ศาลแพ่งนัดไต่สวนคดี 39 ร้านขายอาหาร-เครื่องดื่ม ฟ้องนายกฯ พร้อม 4 หน่วยงาน ออกคำสั่งปิดกิจการช่วงโควิด ทำให้ประกอบกิจการได้ไม่เต็มที่ โดยเรียกเงินชดใช้ 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 5% ต่อปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2564 ศาลแพ่ง เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะว่า บริษัท เดอะเนฟเวอร์ เอนดิง ซัมเมอร์ จำกัด ผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับร้านจำหน่ายอาหารและ/หรือเครื่องดื่ม และตัวแทนของสมาชิกกลุ่มประกอบกิจการประกอบกิจการเกี่ยวกับร้านจำหน่ายอาหารและ/หรือเครื่องดื่ม ซึ่งมีสมาชิกกลุ่มรวม 39 คน ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม , กระทรวงการคลัง , กระทรวงสาธารณสุข ,กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ต่อศาลแพ่งเป็นคดีหมายเลขดำที่ พ4412/2564 โดยขออนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม
อันสรุปคำฟ้องได้ใจความว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease : COVID-19) พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ปล่อยปละละเลย จงใจหรือประมาทเลินเล่อก่อให้เกิดต้นเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวแบบกลุ่มก้อนหลายครั้ง พล.อ.ประยุทธ์และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร จงใจหรือประมาทเลินเล่อบริหารจัดการวัคซีน ชุดเครื่องมือตรวจของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Antigen Test Kit) และยาที่จำเป็นต่อการรักษาอาการที่เกิดจากของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างไม่มีประสิทธิภาพ นำมาซึ่งการออกข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งให้ปิดสถานที่ที่เสียงต่อการแพร่เชื้อโรคดังกล่าวซึ่งรวมถึงร้านอาหารและ/หรือเครื่องดื่มทั้งหมดหรือบางส่วนทั่วราชอาณาจักรหลายครั้ง
ทำให้โจทก์และสมาชิกกลุ่มไม่สามารถประกอบกิจการได้เต็มที่ ทั้งยังเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามหลักความได้สัดส่วนหรือหลักความพอสมควรแก่เหตุ และมาตรการที่ออกมาเพื่อเยียวยาความเสียหายก็เป็นมาตรการที่ไม่สามารถเยียวยาประชาชนได้อย่างแท้จริง ทำให้โจทก์และสมาชิกกลุ่มได้รับความเสียหาย
โดยขอให้จำเลยทั้ง 5 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์เป็นเงิน 50,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และชำระค่าเสียหายในอนาคตให้แก่โจทก์เดือนละ 333,467.82 บาท และให้แก่สมาชิกกลุ่ม ตามวิธีการคำนวณค่าเสียหายของแต่ละบุคคล นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะยกเลิกมาตรการที่กระทบต่อโจทก์และสมาชิกกลุ่ม พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจากการขาดรายได้ให้แก่สมาชิกกลุ่ม เดือนละ 7,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 17 มี.ค.2563 ถึงวันฟ้องนั้น
บัดนี้ ศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ4412/2564 ได้พิจารณาคำร้องและคำฟ้องดังกล่าวแล้วมีคำสั่งให้นัดไต่สวนคำร้องขอให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มวันที่ 9 พ.ย.2564 เวลา 9 นาฬิกา โดยโจทก์จะดำเนินกระบวนพิจารณาทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านโปรแกรม Zoom จากที่ทำการของโจทก์
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/