ศบค.ห่วงคลัสเตอร์ทอดกฐิน-แคมป์ก่อสร้าง-งานศพ-ตลาด พบติดโควิดหลายจังหวัด ขอทุกคนป้องกันตนเองสูงสุด หากร่วมมือกันป้องกันเข้มงวดการติดเชื้อจะลดลง หากย่อหย่อยผู้ป่วยอาจขยับขึ้นมาเป็นหลายหมื่นราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) กล่าวถึงคลัสเตอร์ที่ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศปก.ศบค.) เป็นห่วง ว่า ศปก.ศบค.เป็นห่วงและเน้นย้ำมาตลอด คือ คลัสเตอร์งานทอดกฐิน ในจังหวัดยโสธร ขณะที่จังหวัดร้อยเอ็ด พบกลุ่มที่กลับจากการทอดกฐินที่จังหวัดขอนแก่น นอกจากนั้นยังมีรายงานอีกที่จังหวัดศรีสะเกษ ประจวบคีรีขันธ์ สิงห์บุรี กาญจนบุรี และสตูล ขณะที่งานศพ มีรายงานที่จังหวัดกาฬสินธุ์ กาญจนบุรี พัทลุง และสงขลา
“ในส่วนของงานทอดกฐิน ที่จะมีตลอดทั้งเดือนขอความร่วมมือจังหวัด วัด สถานที่จัดงาน ขอประชาชนให้ระมัดระวังขอให้ยึดมาตรการป้องกันตนเองสูงสุด และปฏิบัติการตามมาตรการสาธารณสุขในวัดและตลอดการเดินทางอย่างเข้มงวด หลายคนใช้รถหรือรถบัสเป็นรถโดยสาร อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้” พญ.อภิสมัย กล่าว
ขณะที่เกิดคลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้าง ใน กทม. เชียงใหม่ ขอนแก่น นครนายก จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ส่วนคลัสเตอร์ที่เกิดในโรงงาน สถานและสถานประกอบการ มีรายงานจากขอนแก่น สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพัทลุง
ทั้งนี้ พบคลัสเตอร์ตลาด ในเชียงใหม่อีก 65 ราย และในพื้นที่อีกหลายจังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ อุดรธานี พิษณุโลก จันทบุรี ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี และสงขลา
“ต้องเน้นย้ำประชาชน แม้ในช่วงนี้เห็นมาตรการผ่อนคลายลง แต่การเฝ้าระวังการติดเชื้อ การแพร่ระบาดในครอบครัว ชุมชน เป็นสิ่งที่กรมควบคุมโรคเน้นย้ำต่อเนื่อง” พญ.อภิสมัย กล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงทิศทางการคาดการณ์ติดเชื้อหลังเปิดประเทศ ด้วยว่า จากที่เคยเรียนก่อนหน้านี้ คือ ฉากทัศน์สีเขียว กรณีที่ร่วมมือกัน เข้มงวดมาตรการทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการ และการร่วมมือของประชาชนจะเห็นการติดเชื้อที่ลดลง
ขณะที่ปัจจุบัน แม้จะมีการเปิดประเทศแล้ว จะเห็นว่าเรายังประคับประคองให้อยู่ในฉากทัศน์สีเขียว และอยากเห็นทิศทางอย่างนี้ต่อไป แต่ฉากทัศน์ที่แสดงให้เห็นเป็นสีดำ คือ กรณีที่ย่อหย่อนมาตรการ หากร้านอาหารเปิด โรงเรียน และสถานประกอบการ หละหลวม อาจทำให้การติดเชื้อขยับขึ้นมาเป็นระดับหลายหมื่นรายเหมือนที่เคยป็นมาก่อน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage