สถานการณ์โควิดไทย ล่าสุด 17 ก.ย.2564 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,555 ราย เฉพาะชายแดนใต้พุ่งกว่า 1,206 เรือนจำอีก 790 ยอดรวมสะสม 1,448,792 หายป่วยกลับบ้าน 13,691 ตายเพิ่ม 171 คน ด้าน ศบค.เคาะฉีดบูสเตอร์โดส คนรับซิโนแวคครบ 2 เข็ม 3 ล้านคน เริ่ม 24 ก.ย.นี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 14,555 ราย ติดเชื้อในประเทศ 13,756 ราย มาจากระบบบริการ 12,600 ราย เกิดจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 1,156 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ 790 ราย และอีก 9 รายเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 1,448,792 ราย และมีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) จำนวน 1,630 ราย
ในจำนวนนี้ หากจำแนกเป็นรายจังหวัด ผู้ป่วยอยู่ใน กทม.และปริมณฑล 5,039 ราย 4 จังหวัดภาคใต้ 1,206 ราย และจังหวัดอื่นๆ 7,511 ราย
ขณะที่มีผู้หายป่วย 13,691 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสม 1,304,247 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 129,421 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 3,851 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 787 ราย และมีผู้เสียชีวิต 171 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 15,124 ราย
โดยมีผู้เสียชีวิต 171 ราย เป็นผู้สูงอายุ 125 คิดเป็น 73% และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 38 ราย คิดเป็น 22% ซึ่งหากรวมกันพบมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 95% ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตระหว่างนำส่ง 1 ราย และมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากในครอบครัว คนรู้จัก อาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด และมีอาชีพเสี่ยง
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม. 2,911 ราย สมุทรปราการ 1,110 ราย ชลบุรี 935 ราย ระยอง 636 ราย ราชบุรี 501 ราย ยะลา 444 ราย สมุทรสาคร 387 ราย ปราจีนบุรี 367 ราย นครศรีธรรมราช 354 ราย และสระบุรี 329 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 9 ราย แบ่งเป็น สหรัฐอเมริกา 1 ราย ฝรั่งเศส 1 ราย กัมพูชา 5 ราย และเมียนมา 2 ราย
นอกจากนั้น มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกเพิ่ม 350,813 ราย เข็มที่ 2 เพิ่ม 512,811 ราย และเข็มที่ 3 เพิ่ม 965 ราย รวมสะสม 43,342,103 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 28,436,015 ราย คิดเป็น 39.5% ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 14,285,995 ราย คิดเป็น 19.8% และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 620,093 ราย
โดยมีจังหวัดฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรทั้งหมดแล้ว 50% ประกอบด้วย กทม. ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ภูเก็ต และพังงา ส่วนจังหวัดที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 70% ประกอบด้วย กทม. ปทุมธานี ภูเก็ต ระนอง และพังงา
เคาะฉีดบูสเตอร์โดส คนรับซิโนแวคครบ 2 เข็ม 3 ล้านคน เริ่ม 24 ก.ย.นี้
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงมติที่ประชุม ศบค.ประจำวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมเห็นชอบเกณฑ์และเป้าหมายการจัดสรรวัคซีนโควิด จำนวน 24 ล้านโดส ในเดือน ต.ค.นี้ มีเป้าหมาย คือ เพื่อให้ฉีดครอบคลุมประชากรทั้งหมด อย่างน้อย 50% ทุกจังหวัด โดยแต่ละจังหวัดจะต้องปฏิบัติดังนี้
-
ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 อำเภอ ให้ครอบคลุม 70% และมีต้นแบบ COVID free Area อย่างน้อย 1 พื้นที่ ซึ่งมีความครอบคลุม 80%
-
เพิ่มความครอบคลุมในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ให้มากที่สุด
-
ประชากรกลุ่มอื่นๆ ตามคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจัดสรร
นอกจากนั้นยังตั้งเป้าหมายการจัดสรรวัคซีนโควิดอีกว่า จะขยายการฉีดวัคซีนกลุ่มอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน, ทยอยฉีดเข็มที่ 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับผู้ที่ได้รับซิโนแวคครบ 2 เข็ม ซึ่งมีจำนวน 3,000,000 ราย ตั้งแต่ 24 ก.ย.2564 โดยเริ่มให้ผู้ที่ได้รับซิโนแวคครบ 2 เข็ม ในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.2564 ก่อน
"ในวันที่ 24 ก.ย.นี้ นับเปนวันสำคัญ คือ วันมหิดล กระทรวงสาธารณสุขก็มีการอนุมัติให้ประชาชนที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม เข้ารับวัคซีนบูสเตอร์โดส ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามประชาชนที่ได้รับซิโนแวคครบ 2 เข็ม มีปริมาณอยู่ที่ 3 ล้านราย ดังนั้นการรับวัคซีนเข็ม 3 จะเป็นการทยอยฉีด โดยผู้ที่ได้รับการฉีดตั้งแต่ มี.ค. จะได้รับ SMS เตือนให้รับเข็ม 3 โดยผู้ที่ได้รับวัคซีน มิ.ย.-ก.ค.อาจจำเป็นต้องรอก่อน เพราะจะทยอยฉีดให้ผู้ที่ได้รับครบ 2 เข็มในเดือน มี.ค.- พ.ค.2564 ก่อน" พญ.อภิสมัย กล่าว
อย่างไรก็ตามกรณีจัดหาวัคซีนได้มากกว่าหรือน้อยกว่า 24 ล้านโดส จำนวนที่จัดสรรจะปรับเพื่อหรือลด
ภูเก็ตนำร่องฉีดวัคซีนเข็ม 3 แบบใต้ผิวหนัง
พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า มีรายงานผลการศึกษาทดลองการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิด้วยแอสตร้าเซนเนก้าใต้ผิวหนังของจังหวัดภูเก็ต จากกลุ่มตัวอย่าง 242 ราย พบว่า การฉีดวัคซีนใต้ผิวหนังให้ภูมิคุ้มกันได้ดี ไม่แตกต่างกันกับการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นวิธีที่แพทย์ใช้ในปัจจุบัน ทางภูเก็ตจึงได้เสนอเข้าที่ประชุม ศบค.และได้รับการรับลองแล้วว่าสามารถฉีดได้
โดยจะเริ่มที่จังหวัดภูเก็ต ทำให้การฉีดบูสเตอร์เข็มที่ 3 ของชาวจังหวัดภูเก็ต จะเป็นการฉีดทางผิวหนัง ซึ่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1 โดส จะสามารถฉีดได้ 5 คน โดยโดส จะอยู่ที่ 0.1 ml
ทั่วโลกป่วย 570,878 รวมสะสม 227.82 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 570,878 ราย รวม 227,826,370 ราย อาการหนัก 100,955 ราย หายป่วย 204,470,415 ราย เสียชีวิต 4,683,977 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 151,142 ราย รวม 42,634,054 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,871 ราย รวม 688,486 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 34,649 ราย รวม 33,380,522 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 318 ราย รวม 444,278 ราย บราซิล พบเพิ่ม 34,407 ราย รวม 21,069,017 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 637 ราย รวม 589,277 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 29 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage