ทีมโฆษก อสส. ตั้งโต๊ะเปิดแถลงข่าว ปมสั่งไม่ฟ้อง 'เลขาฯ พจมาน-สามี' คดีฟอกเงินกรุงไทย หลังหลบหนี 3 ปี ยึดหลักการเหตุผลศาลฯ สั่งยกฟ้อง 'ทักษิณ-พานทองแท้' ขณะที่ทางคดีไม่มีพยานข้อเท็จจริงว่าผู้ต้องหาทั้งสองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการปล่อยกู้ หรือมีบทบาทอำนาจบีบบังคับธนาคาร ไม่มีส่วนรู้เห็นกลุ่ม 'วิชัย กฤษดาธานนท์' มีเหตุเปลี่ยนแปลงกลับความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ส่งสำนวนไปยังอธิบดีดีเอสไอพิจารณทำความเห็นแย้งหรือไม่แล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดแถลงข่าวกรณีพนักงานอัยการได้ส่งสำนวนคดีฟอกเงินกู้ธนาคารกรุงไทย กรณีแคชเชียร์เช็คธนาคารไทยธนาคาร 26 ล้านบาท ในส่วนของ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายวันชัย หงษ์เหิน สามี กลับไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า จะโต้แย้งความเห็นของพนักงานอัยการที่กลับความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีนี้หรือไม่
- หวั่นซ้ำรอย บอส ! อัยการสั่งไม่ฟ้องคดีฟอกเงินกรุงไทย 'เลขาฯ พจมาน-สามี' หลังหลบหนี 3 ปี
- เบื้องลึก! อัยการสั่งไม่ฟ้อง 'เลขาฯ พจมาน-สามี' ใช้โอกาส 'เนตร' ชี้ขาดคดีพานทองแท้
โดยทีมงานโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้จัดทำเอกสารแถลงข่าวชี้แจงเป็นทางการว่า เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 นางกาญจนาภา หงษ์เหิน ผู้ต้องหาที่ 2 นายวันชัย หงษ์เหิน ผู้ต้องหาที่ 3 ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการ สํานักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ 4 ขอให้ทบทวนคําสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง โดยอ้างว่าข้อเท็จจริง รูปแบบพฤติการณ์ ที่กล่าวหาตนเป็นกรณีเดียวกันกับที่กล่าวหา นายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งศาลได้มีคําพิพากษาถึงที่สุด ยกฟ้องไปแล้ว อีกทั้งมูลเหตุก็เป็นกรณีสืบเนื่องจากการกล่าวหา นาย ทักษิณ ชินวัตร และเป็นเหตุให้นาย ทักษิณ ชินวัตร ถูกฟ้อง ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ซึ่งศาลฎีกาก็วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานโจทก์ที่ไต่สวนฟังไม่ได้ว่า นายทักษิณ ชินวัตร กระทําความผิดตามฟ้อง และพิพากษายกฟ้อง และคดีถึงที่สุดแล้วเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวอ้างว่าเช็คที่ นายวิชัย กฤษดาธานนท์ สั่งจ่ายเงิน 26 ล้านบาท ที่เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาทั้งสองถูกกล่าวหาคดีนี้ก็เป็นเรื่องธุรกรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นของ บริษัท ช.การช่าง จํากัด (มหาชน) ในตลาดหลักทรัพย์ผ่านบริษัท หลักทรัพย์ธนชาติ จํากัด และต่อมา มีการขายหุ้นและได้คืนเงินลงทุนพร้อมกําไร รวมแล้วประมาณ 27 ล้านบาทเศษไปแล้ว ข้อเท็จจริง มีทั้งพยานบุคคล และพยานเอกสารสนับสนุน
พนักงานอัยการได้พิจารณาข้อเท็จจริงที่ได้จากการร้องขอความเป็นธรรม เห็นว่า คดีมีข้อเท็จจริงใหม่ตามที่ผู้ต้องหาทั้งสอง ร้องขอความเป็นธรรมเพราะคดีที่ฟ้องนาย ทักษิณ ชินวัตร และนายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งศาลต่างยกฟ้องและคดีถึงที่สุดแล้ว อีกทั้ง ตามระเบียบสํานักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดําเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2547 (ซึ่งเป็นระเบียบที่บังคับใช้ในขณะนั้น) ข้อ 58 ก็วางหลักเกณฑ์ให้เป็นแนวทางปฏิบัติของพนักงานอัยการทั่วประเทศในการดําเนินคดีอาญาไว้ด้วยว่า ในคดีที่มีผู้ต้องหาหลายคนกระทําความผิดในคดีเดียวกันและได้ฟ้องผู้ต้องหาบางคนไว้แล้ว แต่ต่อมาศาลยกฟ้อง ในเหตุลักษณะคดีและคดีเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ฟ้องแล้วให้พนักงานอัยการทบทวนความเห็นหรือคําสั่ง สําหรับผู้ต้องหาที่สั่งฟ้องและยังจับตัวไม่ได้ไว้ด้วย
นอกจากนี้ พนักงานอัยการยังเห็นว่า ทางคดีไม่มีพยานหรือข้อเท็จจริงใด ๆ ว่าผู้ต้องหา ทั้งสองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย หรือมีบทบาทหรืออํานาจใด ๆ ในการบีบบังคับธนาคาร ตลอดจนไม่มีส่วนรู้เห็นถึงกระบวนการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย ให้กับกลุ่มนายวิชัย กฤษดาธานนท์กับพวกดังกล่าว พนักงานอัยการ เห็นว่า การร้องขอความเป็นธรรม มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงความเห็นและคําสั่ง จึงมีคําสั่งกลับความเห็นเดิมที่สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง เป็นสั่งไม่ฟ้อง นางกาญจนาภา หงษ์เหิน ผู้ต้องหาที่ 2 นายวันชัย หงษ์เหิน ผู้ต้องหาที่ 3 ในข้อหาร่วมกัน ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
ขณะนี้ สํานวนคดีพร้อมความเห็นและคําสั่งดังกล่าว ได้ส่งไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายว่าจะเห็นพ้องหรือแย้งคําสั่งของพนักงานอัยการ หากเห็นพ้องคําสั่งไม่ฟ้องเป็นอันเสร็จเด็ดขาด แต่ถ้าอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเห็นแย้งก็จะนําเสนอ อัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาดตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าถ้าหากผลคดีเป็นเช่นนี้แล้วจะต้องมีการถอนหมายจับกับทั้งนางกาญจนาและนายวันชัยด้วยหรือไม่
นายอิทธิพรกล่าวว่ายังไม่มีการถอนหมายจับ เพราะถือว่าคดีนั้นยังอยู่ในการพิจารณาของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือว่าดีเอสไอซึ่งยังพิจารณาอยู่ คดียังไม่ถึงที่สุด ซึ่งตรงนี้คงต้องเป็นดุลยพินิจของทางดีเอสไอที่จะพิจารณาต่อไป
อ่านประกอบ :
- EXCLUSIVE:เส้นทางเช็ค26ล.คดีฟอกเงินกู้กรุงไทย ก่อน อัยการ-DSI สั่งไม่ฟ้อง ‘โอ๊ค-แม่เลขาฯพจมาน’
- ดีเอสไอ ส่งสำนวนฟ้อง 'พานทองแท้' กับพวกฟอกเงินกรุงไทย
- คณะทำงานดีเอสไอสอบเพิ่ม‘โอ๊ค-พวก’ คดีฟอกเงินหลังถูกร้อง-ทั้งที่สรุปสั่งฟ้องแล้ว
- ก่อน ปปง.กล่าวโทษคดีฟอกเงินกรุงไทย ขุมธุรกิจพันล.‘พานทองแท้’ ปี’59ฟัน198 ล.ขาดทุนยับ
- คำวินิจฉัยผู้พิพากษาฯชำแหละเส้นทางเงินคดีกรุงไทยโยง'พานทองแท้-มานพ'
- เฉลยชื่อผู้รับเช็คจาก'เสี่ยวิชัย’คดีกรุงไทย-‘พานทองแท้-มานพ’อยู่ในข่าย?
- ย้อนเส้นทางคดีฟอกเงินกรุงไทย!ชื่อ‘พานทองแท้-พวก’โผล่รับเช็ค-ไม่เอ่ยถึงมูลนิธิรัฐบุรุษฯ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage