ศบค.เปิด 15 จว.รับนักท่องเที่ยว เริ่ม 1 พ.ย.นี้ แต่ยังไม่เคาะประเทศเข้าไทยเพิ่ม

ศบค.ชุดใหญ่ ปรับลดพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 23 จังหวัด พื้นที่สีแดงเหลือ 30 จังหวัด อนุมัติลดเวลาเคอร์ฟิว 5 ทุ่ม-ตี 3 ร้านสะดวกซื้อ-ห้าง-โรงหนัง เปิดได้ถึง 4 ทุ่ม เริ่ม 16 ต.ค.นี้ พร้อมขยายพื้นที่สีฟ้ารับนักท่องเที่ยวรวม 15 จังหวัด เริ่ม 1 พ.ย. แต่ยังไม่เคาะประเทศเข้าไทยเพิ่ม ด้าน สธ.ชงซื้อยา 'โมลนูพิราเวียร์' 5 หมื่นคอร์ส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) เปิดเผยผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ว่า โดยจากการติดตามประเมินผลสถานกาณ์การระบาดของโรคโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้นในประเทศ และหลายจังหวัดติดเชื้อในบางอำเภอ หรือบางพื้นที่เท่านั้น และมีการกระจายในชุมชนครอบครัว สถานประกอบการ โรงงาน ตลาด แคมป์ก่อสร้าง และโรงเรียน จำนวนผู้ป่วยหนักเริ่มลดลง ผู้เสียชีวิตยังพบอย่างต่อเนื่อง แต่เริ่มคงที่เนื่องจากมีการเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ขณะนี้ประมาณ 50% สำหรับเข็มที่ 1 กลุ่มผู้สูงอายุมีความครอบคลุมการได้รับวัคซีนประมาณ 60% หลายจังหวัดได้มากกว่า 70% ดังนั้น จึงควรมีการปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร และมาตรการป้องกันและควบคุมโรค เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงปกติและลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม

ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ปรับเห็นชอบปรับพื้นที่โซนสีควบคุมการระบาดโควิด-19 ใหม่ โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ปรับลดจาก 29 จังหวัด เหลือ 23 จังหวัด ได้แก่ กทม. กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครศรีธรรมราช นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา ระยอง ราชบุรี สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสระบุรี

พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) ปรับลดจาก 37 จังหวัด เหลือ 30 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครสวรรค์ นครราชสีมาประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี มหาสารคาม ระนอง ลพบุรี ศรีสะเกษ สตูล สระแก้ว สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อ่างทอง อุดรธานี อุบลราชธานี และเพชรบูรณ์ ขณะที่

พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ปรับเพิ่มจากจาก 11 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กำแพงเพชร นครพนม น่าน บึงกาฬบุรีรัมย์ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สุโขทัย หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานีและอำนาจเจริญ

ขยายเวลาเคอร์ฟิวเป็น 5 ทุ่ม- ตี 3 ร้านค้าเปิดได้ถึง 4 ทุ่ม

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับมาตรการสำหรับกิจการ กิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เช่น ขยายเวลาเคอร์ฟิวจากเดิมเวลา 22.00 - 04.00 น.เป็น 23.00 - 03.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป ส่วนร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือตลาดนัด ขยายเปิดได้ถึง 22.00 น. กิจการอื่นๆ เช่น โรงภาพยนต์ ร้านอาหาร โรงละคร สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดดำเนินการได้ถึง 22.00 น. ส่วนการขนส่งสาธารณทุกประเภท ปรับเพิ่มความจุามความสามารถของยานพาหนะ

นอกจากนี้จะยังอนุญาตให้สามารถจับประชุม และ จัดงานตามประเพณีนิยมได้ โดยจำกัดจำนวนคนไม่เกิน 500 คน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และกำหนดเวลาประชุมไม่เกิน 2 ชั่วโมง โดยผู้ประสงค์จัดงานจำเป็นต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กรณีเกิน 50 คน

ในส่วนของพื้นที่อื่นๆนอกเหนือสีแดงเข้ม สามารถเปิดให้บริการร้านตู้เกมได้ แต่ต้องเป็นการเล่นแบบรายบุคคลหรือคู่เท่านั้น อย่างไรก็ตามสวนน้ำ และ สวนสนุกยังไม่เปิดให้บริการ รวมถึงสถานบันเทิงผับบาร์และคาราโอเกะ ยังไม่เปิดบริการ แต่เตรียมพร้อมและปรับปรุงสถานที่ให้สอดรับกับมาตรการควบคุมโรคให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ต.ค.2564

]

ขยายพื้นที่สีฟ้ารับนักท่องเที่ยวรวม 15 จังหวัด เริ่ม พ.ย.นี้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการเตรียมเปิดประเทศช่วงปลายปีนี้ หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ ว่า ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ได้พูดคุยและให้ยกเลิกดินแดงความเสี่ยงของโควิด-19 เนื่องจากการปรับข้อมูลและเรื่องต่างๆ เป็นเรื่องเดิม จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้คุยกัน ทำให้ต้องยกเลิกไป เพราะต่างประเทศก็ทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ และเกณฑ์ต่างๆ ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ยังกำหนดมาตรการบุคคล ทั้งการฉีดวัคซีน การตรวจหาเชื้อและการกักกัน ฉะนั้นเรื่องการกำหนดประเทศต่างๆ ขอยกเลิกไป

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว อย่างพื้นที่ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พังงา และกระบี่ จากการศึกษาพบว่าทำได้ดี ที่ประชุมจึงพูดคุยและขยายพื้นที่การรองรับนักท่องเที่ยว โดยช่วง 1-30 พ.ย. จะขยายเป็นรวม 15 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. สมุทรปราการ เฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิ กระบี่ทั้งจังหวัด พังงาทั้งจังหวัด เพชรบุรีที่ชะอำ และประจวบคีรีขันธ์ เฉพาะหัวหิน โดยจะเป็นพื้นที่นำร่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ แต่ต้องรอเข้าที่ประชุมอีกครั้ง จากนั้นเดือน ธ.ค.จะปรับเพิ่มพื้นที่สีฟ้าอีก 16 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน แพร่ สุโขทัย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ต้องปรับมาตรการของผู้เข้าประเทศ เช่น ลดวันกักตัว การตรวจหาเชื้อ และค่าเงินประกัน โดยรายละเอียดจะต้องพูดคุยกันต่อ รวมถึงการจัดระบบแรงงานต่างด้าว และการเข้าเมืองต่างๆ โดยทุกอย่างยังเป็นแผนอยู่ ซึ่งนำเรื่องเข้าที่ประชุมแล้ว แต่อยู่ระหว่างการทำแผน ในช่วง 2 เดือนที่เหลือให้เร่งทำแผนและถ่ายทอดออกไป โดยให้วันที่ 1-30 พ.ย. เป็นระยะที่ 1 ให้ดำเนินการตามแผน และระยะที่ 2 ก็ดำเนินการและประเมิน ระยะที่ 3 คือ วันที่ 1 ม.ค.เป็นต้นไป โดยตอนนี้ให้ที่ประชุม ศปก.ศบค. ไปพิจารณาการเข้าประเทศแบบไม่กักตัวและจำกัดพื้นที่ โดยมีแนวทางตามที่ สธ.เสนอ แต่ทั้งนี้ ในวันนี้ยังไม่ได้บอกประเทศเพิ่มเติม

สธ.ชงนำเข้ายารักษาโควิด 5 หมื่นคอร์ส

นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า สธ. ได้เสนอขอความเห็นชอบที่ประชุมในการนำเข้ายาโมลนูพิราเวียร์ จำนวน 5 หมื่นคอร์ส เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบแผนการจัดหาดังกล่าว และมอบหมายให้กรมการแพทย์ ทำเรื่องเสนอต่อที่ ครม. เพื่อพิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินในการจัดซื้อยาดังกล่าวต่อไป

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ว่า ในเดือน ต.ค. เน้นเป้าหมายให้ครอบคลุมประชากรทั้งหมด อย่างน้อย 50% ในระดับจังหวัด และอย่างน้อย 70% ในหนึ่งพื้นที่ (COVID Free Area) และเพิ่มความครอบคลุมอย่างน้อย 80% ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ และจังหวัดนำร่องการท่องเที่ยว 15 จังหวัด

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage