ติดโควิดเพิ่ม 10,414 ราย หายดี 11,580 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 115,423 ราย เสียชีวิต 122 ราย เป็นผู้สูงอายุ-โรคเรื้อรัง 91% ศบค.จับตาเทศกาลกินเจ ห่วงเกิดระบาดใหม่ ย้ำคลายล็อก 1-15 ต.ค. หากสถานการณ์ดีขึ้นจะพิจารณาผ่อนปรนมาตรการอย่างต่อเนื่อง
.......................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 10,414 ราย ติดเชื้อในประเทศ 10,226 ราย มาจากระบบบริการ 9,044 ราย เกิดจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 1,182 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ 178 ราย และอีก 10 รายเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 1,591,829 ราย และมีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) จำนวน 5,100 ราย
พญ.อภิสมัย กล่าวถึง การรายงานผลตรวจจาก ATK พบว่าประชากรทั้งประเทศประมาณ 1 แสนราย พบผลบวก 3-5% ส่วนวันนี้มีผู้ติดเชื้อเข้าข่ายประมาณ 4% หรือ 4,000 ราย ยกเว้นจังหวัดชายแดนใต้ ที่ผล ATK ยังสูง ในเขตสาธารณสุขที่ 11-12 คิดเป็น 10%
ขณะที่มีผู้หายป่วย 11,580 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสม 1,459,786 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 115,423 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 3,232 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 729 ราย และมีผู้เสียชีวิต 122 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 16,620 ราย
โดยมีผู้เสียชีวิต 122 ราย มาจากกทม.และปริมณฑล 61 ราย จังหวัดอื่นๆ 61 ราย ในจำนวนนี้มีผู้สูงอายุ และ กลุ่มโรคเรื้อรัง 91% เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม. 1,579 ราย ชลบุรี 772 ราย สมุทรปราการ 587 ราย ระยอง 545 ราย สงขลา 517 ราย นราธิวาส 485 ราย ยะลา 452 ราย ราชบุรี 281 ราย ปราจีนบุรี 257 ราย จันทบุรี 1 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 10 ราย แบ่งเป็น ฝรั่งเศส 1 ราย รัสเซีย 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย เดนมาร์ก 1 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย สวีเดน 1 ราย เมียนมา 1 ราย และ กัมพูชา 3 ราย
นอกจากนั้น มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกเพิ่ม 249,459 ราย เข็มที่ 2 เพิ่ม 422,848 ราย เข็มที่ 3 เพิ่ม 54,498 ราย รวมสะสม 50,867,498 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 31,582,548 ราย ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 18,098,882 ราย ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 1,186,068 ราย
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ปัจจุบันการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากกว่าหรือเท่ากับ 50% รวม 11 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ อยุธยา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครนายก พังงา ภูเก็ต ระนอง
แต่หากแยกความครอบคลุมผู้สูงอายุ มีการฉีดเกิน 70% แล้ว 6 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา พังงา ภูเก็ต ระนอง
พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า ศบค.เน้นย้ำให้แต่ละจังหวัดเฝ้าระวังการติดเชื้อในการจัดงานศพอย่างใกล้ชิด รวมถึงเทศกาลกินเจที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 4 ต.ค.2564 ขอเน้นย้ำให้ทางจังหวัดตรวจสอบมาตรการอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะโรง ผู้ประกอบการ ที่ต้องจัดสถานที่ให้เหมาะสม เฝ้าระวังการควบคุมโรคอย่างเข้มงวด บุคลากรหรือผู้ที่ดำเนินการต้องใช้หลักการ Covid free setting , ฉีดวัคซีน และตรวจหาเชื้อ ATK
ทั่วโลกป่วยเพิ่ม 426,535 รวมสะสม 233.54 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 426,535 ราย รวม 233,548,694 ราย อาการหนัก 91,541 ราย หายป่วย 210,354,003 ราย เสียชีวิต 4,778,694 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 105,633 ราย รวม 44,054,825 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,836 ราย รวม 711,222 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 21,901 ราย รวม 33,715,049 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 375 ราย รวม 447,781 ราย บราซิล พบเพิ่ม 15,395 ราย รวม 21,381,790 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 818 ราย รวม 595,520 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 28 ของโลก
จับตา 15 วันคลายล็อก อาจผ่อนปรนเพิ่มถ้าสถานการณ์ดีขึ้น
พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 34) นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 – 15 ต.ค.2564 โดยขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการอย่างเต็มที่ จากนั้น ศปก.ศบค.จะพิจารณาว่าสถานการณ์เพื่อผ่อนคลายอีกระยะ ในวันที่ 11 ต.ค.2564
สำหรับพื้นที่สถานการณ์ยังคงบังคับใช้ตามเดิม คือ มีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด
ทั้งนี้ได้ปรับเวลาเคอร์ฟิวในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเป็น 22.00-04.00 น.ดำเนินการต่อเนื่องไปถึง 15 ต.ค.2564
นอกจากนั้นยังกำหนดให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำกับดูแลและติดตามการดำเนินการของสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมในพื้นที่ ดังนี้
1.โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท สามารเปิดการเรียนการสอนได้ โดยให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน โดยให้ผู้แทนกระทรวงการศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข กำหนดหลักเกณฑ์
2.สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ศูนย์เด็กพิเศษ เปิดกิจการได้ แต่ยังคงต้องอยู่ภายใต้ความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
3.ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม เปิดให้บริการได้ถึง 21.00 น.แต่ห้ามบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และจำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน นอกจากนั้นอนุญาตให้แสดงดนตรีในร้านได้ โดยผู้แสดงไม่เกิน 5 คน ต้องมีการเว้นระยะห่าง และต้องสวมหน้ากากอนามัย โดยนักร้องหรือนักดนตรีใช้เครื่องเป่ามีการอนุโลมให้ถอดขณะทำการแสดงได้
4.ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือตลาดนัด เปิดบริการได้ถึง 21.00 น.
