ครม.เห็นชอบจัดตั้ง ‘บมจ.เคหะสุขประชา’ ทุน 500 ล้านบาท ดึงเอกชนร่วมทุน 51% ทำบ้านเช่า 1 แสนหลัง ภายใน 4 ปี คาดสร้างรายได้ 6 หมื่นล้าน พร้อมซื้อทรัพย์สิน ‘บ้านเอื้ออาทร’ 1.8 หมื่นหน่วย จาก ‘กคช.’ มาบริหารการขาย
...............................
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการการจัดตั้ง บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ พร้อมเห็นชอบปรับเพิ่มกรอบงบลงทุนประจำปีงบ 2565 หมวดลงทุนอื่นๆ ของ กคช. จำนวน 245 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนจดทะเบียนจัดตั้ง บมจ.เคหะสุขประชา
ทั้งนี้ บมจ.เคหะสุขประชา มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท โดย กคช.จะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 49% ของทุนจดทะเบียน หรือคิดเป็นเงินลงทุน 245 ล้านบาท และเอกชนถือหุ้นในสัดส่วน 51% หรือคิดเป็นเงินลงทุน 255 ล้านบาท
นายธนกร ระบุว่า การจัดตั้ง บมจ.เคหะสุขประชา ดังกล่าว ถือเป็นกลไกในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และที่อยู่อาศัย เพื่อยกระดับเศรษฐกิจในครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยในชุมชน โดย กคช.จะร่วมกับ บมจ.เคหะสุขประชา ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ในรูปแบบรัฐร่วมลงทุนกับเอกชน หรือ PPP (Public Private Partnership) ภายใต้ พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ประกอบด้วย
1.พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคที่อยู่อาศัย โดยจัดทำโครงการบ้านเช่าฯ จำนวน 100,000 หน่วย ภายใน 4 ปี (ปี 2565-68) แบ่งเป็น ปี 2565-66 ปีละ 30,000 หน่วย และปี 2567-68 ปีละ 20,000 หน่วย
โดยมีรูปแบบที่อยู่อาศัย 4 รูปแบบ ครอบคลุม 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้ กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ แบบบ้านแฝดชั้นเดียว/2ชั้น ที่ดิน 16 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร อัตราค่าเช่า 1,500 บาทต่อเดือน ,กลุ่มผู้มีสถานะโสด แบบบ้านแฝดชั้นเดียว/2ชั้น ที่ดิน 16 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร อัตราค่าเช่า 2,000 บาทต่อเดือน ,กลุ่มครัวเรือนใหม่ แบบบ้านแฝดชั้นเดียว/2ชั้น ที่ดิน 17.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 40 ตารางเมตร อัตราค่าเช่า 2,500 บาทต่อ เดือน
และกลุ่มครอบครัว แบบบ้านแฝดชั้นเดียว/2ชั้น ที่ดิน 20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร อัตราค่าเช่า 3,500 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ คาดว่าในช่วง 4 ปี (ปี 2565-68) จะมีรายรับจากการโครงการ 60,000 ล้านบาท
2.รับซื้อทรัพย์สินมาบริหารการขาย โดยรับซื้ออาคารคงเหลือจาก กคช. เช่น โครงการบ้านเอื้ออาทร ประมาณ 18,000 หน่วย ภายใน 2 ปี (ปี 2564-66) หรือปีละ 9,000 หน่วย และนำมาบริหารการขายในช่วง 4 ปี (2565-67) แบ่งเป็นปี 65 จำนวน 7,200 หน่วย ,ปี 2566 จำนวน 6,000 หน่วย ,ปี 2567 จำนวน 1,800 หน่วย และปี 2568 จำนวน 3,000 หน่วย ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าการขายรวม 10,890 ล้านบาท
3.พัฒนาและบริหารชุมชน โดยจะบริหารชุมชนของโครงการบ้านเช่าฯ และรับจ้างดูแลโครงการตามแผนแม่บทฯ รวมจำนวน 200,000 หน่วย โดยจะคิดค่าดำเนินการพัฒนาธุรกิจ 5% ของรายได้ 40,000 บาทต่อครอบครัว หรือคิดเป็นประมาณการรายรับ 2,400 ล้านบาทต่อปี
4.พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน (เศรษฐกิจสุขประชา) ในพื้นที่โครงการบ้านเช่า ประมาณ 330 โครงการ อาทิ ตลาดนัดชุมชน ร้านสะดวกซื้อ เกษตรอินทรีย์ เป็นต้น คิดเป็นประมาณการรายรับ 2,400 ล้านบาทต่อปี
5.บริหารทรัพย์สินรอการพัฒนา Sunk cost จำนวน 94 แปลง (4,571 ไร่) มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท คิดเป็นประมาณการรายได้พึงรับ 125 ล้านบาท/ปี
“บมจ.เคหะสุขประชา เป็นรูปแบบการร่วมทุนของภาครัฐและเอกชนเพื่อจะพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานโดยเฉพาะที่อยู่อาศัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ผู้มีรายได้น้อยตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (2560-79) อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในทุกระดับ เพื่อนำไปสู่ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน” นายธนกร ระบุ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage