เผยเบื้องลึก 'อัยการ'สั่งไม่ฟ้องคดีฟอกเงินกรุงไทย 'เลขาฯ พจมาน-สามี' หลังหลบหนี 3 ปี ใช้โอกาส 'เนตร นาคสุข' ชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดี 10 ล้าน ส่วน 'พานทองแท้ ชินวัตร' ร้องขอความเป็นธรรม ก่อนสำนักคดีกิจการอัยการสูงสุดทำความเห็นเสนอ รอง อสส. ปฎิบัติหน้าที่แทน อสส. จนกระทั่งมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในที่สุด - ด้านอธิบดีดีเอสไอ สั่งจนท.รวบรวมคดีอัยการส่งสำนวนกลับทั้งหมดมาให้พิจารณาแล้ว
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวว่าเมื่อประมาณเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการได้ส่งสำนวนคดีฟอกเงินกู้ธนาคารกรุงไทย กรณีแคชเชียร์เช็คธนาคารไทยธนาคาร 26 ล้านบาท ในส่วนของ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายวันชัย หงษ์เหิน สามี กลับไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า จะโต้แย้งความเห็นของพนักงานอัยการที่กลับความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีนี้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข่าวยืนยันว่า นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ มีความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วหรือไม่
ทั้งที่ ในช่วงเดือนพ.ย.2561 อัยการได้สั่งฟ้องคดีนี้ไปแล้ว หลังจากที่ นางกาญจนาภา และนายวันชัย ไม่เดินทางเข้ารับฟังคำสั่งฟ้องของอัยการตามนัด และหลบหนีคดีออกไปนอกประเทศ ตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค.2561 ที่ผ่านมา เบาะแสสุดท้ายอยู่ที่เกาะฮ่องกง ขณะที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ในขณะนั้นประกาศว่าจะเร่งตรวจสอบประเทศปลายทางว่าหลังจากฮ่องกงแล้วผู้ต้องหาทั้งสองราย ได้เดินทางยังประเทศใดอีกเพื่อให้ทราบถิ่นที่อยู่และส่งเรื่องอัยการสูงสุด (อสส.) ประสานเพื่อขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
ขณะที่การกลับความเห็นสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมพนักงานอัยการถึงกลับความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นางกาญจนาภา และ นายวันชัย ที่อยู่ระหว่างหลบหนีในต่างประเทศ มีการทำเรื่องขอความเป็นธรรมมาด้วยช่องทางไหน ซึ่งถ้าหากไม่มีคำชี้แจงที่เหมาะสมกรณีนี้อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นลักษณะคล้ายกับคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องก่อนหน้านี้ก็ได้
ล่าสุด นายแพทย์ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์สำนักข่าวอิศราว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งอธิบดีแล้ว ได้ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมและศึกษาคดีที่พนักงานอัยการส่งสำนวนกลับมาที่ดีเอสไอทั้งหมด ซึ่งรวมถึงคดีฟอกเงินของนางกาญจนาภาและสามี เพื่อทำความเห็นส่งมาให้ตนพิจารณาอีกครั้งหนึ่งแล้ว
ส่วนแหล่งข่าวจากสำนักงาน อสส. เปิดเผยสำนักข่าวอิศราถึงกรณีว่า หลังจากที่ อสส. โดย นายเนตร นาคสุข ปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด (นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์) สั่งไม่อุทธรณ์คดีฟอกเงิน 10 ล้านบาทธนาคารกรุงไทยของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลคดีอาญาทุจริตและพฤติมิชอบกลางยกฟ้อง โดยมีการชี้ขาดเมื่อวันที่ 24 พ.ค.63 ที่ผ่านมา
- เป็นทางการ! รองโฆษกอัยการแจงไม่อุทธรณ์คดีฟอกเงิน‘พานทองแท้’-รอง อสส.ลงนามชี้ขาด
- เบื้องหลัง'โอ๊ค'รอด! เผยความเห็นแย้งคดีฟอกเงิน องค์คณะผู้พิพากษาให้จำคุก 4 ปี
นางกาญจนาและสามี จึงใช้โอกาสนี้ในการร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ก่อนที่จะมีพนักงานอัยการจำนวน 3 ราย ได้ร่วมการพิจารณาและมีความเห็นกลับคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองดังกล่าว
จากนั้น ได้ส่งเรื่องผ่านให้สำนักคดีกิจการอัยการสูงสุดพิจารณาซึ่งใช้เวลาพิจารณาเรื่องนี้อยู่จนถึงปลายปี 2563 จึงทำความเห็นเสนอรองอัยการสูงสุด ปฎิบัติหน้าที่แทนอัยการสูงสุด จนกระทั่งมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในที่สุด
อ่านประกอบ :
- EXCLUSIVE:เส้นทางเช็ค26ล.คดีฟอกเงินกู้กรุงไทย ก่อน อัยการ-DSI สั่งไม่ฟ้อง ‘โอ๊ค-แม่เลขาฯพจมาน’
- ดีเอสไอ ส่งสำนวนฟ้อง 'พานทองแท้' กับพวกฟอกเงินกรุงไทย
- คณะทำงานดีเอสไอสอบเพิ่ม‘โอ๊ค-พวก’ คดีฟอกเงินหลังถูกร้อง-ทั้งที่สรุปสั่งฟ้องแล้ว
- ก่อน ปปง.กล่าวโทษคดีฟอกเงินกรุงไทย ขุมธุรกิจพันล.‘พานทองแท้’ ปี’59ฟัน198 ล.ขาดทุนยับ
- คำวินิจฉัยผู้พิพากษาฯชำแหละเส้นทางเงินคดีกรุงไทยโยง'พานทองแท้-มานพ'
- เฉลยชื่อผู้รับเช็คจาก'เสี่ยวิชัย’คดีกรุงไทย-‘พานทองแท้-มานพ’อยู่ในข่าย?
- ย้อนเส้นทางคดีฟอกเงินกรุงไทย!ชื่อ‘พานทองแท้-พวก’โผล่รับเช็ค-ไม่เอ่ยถึงมูลนิธิรัฐบุรุษฯ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage