สธ.เผยภาพรวมผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิดที่คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาแล้ว 842 ราย พบผู้เสียชีวิตเกี่ยวข้องวัคซีน จากภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ 2 ราย และแพ้รุนแรงร่วมกับภาวะช็อก 1 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2564 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวประเด็นอาการที่พบหลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด โดย นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กล่าวว่า อาการที่พบหลังฉีดวัคซีนแบบสลับชนิดซิโนแวคเป็นเข็มที่ 1 ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 2 และการกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและวัคซีนไฟเซอร์ ส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับวัคซีนมีอาการเพียงเล็กน้อย โดยมีผู้ต้องเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยใน และมีอาการแสดงหลังฉีดวัคซีนดังนี้
-
การฉีดวัคซีนสลับชนิด (วัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 1, วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2) มีผู้ป่วยในจำนวน 955 ราย และมีอาการแสดงหลังฉีดวัคซีน คือ มีไข้ 31.62% ปวดศีรษะ 23.04% คลื่นไส้ 19.90% อาเจียน 19.48% และเวียนศีรษะ 17.80% ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนสูตรสลับชนิด 205 ราย คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาแล้ว พบไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่เป็นเหตุการณ์ร่วมที่เกิดช่วงเวลาใกล้เคียงกัน 30 ราย ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน 14 ราย ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสรุปว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน 7 ราย และอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล 154 ราย
-
การฉีดวัคซีนวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีผู้ป่วยใน 163 ราย และมีอาการหลังฉีดวัคซีน คือ มีไข้ 35.58% ปวดศีรษะ 31.29% คลื่นไส้ 23.31% ปวดกล้ามเนื้อ 22.09% และอาเจียน 22.09% ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนกระตุ้นด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 10 ราย คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาแล้ว พบไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่เป็นเหตุการณ์ร่วมที่เกิดช่วงเวลาใกล้เคียงกัน 2 ราย และอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล 8 ราย
-
การฉีดวัคซีนวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนไฟเซอร์ มีผู้ป่วยใน 48 ราย และมีอาการหลังฉีดวัคซีน คือ เวียนศีรษะ 27.08% มีไข้ 22.92% ปวดศีรษะ 20.83% คลื่นไส้ 20.83% และเจ็บแน่นหน้าอก 18.75% ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนกระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์ คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาแล้ว พบไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่เป็นเหตุการณ์ร่วมที่เกิดช่วงเวลาใกล้เคียงกัน 1 ราย ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน 1 ราย ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสรุปว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน 1 ราย และอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล 3 ราย
นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงภาพรวมการพิจารณาผู้เสียชีวิตหลังได้รับวัคซีน ของคณะผู้เชี่ยวชาญว่า จากที่ได้รับรายงาน 1,296 ราย คณะผู้เชี่ยวชาญได้พิจารณาแล้ว 842 ราย ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวข้องวัคซีน แต่เป็นเหตุการณ์ร่วมจากภาวะโรคอื่น 541 ราย ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องวัคซีน 66 ราย ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสรุปว่าเกี่ยวข้องวัคซีน 41 ราย และรอสรุปสาเหตุการเสียชีวิต 191 ราย
ทั้งนี้มีเหตุการณ์ที่สรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน พบ 3 ราย จำแนกเป็น ภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ 2 ราย และอาการแพ้รุนแรงร่วมกับภาวะช็อก 1 ราย
“ถึงเห็นตัวเลขแบบนี้ ในระบบการรายงานของเราก็เป็นมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกยอมรับ เหมือนกับที่ทั่วโลกดำเนินการ ของอเมริกาเองก็มีการสรุปตัวเลขเหล่านี้ เมื่อช่วงกลางปีมาก็มีรายงานมากกว่า 4 พัน ตอนนี้คงมีรายงานความก้าวหน้าต่อเนื่อง จำนวนที่เกี่ยวข้องก็เยอะขึ้นไปมากกว่าเดิมอีก” นพ.เฉวตสรร กล่าว
นักท่องเที่ยวติดโควิด 4 ราย
สำหรับผลการดำเนินงานการรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทยสะสม ประจำวันที่ 3 พ.ย.2564 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 7,124 ราย จำแนกตามเป็น Test and Go 6,305 ราย Sandbox 270 ราย การกักตัว 549 ราย แยกเป็น กักตัว 7 วัน 160 ราย และกักตัว 10 วัน 389 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อ 4 ราย อัตราการติดเชื้อคิดเป็น 0.06 %
“การตรวจพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าประเทศไทย 4 รายนั้น แสดงให้เห็นว่าระบบของเรามีความตื่นตัวและตรวจจับได้ แม้ก่อนเดินทางมาจะตรวจ RT-PCR ไม่พบ แต่มาถึงเราก็พบ แต่มีอัตราที่ต่ำมาก ทำให้เกิดความปลอดภัยในการรับนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ” นพ.เฉวตสรร กล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage