ครม.ไฟเขียวมาตรการลดค่าครองชีพ 4 โครงการ วงเงิน 5.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มวงเงิน ‘คนละครึ่ง เฟส 3’ อีก 1,500 บาท/คน ช่วยค่าซื้อสินค้าให้ 'ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ' อีกเดือนละ 300 บาท เป็นเวลา 2 เดือน
..........................
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการลดค่าครองชีพ 4 โครงการ โดยใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงินโควิด-19 เพิ่มเติม กรอบวงเงิน 54,506 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 โดยเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมอีกเดือนละ 300 บาท ในเดือน พ.ย. และ ธ.ค.2564 จากเดิมที่มีวงเงินค่าซื้อสินค้าอยู่แล้ว 200 บาท/เดือน (ก.ค.-ธ.ค.2564) หรือเท่ากับว่าในเดือน พ.ย.และ ธ.ค.2564 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.6 ล้านคน จะได้วงเงินค่าซื้อสินค้าเป็นเดือนละ 500 บาท ใช้วงเงิน 8,122 ล้านบาท
2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ โดยเพิ่มเงินช่วยเหลืออีกเดือนละ 300 บาท ในเดือน พ.ย. และ ธ.ค.2564 จากเดิมที่ได้รับเงินช่วยเหลืออยู่แล้ว 200 บาท/เดือน (ก.ค.-ธ.ค.2564) ซึ่งทำให้ในเดือน พ.ย.และ ธ.ค.2564 กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และผู้พิการ จำนวน 2.3 ล้านคน จะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นเดือนละ 500 บาท ใช้วงเงิน 1,384 ล้านบาท
3.เพิ่มวงเงินโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โดยเพิ่มวงเงินให้ผู้เข้าโครงการฯจำนวน 28 ล้านคน อีก 1,500 บาท/ราย จากเดิมที่อนุมัติไปแล้ว 3,000 บาท/ราย รวมเป็นเงิน 4,500 บาท/ราย โดยวงเงินที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวให้ใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่เดือน พ.ย.2564 ใช้วงเงิน 42,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯจะได้รับสิทธิสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าและบริการทั่วไป รวมทั้งสามารถซื้ออาหาร และเครื่องดื่มจากร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ในร้อยละ 50 และไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน
4.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ปรับเพิ่มวงเงินที่คำนวณ e-voucher เป็น 80,000 บาท และเพิ่ม e-voucher รวมกันเป็นไม่เกินคนละ 10,000 บาท จากเดิมที่วงเงินที่ใช้คำนวณ e-voucher ที่ 60,000 บาท และได้ e-voucher รวมกันไม่เกินคนละ 7,000 บาท ใช้วงเงิน 3,000 ล้านบาท
"ทุกมาตรการที่เกิดขึ้น เป็นไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังจะฟื้นตัว และเป็นการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการให้ลุกขึ้นได้ โดยการอนุมัติงบของ ครม. ครั้งนี้ จะทำให้กรอบวงเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงินฯเพิ่มเติม คงเหลือทั้งสิ้นรวม 262,485 ล้านบาท" นาย ธนกร กล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/