นายกฯขอบคุณทุกภาคส่วนขานรับการเปิดประเทศ เผยนักท่องเที่ยวลงทะเบียน Thailand Pass ผ่าน tp.consular.go.th เข้าประเทศแล้วกว่า 9 หมื่นคน พร้อมฝากเตือนระวังเว็บไซต์ปลอม ส่วนของคนไทยเที่ยวในประเทศคึกคักไม่แพ้กัน มีประชาชนลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ทะลุ 8 แสนคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามผลการเปิดประเทศและขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในการเปิดประเทศนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยข้อมูล ณ วันที่ 5 พ.ย.2564 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งแบบการยกเว้นการกักตัว (Test and Go) พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (Sandbox Programme) และการกักตัว ณ สถานกักกัน (Alternative Quarantine) รวมจำนวน 16,595 คน ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา เยอรมนี สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์
นอกจากนี้ในส่วนของความคืบหน้าการเปิดประเทศด้วยระบบ Thailand Pass ณ วันที่ 6 พ.ย.2564 มีผู้ลงทะเบียนขอเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านระบบ Thailand Pass ทางเว็บไซต์ https://tp.consular.go.th แล้วจำนวน 90,165 คน ได้รับอนุมัติแล้ว 33,788 คน และฝากเตือนว่าขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพสร้างเว็บไซต์ www.thailandpass.org อ้างว่าเป็นของภาครัฐซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บไซต์ปลอม ขอให้ทุกคนระวังอย่าหลงเชื่อ
ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังคาดอีกว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ คือ เดือน พ.ย.-ธ.ค. จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเดือนละ 300,000 คน คิดจากจำนวน 10% ของปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเดือนละ 3 ล้านคน เมื่อรวมกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาก่อนหน้านี้ ตลอดปีนี้คงอยู่ที่ประมาณ 700,000 คน ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2564 ตอนนี้ยอดนักท่องเที่ยวสะสมอยู่ที่ 65,661 คน มียอดการจองโรงแรมที่ได้เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย SHA Plus ตลอดไตรมาส 3 (ก.ค.2564 -ก.พ.2565) จำนวน 951,710 คืน มีเที่ยวบินเข้ามาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน
นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนั้นในส่วนของคนไทยที่เที่ยวในประเทศก็คึกคักไม่แพ้กัน ซึ่งโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย ก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ในส่วนของโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 มีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้วจำนวน 809,255 คน ผู้ประกอบการ 5,941 คน ยอดการจองโรงแรมที่พักสะสม 808,315 ห้อง ทำให้ยอดสะสมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 1-3 กว่า 8.9 ล้านคน มูลค่าสะสมรวมกว่า 3,266.8 ล้านบาท และในส่วนของโครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่รัฐบาลจะสนับสนุนค่าแพ็คเกจท่องเที่ยว 40% ไม่เกิน 5,000 บาทต่อสิทธิ จำนวน 1 ล้านสิทธิ ล่าสุดมีบริษัททัวร์สมัครลงทะเบียนเพิ่มขึ้นจำนวนกว่า 727 คน และบริษัทนำเที่ยวที่เปิดถุงเงินแล้วจำนวน 1,816 คน ยอดรวมมูลค่าการเดินทางและค่าใช้จ่ายการสะสม 1.4 ล้านบาท ข้อมูล ณ วันที่ 4 พ.ย.2564 โดยประชาชนสามารถจองแพ็คเกจทัวร์ผ่านผู้ประกอบการนำเที่ยวโดยตรง และใช้สิทธิทั้ง 2 โครงการได้ถึง 31 ม.ค.2565
"เชื่อมั่นว่าภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงปลายปีจะมีความคึกคักมากขึ้น จากการประกาศเดินหน้าเปิดประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในการพักผ่อนหลังจากสถานการณ์โควิด เริ่มคลี่คลาย นอกจากนี้ส่วนหนึ่งยังมาจากความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของไทยกับการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ที่มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น รัฐบาลเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิดอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย นักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและคนไทยให้ความร่วมมือยึดมาตรการป้องกันตัวเองแบบ Universal Prevention รวมทั้งผู้ประกอบการที่พัก/โรงแรม/ ร้านค้า ร้านอาหารปฏิบัติตามข้อกำหนด COVID Free Setting เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยอีกด้วย” นายธนกร กล่าว