5.ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ทุกประเภท เปิดดำเนินการได้ โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ
6.โรงภาพยนตร์ เปิดได้ถึง 21.00 น. จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ 50% และจัดให้ที่นั่งเว้นระยะห่าง โดยผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัย งดบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม โดยให้กระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงวัฒนธรรมกำกับดูแล
“สำหรับโรงภาพยนตร์มีการถกเถียงกันมากมาย เพราะเป็นสถานที่ปิด มีการใช้เครื่องปรับอากาศและอาจมีการใกล้ชิด แต่เมื่อจะมีการเปิดต้องช่วยกันเปิดอย่างปลอดภัย รัฐบาลและ ศบค.คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ รวมถึงมองเห็นว่าการผ่อนคลาย อาจช่วยให้ประชาชนได้ใช้วันหยุดพาครอบครัวไปผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามการอนุญาตให้เปิด ขอให้เปิดอย่างมีข้อจำกัด ขอให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยกำกับดูติดตาม ไม่ให้กลายเป็นคลัสเตอร์ และการผ่อนคลายจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง” พญ.อภิสมัย กล่าว
7.สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย ตัดแต่งผม เปิดได้ถึง 21.00 น. บริการผ่านการนัดหมาย และผู้ให้บริการต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม 100% หรือมีหลักฐานยืนยันผลตรวจไม่มีเชื่อโควิด 72 ชั่วโมง
8.ร้านนวด สปา เปิดได้ถึง 21.00 น. บริการผ่านการนัดหมาย และผู้ให้บริการต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม 100% หรือมีหลักฐานยืนยันผลตรวจไม่มีเชื่อโควิด 72 ชั่วโมง
“บางกิจการ อาจมีคำถามว่าในเมื่อฉีดวัคซีนยังไม่ครบ เพราะก่อนหน้านี้การกระจายวัคซีนไปไม่ถึงจะทำอ่ยางไร ขอเรียนชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้วัคซีนมีจำกัด การจัดสรรโดยกรมควบคุมโรค จำเป็นต้องเร่งจัดสรรไปพื้นที่ที่แพร่ระบาดรุนแรง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง กทม.และปริมณฑล จังหวัดชายแดนใต้ หรือพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ดังนั้นมีจังหวัดที่อยู่นอกเหนือ 29 จังหวัด การได้รับวัคซีนยังไม่ทั่วถึง ต้องขอขอบคุณ เพราะถือว่าท่านเป็นจังหวัดที่เสียสละ ที่ทำให้วัคซีนไปถึงจุดอื่นที่จำเป็นก่อน นับจาก ก.ย.นี้มีวัคซีนมากขึ้นจะสามารถจัดสรรให้ได้อย่างทั่วถึงรวดเร็วแน่นอน” พญ.อภิสมัย กล่าว
9.สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬา สระน้ำ เปิดได้ถึง 21.00 น. รวมถึงฟิตเนสที่เปิดให้บริการได้ แต่ยังงดเว้นการให้บริการอบตัวหรืออบไอน้ำ
10.การจัดแข่งกีฬากลางแจ้ง สามารถทำได้แต่จำกัดจำนวนผู้ชมไม่เกิน 25% ของความจุ ส่วนแข่งกีฬาในร่มยังไม่อนุญาตให้มีผู้ชม
11.ห้างสรรพสินค้า เปิดได้ถึง 21.00 น. และให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาถึงการเปิดโรงเรียนและสถาบันกวดวิชา , โรงภาพยนตร์ , คลินิกเวชกรรม , สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ , สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ยกเว้น สวนสนุก สวนน้ำ ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม การจัดเลี้ยงหรือการจัดประชุม ยังไม่อนุญาตให้เปิด
12.การถ่ายทำภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ ทำได้ กำนหดผู้ร่วมถ่ายทำไม่เกิน 50 คนไม่ต้องขออนุญาต ส่วนเกิน 50 คนให้ขออนุญาตผู้เกี่ยวข้อง เช่น กสทช. กระทรวงวัฒนธรรม หรือกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
13.โรงมหรสพ โรงละคร ให้พิจารณาความเหมาะสมให้มีการจัดแสดงดนตรี การแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงพื้นบ้าน เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. ทั้งนี้ จำกัดจำนวนผู้แสดงและเจ้าหน้าที่รวมไม่เกิน 50 คน
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า สำหรับการเตรียมเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป ซึ่งอาจจะมีแซนด์บ็อกซ์ของเศรษฐกิจ การกำหนดแผนแต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัดในการดำเนินการต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage