม 254,026,295 ราย อาการหนัก 77,491 ราย หายป่วย 229,679,935 ราย เสียชีวิต 5,115,131 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 24,193 ราย รวม 47,916,190 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 126 ราย รวม 783,565 ราย และบราซิล พบเพิ่ม 4,129 ราย รวม 21,957,967 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 63 ราย รวม 611,318 ราย
ไทยติดโควิดใหม่ 6,343 กำลังรักษา 94,163 เสียชีวิตอีก 45 ราย
อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 07.48 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิดภายในประเทศไทยประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,343 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,995,890 ราย
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,343 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 ราย ติดเชื้อในประเทศ 6,331 ราย เป็นผู้ป่วยในเรือนจำ 188 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดกรุงเทพและปริมณฑล 1,181 ราย ผู้ป่วยใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ 1,180 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดอื่น ๆ 3,782 ราย
ส่วนการรักษา มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 7,663 ราย ยอดหายป่วยสะสม 1,883,065 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 94,163 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 45 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 19,987 ราย
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/