นายกฯสั่งเร่งแก้ปัญหาระบบ Thailand Pass ออก QR Code ล่าช้า
ขณะเดียวกัน นายธนกร กล่าวถึงนายกรัฐมนตรีรับทราบปัญหาผู้ลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass บางรายไม่ได้รับ QR Code หรีอได้รับล่าช้า โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปรับปรุงระบบ Thailand Pass ให้สามารถบริการผู้เดินทางได้สะดวกขึ้น เพื่อรองรับคนไทยที่ต้องการกลับบ้านและ ชาวต่างประเทศที่เดินทางมาไทยเพื่อท่องเที่ยวหรือทำงาน
ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กรมควบคุมโรค ได้ร่วมกันเพิ่มประสิทธิภาพระบบ Thailand Pass ให้สามารถบริการผู้เดินทางได้สะดวกขึ้น ได้แก่ พัฒนาให้ผู้ยื่นคำร้องสามารถยื่นเอกสารในรูปแบบ pdf file ด้วย, ทำ drop down list ให้เลือกโรงแรมที่ผูกกับโรงพยาบาล เพิ่ม function ให้ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้ โดยไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำ กำลังเร่งประสานงานเพิ่มรายชื่อประเทศที่สามารถอ่าน digital vaccine certificate แบบอัตโนมัติให้ได้มากขึ้นจากที่มีอยู่ปัจจุบัน 30 ประเทศ เพื่อลดภาระเจ้าหน้าที่ในการตรวจเอกสาร, จากเดิมระบบกำหนดให้รอผลการตรวจสอบใบวัคซีนภายใน 7 วัน ปัจจุบันให้ลดลงเหลือ 3 วันแล้ว
สำหรับผู้มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องเดินทาง สามารถติดต่อสถานทูตไทยได้ทุกแห่ง หรือแจ้งปัญหามา ที่ call center กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศหมายเลข 02-5758442 นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ตอบคำถามใน Facebook และ Twitter และจัดทำ FAQ คำถามถามบ่อยเผยแพร่ทุกช่องทางด้วย
ด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แจงสาเหตุการเกิดปัญหาผู้ลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass บางรายไม่ได้รับคิวอาร์โค้ด (QR Code) อาจมาจาก 4 ปัจจัย ดังนี้
- ผู้ลงทะเบียนไม่ได้อัพโหลดเอกสารการได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ตามคำแนะนำที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มเอกสาร เอกสารที่โหลดจากกระดาษที่ไม่ชัดเจน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจเอกสารด้วยตาเปล่า เพราะไม่สามารถตรวจด้วยระบบการอนุมัติอัตโนมัติได้
- กรอกข้อมูลและแนบเอกสารต่างๆ ไม่ตรงตามรายการที่กำหนด อีกทั้งเอกสารการเข้าพักในโรงแรมที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลที่รับตรวจ RT-PCR
- มีการลงข้อมูลซ้ำหลายครั้ง ทำให้เกิดความสับสนในการพิจารณาอนุมัติ บางกรณีลงข้อมูลซ้ำแต่ระบุเงื่อนไขการเข้าพื้นที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น วันที่หนึ่ง ระบุว่าจะเข้าด้วยวิธี EQ (ยกเว้นการกักตัว) แต่ลงทะเบียนวันที่สอง เลือกแบบแซนด์บอกซ์เป็นต้น
- ผู้ลงทะเบียนกรอกอีเมล์ผิด หรือหน่วยความจำอีเมล์เต็ม ทำให้ไม่ได้รับอีเมล์ตอบรับหรือส่ง QR Code
ทั้งนี้ ตรวจพบว่าอีเมล hotmail ไม่รับอีเมล์ตอบกลับ ซึ่งกำลังประสานงานกับ บรัษัท Microsoft เพื่อแก้ปัญหา ระหว่างนี้แนะนำให้ใช้อีเมล์อื่นในการลงทะเบียน
นายธานี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผู้เดินทางควรเผื่อเวลาให้ตรวจสอบใบรับรองการฉีดวัคซีนล่วงหน้า แม้ประกาศจะกำหนดว่าใช้เวลาพิจารณาเอกสาร 7 วัน แต่โดยเฉลี่ยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถตรวจใบรับรองวัคซีนได้ใน 3 วัน สำหรับผู้มีความจำเป็นเร่งด่วนฉุกเฉินขอให้ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลใหญ่ไทยในเมืองที่อาศัยอยู่ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประสานงานตลอดเวลาในการรับข้อขัดข้องเทคนิคต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงระบบไทยแลนด์พาสให้สามารถบริการผู้เดินทางได้สะดวกขึ้น อาทิ การพัฒนาให้ผู้ยื่นคำร้องสามารถยื่นเอกสารในรูปแบบ pdf file ด้วย การทำ drop down list ให้เลือกโรงแรมที่ผูกกับโรงพยาบาล การเพิ่มฟังก์ชั่นให้ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้ โดยไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำ
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ call center กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศหมายเลข 02-5728442 ซึ่งปัจจุบันได้เพิ่มคู่สายเป็น 30 สายแล้ว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage