วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12,709 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 1,489,186 ราย ขณะที่มีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย 1,723 ราย เป็นผู้ป่วยที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 768 ราย หายป่วยแล้ว 11,125 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 106 ราย ด้าน ศบค.เผยยังไม่เคาะวันเปิด 'กรุงเทพแซนด์บ็อกซ์'
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 12,709 ราย ติดเชื้อในประเทศ 11,840 ราย มาจากระบบบริการ 10,962 ราย เกิดจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 878 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ 858 ราย และอีก 11 รายเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด1,489,186 ราย และมีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) จำนวน 1,723 ราย
ขณะที่มีผู้หายป่วย 11,125 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสมทั้งหมด 1,341,144 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 132,573 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 3,582 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 773 ราย และมีผู้เสียชีวิต 106 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 15,469 ราย
โดยมีผู้เสียชีวิต 106 ราย มาจากกทม.และปริมณฑล 52 ราย 4 จังหวัดภาคใต้ 4 ราย จังหวัดอื่น 49 ราย และเรือนจำ 1 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ 74 ราย คิดเป็น 70% และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 25 ราย คิดเป็น 23% ซึ่งหากรวมกันพบมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 93% และมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากในครอบครัว คนรู้จัก อาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด และมีอาชีพเสี่ยง
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม. 2,831 ราย สมุทรปราการ 942 ราย ชลบุรี 532 ราย ระยอง 451 ราย ยะลา 440 ราย ราชบุรี 424 ราย นครศรีธรรมราช 338 ราย สงขลา 334 ราย นนทบุรี 325 ราย และนราธิวาส 315 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 11 ราย แบ่งเป็น อิสราเอล 1 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย กัมพูชา 7 ราย และเมียนมา 1 ราย
นอกจากนั้น มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกเพิ่ม 109,439 ราย เข็มที่ 2 เพิ่ม 146,698 ราย และเข็มที่ 3 เพิ่ม 255 ราย รวมสะสม 44,742,049 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 29,002,572 ราย คิดเป็น 40.3% ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 15,118,015 ราย คิดเป็น 21.0% และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 621,462 ราย
การระบาดในเรือนจำและ 4 จังหวัดภาคใต้ เพิ่มสูงขึ้น
พญ.อภิสมัย กล่าวสรุปการรระบาดในภาพรวมของประเทศว่า มีแนวโน้มลดลง โดยการระบาดใน กทม. ปริมณฑล พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มขวด และจังหวัดอื่นอีก 48 จังหวัด มีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่การระบาดในเรือนจำ และ 4 จังหวัดภาคใต้ ยังพบอัตราผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนครอบคลุมน้อย มีเพียงจังหวัดยะลาเพียงจังหวัดเดียวที่มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเสี่ยง และหญิงตั้งครรภ์มากกว่า 70%
อย่างไรก็ตาม พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ขอให้กำลังใจทีมพื้นที่ ระดมเร่งฉีดวัคซีน พร้อมขอความร่วมมือหน่วยงานท้องถิ่นให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน และขอความร่วมมือจากประชาชนในการฉีดวัคซีน จะช่วยดึงกราฟลงมา กลับมาเป็นสีเขียวได้
ยังไม่เคาะวันเปิด 'กรุงเทพแซนด์บ็อกซ์'
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงการเปิดพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ด้วยว่า จะต้องดูจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นหลัก โดยสถานการณ์การระบาดใน กทม. ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,831 ราย รวมสะสม 346,262 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 22 ราย รวมสะสม 5,813 ราย มีผู้ป่วยโควิดเข้าสู่ระบบ Home Isolation เพิ่ม 306 ราย สะสม 116,615 ราย และมีผู้ป่วยเข้าสู่ระบบ Community Isolation เพิ่ม 83 ราย รวมทั้งหมด 19,285 ราย ซึ่งมีแนวโน้มของผู้ป่วยใหม่เข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้านและศูนย์พักคอยลดลงอย่างชัดเจน
ซึ่งตอนนี้ไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิตที่บ้านแล้ว เพราะศักยภาพเตียงของ กทม.มีความพร้อม
และที่สำคัญในกทม.ฉีดวัคซีนเข็มแรกได้จำนวน 7,863,347 ราย คิดเป็น 102.13% เข็มที่ 2 จำนวน 3,227,404 ราย คิดเป็น 42.57% และเข็มที่ 3 จำนวน 197,982 ราย
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงผลการประชุมของศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศปก.ศบค.) อีกว่า เป้าหมายที่จะเปิดกรุงเทพแซนด์บ็อกซ์จะต้องฉีดวัคซีนเข็มสองเกิน 70% ต้องมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลงอย่างต่อเนื่อง และจะต้องมีศักยภาพรองรับกรณีที่จะยุติโครงการด้วย
"กรุงเทพแซนด์บ็อกซ์ยังไม่กำหนดวัน โดยเกณฑ์สำคัญ คือคนกรุงเทพต้องฉีดวัคซีนเข็มสองให้ได้ 70% มีอัตราการติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง ควบคู่กับศักยภาพเตียงรองรับ กรณีพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น หรือการติดเชื้อแบบคลัสเตอร์ แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาทางกรุงเทพมหานครได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การตระเตรียมด้านต่าง ๆ โดยสิ่งสำคัญคือประชาชนต้องปลอดภัย หากจะเปิดบ้านเปิดเมือง" พญ.อภิสมัย กล่าว
ทั้งนี้ในวันที่ 22 ก.ย.นี้ กทม.จะมีการหารือกับภูเก็ต ที่นำร่องโครงการ Phuket Sandbox ตั้งแต่ 1 ก.ค.2564 เพื่อศึกษาบทเรียนด้วย
ชงผ่อนคลายมาตรการ 27 ก.ย.นี้
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมเสนอการทบทวนมาตรการต่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในวันจันทร์ที่ 27 ก.ย.นี้ เพื่อการผ่อนคลายกิจการ กิจกรรมอื่นๆ โดยทุกผู้ประกอบการจะไม่ถูกหลงลืม ทั้งโรงภาพยนต์ สถานบันเทิง แต่การเปิดจะค่อยเป็นค่อยไป ตามความพร้อม เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ทั่วโลกป่วย 350,897 รวมสะสม 229.28 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 350,897 ราย รวม 229,288,247 ราย อาการหนัก 99,018 ราย หายป่วย 205,908,941 ราย เสียชีวิต 4,705,461 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 32,731 ราย รวม 42,900,906 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 311 ราย รวม 691,880 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 30,809 ราย รวม 33,477,819 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 296 ราย รวม 445,165 ราย บราซิล พบเพิ่ม 9,458 ราย รวม 21,239,783 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 239 ราย รวม 590,786 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 29 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage