ศปก.กต. ออกประกาศอนุญาตเพิ่ม 63 ปท. เสี่ยงโควิดต่ำ เดินทางเข้าไทยได้ไม่ต้องกักตัว-จำกัดพื้นที่ ตามแผนเปิดประเทศรัฐบาล
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สื่อช่อสะอาด เผยแพร่ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2564 นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการมาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศ ได้ลงนามในประกาศเรื่องการกำหนดรายชื่อประเทศและพื้นที่ต้นทางที่อนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร สำหรับบุคคลประเภท (13) หรือ "ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล" จำนวน 63 ประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว และจำกัดพื้นที่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้ออกประกาศ 46 ประเทศ และพื้นที่ต้นทางเข้าไทยไม่ต้องกักตัว เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 มาแล้ว (ดูรายชื่อแนบท้าย)
ในประกาศระบุว่า ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 17/2564 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2564 กำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศ (ศปก.กต.) อนุมัติประเทศและพื้นที่ที่อนุญาตให้ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรสำหรับบุคคลประเภท (13) "ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล" ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข และการเสนอของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดย ศปก.กต ได้ประกาศรายชื่อประเทศและพื้นที่ต้นทางที่อนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรสำหรับบุคคลประเภท (13) เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 แล้ว นั้น
บัดนี้ ได้มีการทบทวนรายชื่อประเทศและพื้นที่ต้นทางที่อนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรสำหรับบุคคลประเภท (13) โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ประกอบกับปัจจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศและพื้นที่นั้น ๆ
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้า ศปก.กต. จึงประกาศรายชื่อประเทศและพื้นที่ต้นทางสำหรับบุคคลประเภท (13) ที่ผู้เดินทางจากประเทศและพื้นที่ดังกล่าวได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 63 ประเทศดังกล่าว (ดูประกาศประกอบ)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/