'โนวาแวกซ์-สถาบันเซรุ่มอินเดีย'ประกาศยื่นขออนุมัติใช้งานวัคซีนกับ WHO แล้ว เล็งตั้งเป้าใช้งานในประเทศรายได้ต่ำ-ปานกลาง เผยมีแผนผลิตให้โครงการกว่า 1.1 พันล้านโดส ด้านผลวิจัยชี้วัคซีนมีประสิทธิภาพรับมือโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือว่าโคโรน่าไวรัสว่าบริษัทโนวาแวกซ์ร่วมด้วยสถาบันเซรุ่มของประเทศอินเดียได้มีการรยื่นขอขึ้นทะเบียนเพื่อใช้งานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน กับองค์การอนามัยโลก (WHO) แล้วเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ทางบริษัทโนวาแวกซ์นั้นตั้งเป้าจัดลำดับความสำคัญของวัคซีนไว้ว่าจะมการใช้งานทั้งในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทนั้นไม่สามารถแข่งขันในเรื่องการขอใบอนุญาตได้กับในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศในทวีปยุโรปเนื่องจากมีการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้กับประชากรส่วนใหญ่แล้ว
โดยการอนุมติวัคซีนของ WHO นั้นจะเป็นโอกาสสำคัญทำให้สามารถจะส่งออกวัคซีนโนวาแวกซ์ไปให้กับหลายประเทศที่กำลังพัฒนาได้ตามคำแนะนำของ WHO อันเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเรื่องวัคซีน
และการอนุมัติวัคซีนดังกล่าวนั้นก็จะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับบริษัทโนวาแวกซ์ในการส่งออกวัคซีนผ่านโครงการโคแวกซ์ที่ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะจัดสรรวัคซีนให้กับประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางอย่างเท่าเทียมกัน
ซึ่งนอกเหนือจาก WHO แล้ว มีรายงานว่า ณ เวลานี้ทางบริษัทโนวาแวกซ์ก็ได้ยื่นขอใบอนุมัติการใช้งานในประเทศอื่นๆด้วยเช่นกันได้แก่ที่ประเทศอินเดีย,ฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย และคาดว่าบริษัทจะมีการยื่นขออนุมัติที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและที่สหภาพยุโรปในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564
และหลังจากการยื่นขอคำอนุมัติก็มีรายงานว่าหุ้นของบริษัทโนวาแวกซ์นั้นกระเตื้องขึ้นมาถึง 10 เปอร์เซ็นต์
โดยบริษัทโนวาแวกซ์และสถาบันเซรุ่มของประเทศอินเดียที่ถือว่าเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดในโลกนั้นได้มีการวางกรอบความร่วมมือกันว่าจะผลิตวัคซีนจำนวนกว่า 1.1 พันล้านโดสไปให้กับโครงการโคแวกซ์ หลังจากที่โครงการดังกล่าวนั้นสามารถบริจาควัคซีนไปเป็นปริมาณน้อยกว่า 300 ล้านโดส
ซึ่งที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาประเมินว่าโครงการโคแวกซ์จะได้ผลนั้นจะต้องมีการจัดสรรวัคซีนให้ได้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 6 พันล้านโดส
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมานั้นบริษัทโนวาแวกซ์ประสบปัญหาในประเด็นความล่าช้าวัคซีน เนื่องจากบริษัทได้เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะยื่นขอคำอนุมัติจาก WHO ในช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของการผลิตวัคซีนว่าทางบริษัทจะสามารถผลิตได้เป็นจำนวนเท่าไรกันแน่ในปีนี้
สำหรับวัคซีนโนวาแวกซ์นั้นเป็นวัคซีนชนิดโปรตีนซับยูนิต โดยที่ผ่านมาได้มีการทดลองวัคซีนของบริษัทแล้วในประเทศสหรัฐฯพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ในการรับมือกับไวรัสโควิดสายพันธุ์ต่างๆรวมไปถึงสายพันธุ์อันน่ากังวลและในการศึกษาขั้นต้นก็มีข้อเสนอแนะออกมาว่าวัคซีนนั้นถือว่ามีประสิทธิภาพสูงเป็นอย่างยิ่งในการรับมือกับไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่กลายเป็นไวรัสสายพันธุ์หลักที่ระบาดไปในหลายประเทศ
เรียบเรียงจาก:https://globalnews.ca/news/8215387/novavax-who-emergency-listing-covid-vaccine/
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/