ราชกิจจานุเบกษา แพร่ข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 36 รองรับมาตรการเปิดประเทศ เฉพาะพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด ยกเลิกเคอร์ฟิว-ห้ามรวมกลุ่มเกิน 500 คน - มอบอำนาจผู้ว่าฯเสนอนายกฯล็อกดาวน์-ผ่อนคลายรายอำเภอ แต่ยังห้ามเปิดผับบาร์ สถานบันเทิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ราชกิจจานุเบกษา แพร่คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ที่ 18/2564 กำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด เพื่อรองรับมาตรการเปิดประเทศ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
สำหรับพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด ประกอบด้วย 1.กรุงเทพฯ 2.กระบี่ 3.ชลบุรี เฉพาะอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา อำเภอศรีราชา อำเภอเกาะสีชัง และอำเภอสัตหีบ เฉพาะตำบลนาจอมเทียนและตำบลบางเสร่ 4.เชียงใหม่ เฉพาะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ดอยเต่า แม่ริม และแม่แตง 5.ตราด เฉพาะเกาะช้าง 6.บุรีรัมย์ เฉพาะอำเภอเมืองบุรีรัมย์ 7.ประจวบคีรีขันธ์ เฉพาะตำบลหัวหินและตำบลหนองแก 8.พังงา
9.เพชรบุรี เฉพาะเทศบาลเมืองชะอำ 10.ภูเก็ต 11.ระนอง เฉพาะเกาะพยาม 12.ระยอง เฉพาะเกาะเสม็ด 13.เลย เฉพาะเชียงคาน 14.สมุทรปราการ เฉพาะพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ 15.สุราษฎร์ธานี เฉพาะเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า
16.หนองคาย เฉพาะอำเภอเมืองหนองคาย อำเภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ และอำเภอท่าบ่อ และ 17.อุดรธานี เฉพาะอำเภอเมืองอุดรธานี อำเภอบ้านดุง อำเภอกุมภวาปี อำเภอนายูง อำเภอหนองหาน และอำเภอประจักษ์ศิลปาคม
อ่านรายละเอียด : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/256/T_0007.PDF
วันเดียวกันนี้ ราชกิจจานุเบกษา แพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 36) กำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้การดำเนินการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของประเทศควบคู่กับการกำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันโรคในพื้นที่แบบบูรณาการ โดยมีสาระสำคัญ 8 ประเด็น ดังนี้
1.การกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว เพื่อการดำเนินการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของประเทศควบคู่กับการกำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันโรคในพื้นที่แบบบูรณาการ โดยพิจารณาถึงความเหมาะสม ความพร้อม และบริบทของแต่ละพื้นที่
2.กำหนดมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว อาทิ มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) รวมทั้งมาตรการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อที่ผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่กำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะ
3.ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเดิมเคยกำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจากการจำแนกจังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ โดยให้มีผลตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 31 ต.ค.2564
4.ห้ามจัดกิจกรรมการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 500 คนในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว
5.การเตรียมความพร้อมของสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยในระยะเริ่มแรกของการดำเนินการเปิดเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวให้สถานบริการ สถานประกอบการ ที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ยังคงปิดดำเนินการไว้ก่อนในช่วงนี้ โดยให้หน่วยงานและผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมเพื่อการผ่อนคลายมาตรการตามที่ได้ประกาศไว้แล้วในข้อกำหนดฉบับที่ 35 เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ต่อไปตามแผนและกรอบเวลาที่รัฐจะประกาศกำหนด
6.ปรับพื้นที่สถานการณ์ย่อยภายใจเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว และการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมแต่ละจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เสนอ ศปก.ศบค.เพื่อตรวจสอบ กลั่นกรอง และเสนอนายกรัฐมนตรี พิจารณาปรับระดับความเข้ามข้นหรือการผ่อนคลายของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในระดับท้องที่หรือเขตอำเภอ
7.การกำหนดผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพิ่มเติม ให้เพิ่มข้อความในข้อกำหนดหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ว่า “(13) ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล”
ซึ่ง ศปก.กต.ได้ประกาศประเทศที่สามารถเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ จำนวน 46 ประเทศ
8.มาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เช่น กำหนดประเทศหรือพื้นที่ซึ่ง ศปก.กต.อนุมัติการมีหนังสือรับรองหรือหลักฐานการลงทะเบียนการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร การได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ การตรวจยืนยันว่าไม่มีเชื้อโควิด การมีกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลตามเกณฑ์ที่กำหนด และหลักฐานการชำระค่าที่พัก
ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2564 เป็นต้นไป
อ่านรายละเอียด : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/256/T_0001.PDF
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา ยังแพร่คำสั่ง ศบค.ที่ 17/2564 เกี่ยวกับแนวปฏิบัติและมาตรป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อรองรับมาตรการเปิดประเทศ อาทิ ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ มีเอกสารรับรองการตรวจหาเชื้อโควิดไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง มีกรมธรรม์ประกันภัยครอบคลุมค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น
อ่านรายละเอียด : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/256/T_0005.PDF
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage