ป่วยโควิดใหม่ 7,057 ราย อาการหนัก 1,818 ราย รวมสะสม 2.01 ล้านราย ตายเพิ่ม 55 ราย ผล ATK เป็นบวก ติดเชื้อเข้าข่าย 2,879 ราย ขณะที่ยอดฉีดวัคซีนสะสมแตะ 84 ล้านโดสแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2564 ศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 7,057 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 7,042 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 6,508 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 336 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 198 ราย อีก 15 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,011,331 ราย
มีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย ผล ATK เป็นบวก 2,879 ราย รวมยอดสะสมตั้งแต่ 20 ส.ค. 2564 จำนวน 232,123 ราย
หายป่วยเพิ่ม 7,393 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 95,413 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,818 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 430 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 55 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 19,989 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 55 ราย มาจาก กทม. 7 ราย ปริมณฑล 6 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 ราย ภาคเหนือ 11 ราย ภาคใต้ 18 ราย และภาคกลาง 9 ราย แบ่งเป็นชาย 27 ราย หญิง 28 ราย อายุระหว่าง 31-92 ปี โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ส่วนปัจจัยเสี่ยงสูงสุดมาจาติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว เพื่อน อาศัยในพื้นที่ระบาด และประกอบอาชีพเสี่ยง
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 667 ราย สงขลา 463 ราย เชียงใหม่ 455 ราย ปัตตานี 377 ราย นครศรีธรรมราช 346 ราย สมุทรปราการ 251 ราย สุราษฎร์ธานี 245 ราย ยะลา 213 ราย ชลบุรี 189 ราย และนราธิวาส 186 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 15 ราย แบ่งเป็น รัสเซีย 2 ราย มาเลเซีย 1 ราย เยอรมนี 1 ราย โปแลนด์ 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย สิงคโปร์ 1 ราย และกัมพูชา 7 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 259,689 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 481,230 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 33,025 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 84,094,565 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 45,069,302 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 36,281,904 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 2,743,359 ราย
นักท่องเที่ยวเข้าไทยติดเชื้อใหม่ 8 สะสม 46 ราย
ส่วนรายงานการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 มีผู้เดินทางเข้าประเทศรายใหม่ 4,545 ราย รวมสะสม 39,519 ราย จำแนกเป็น Test and Go 27,361 ราย Sandbox 10,220 ราย กักตัว 7 วัน 634 ราย และ กักตัว 10 วัน 1,304 ราย ติดเชื้อใหม่ 8 ราย รวมสะสม 46 ราย คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 0.11%
สำหรับผู้เดินทางมาจากประเทศต้นทางสูงสุด 10 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน และอิสราเอล
ส่วน 10 ประเทศต้นทางที่มีอัตราการติดเชื้อ มากที่สุด ได้แก่ ไนจีเรีย ศรีลังกา ตุรกี รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ โปแลนด์ สหราชอาณาจักร อิตาลี และเบลเยี่ยม
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 504,789 รวมสะสม 253.20 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 504,789 ราย รวม 253,203,758 ราย อาการหนัก 76,945 ราย หายป่วย 228,993,776 ราย เสียชีวิต 5,104,030 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 90,208 ราย รวม 47,834,810 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 987 ราย รวม 782,933 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 423 ราย รวม 34,414,609 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 203 ราย รวม 462,893 ราย บราซิล พบเพิ่ม 14,424 ราย รวม 21,940,950 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 612 ราย รวม 610,935 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก
ป่วยโควิดเพิ่ม 7,057 อยู่ระหว่างรักษาตัว 95,413 ราย
อนึ่งเมื่อเวลา 9.10 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 7,057 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 7,042 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 6,508 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 336 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 198 ราย อีก 15 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมจากการระบาดระลอกใหม่ (ตั้งแต่ 1 เม.ย.) 1,982,468 ราย และมีผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจาก ATK 2,893 ราย
ทั้งนี้ มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่มเติม 7,393 ราย สะสมรวม (ตั้งแต่ 1 เม.ย.) 1,868,503 ราย อยู่ระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาล 95,413 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,818 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 430 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 55 ราย สะสมรวม (ตั้งแต่ 1 เม.ย.) 19,895 ราย
เป็นผู้ป่วยในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล 1,182 ราย จาก 4 จังหวัดชายแดนใต้ 1,239 ราย และจังหวัดอื่นๆ 4,423 ราย
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม. 667 ราย สงขลา 463 ราย เชียงใหม่ 455 ราย ปัตตานี 377 ราย นครศรีธรรมราช 346 ราย สมุทรปราการ 251 ราย สุราษฎร์ธานี 245 ราย ยะลา 213 ราย ชลบุรี 189 ราย และนราธิวาส 186 ราย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/