โควิดวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12,583 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 1,394,756 ราย ขณะที่มีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย 6,436 ราย หายป่วยมากกว่ายอดติดเชื้ออยู่ที่ 16,304 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 132 ราย เป็นผู้สูงอายุ- 7 โรคเสี่ยง 96% มีดับคาบ้าน 1 ราย และหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 12,583 ราย ติดเชื้อในประเทศ 12,409 ราย มาจากระบบบริการ 11,232 ราย เกิดจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 1,177 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ 163 ราย และอีก 11 รายเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 1,394,756 ราย และมีผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) จำนวน 6,436 ราย
ขณะที่มีผู้หายป่วย 16,304 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสมระลอกใหม่ 1,220,732 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 132,113 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนัก 4,096 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 835 ราย และมีผู้เสียชีวิต 132 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 14,391 ราย
โดยมีผู้เสียชีวิต 132 ราย มาจากกทม.และปริมณฑล 75 ราย 4 จังหวัดภาคใต้ 5 ราย จังหวัดอื่น 51 ราย และเรือนจำ 1 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป 100 ราย คิดเป็น 76% และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 26 ราย คิดเป็น 20% ซึ่งหากรวมกันพบมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 96% ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย และเป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย และมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากในครอบครัว คนรู้จัก อาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด และมีอาชีพเสี่ยง
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม. 3,329 ราย ชลบุรี 650 ราย ระยอง 647 ราย นนทบุรี 468 ราย สมุทรปราการ 443 ราย สมุทรสาคร 402 ราย นราธิวาส 401 ราย ยะลา 366 ราย สงขลา 301 ราย และราชบุรี 299 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 11 ราย แบ่งเป็น กาตาร์ 1 ราย มาเลเซีย 7 ราย และกัมพูชา 3 ราย
นอกจากนั้น มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกเพิ่ม 109,213 ราย เข็มที่ 2 เพิ่ม 106,570 ราย และเข็มที่ 3 เพิ่ม 106 ราย รวมสะสม 40,276,356 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 27,303,700 ราย ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 12,357,581 ราย และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 615,075 ราย
จับตาจอมทอง ติดเชื้อรายใหม่ 279 ราย
สำหรับสถานการณ์การระบาดใน กทม.วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3,329 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 23 ราย ฉีดวัคซีนเพิ่ม 24,512 ราย รวมสะสม 10,258,747 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 7,350,114 ราย คิดเป็น 95.47% เข็มที่ 2 จำนวน 2,723,759 ราย คิดเป็น 35.38% และเข็มที่ 3 จำนวน 184,874 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อในเขตรายใหม่ 10 อันดับสูงสุด ประกอบด้วย จอมทอง 279 ราย หลักสี่ 186 ราย ดอนเมือง 155 ราย บางซื่อ 140 ราย ราษฎร์บูรณะ 116 ราย หนองแขม 114 ราย สายไหม 107 ราย คลองเตย 101 ราย ธนบุรี 99 ราย และห้วยขวาง 98 ราย
ไม่ได้รับวัคซีนโควิด มีสถิติเสียชีวิตถึง 84.8%
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงภาพรวมการระบาดของประเทศว่า สถานการณ์ยังทรงๆ อยู่ แต่ยังมีจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวัง เช่น จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี และ จ.สมุทรปราการ ส่วนคนที่ใส่ท่อช่วยหายใจ มีอาการเชื้อลงปอด ไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง ต้องช่วยด้วยการใส่ท่อให้ได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ พบในจังหวัดดังกล่าวด้วย
และแนวโน้มอัตราการเสียชีวิตลดลง ในช่วงหลังแนวโน้มการเสียชีวิตในต่างจังหวัดสูงกว่าในกทม.-ปริมณฑล พบมีหญิงตั้งครรภ์ เสียชีวิต 21 ราย ทั้งประเทศมีเสียชีวิตนอกสถานพยาบาล 361 ราย
ทั้งนี้ยังพบผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วมีอัตราการเสียชีวิตที่น้อยกว่า โดยจากสถิติผู้เสียชีวิต 1,3637 ราย เมื่อเทียบประวัติการรับวัคซีน พบว่าหากไม่ได้รับวัคซีนมีสถิติเสียชีวิตถึง 84.8% ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม อัตราเสียชีวิตจะอยู่ที่ 0.8% เท่านั้น จึงย้ำว่าการฉีดวัคซีนเพื่อลดอัตราป่วยหนัก เสียชีวิตได้จริง ดังนั้นกลุ่มผู้สูงอายุหรือ กลุ่มโรคเสี่ยง ควรเข้ารับวัคซีน
งานศพกลายเป็นกิจกรรมเสี่ยง
นพ.ทวีศิลป์ ยอมรับด้วยว่า ศบค.ยังห่วงหลังมีการผ่อนคลายมาตรการคลายล็อกให้เปิดกิจกรรมต่างๆได้ ซึ่งตอนนี้หลายพื้นที่ก็มีรายงานว่ามีประชาชนเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ทุกคนช่วยกันลดกราฟให้ลดลง เนื่องจากเราอยู่ในสถานการณ์ อยู่ในแผ่นดินไทย ขอให้คิดว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะติดเชื้อโควิด หากเรามีข้อตกลงร่วมกัน มีเป้าหมายเดียวกัน ก็น่าจะช่วยกันได้ ขอให้ประชาชน พิจารณา 3 เรื่องและไม่ควรเข้าไปใน 1.บุคคลเสี่ยง 2.สถานที่เสี่ยง และ 3.กิจกรรมเสี่ยง
ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นร้านค้า สถานประกอบการที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที บางสถานที่ได้รับรายงานว่ามีการละเมิดมาตรการด้วย เนื่องจาก ศบค.ยังคงมาตรการจนถึงสิ้นเดือนนี้ ก.ย.2564 และ ต้องดูว่าในวันที่ 1 ต.ค.2564 จะมีการปรับแนวทางอย่างไร
ส่วนจุดหรือสถานที่ที่พบการติดเชื้อ ตอนนี้งานศพกลายเป็นกิจกรรมเสี่ยง หลังพบระหว่างร่วมพิธีศพ จะมีการนั่งรับประทานอาหาร มีการสัมผัสใกล้ชิดระหว่างพิธีศพ เพราะบางแห่งละเมิดมาตรการ ขอทุกคนช่วยกันดูแลอย่าติดเชื้อเพิ่มจนถึงสิ้นเดือนนี้ เพื่อคลายมาตรการ ต.ค.
"ผู้ติดเชื้อที่ยังเป็นหลักหมื่นกว่าต่อวัน มีข้อมูลรายงานว่าหลายจังหวัดพบผู้ติดเชื้อจากงานศพ มีการกินอาหารร่วมกัน พูดคุยกัน ค้างคืนอยู่เฝ้าศพ อยู่ใกล้ชิดกันนาน ตรงนี้จึงกลายเป็นกิจกรรมเสี่ยง" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นอกจากนั้นยังจัดกิจกรรมเสี่ยงอื่น ได้แก่ การจัดงานอีเว้นท์ การส่งเสริมการขายในห้าง หลายที่ปรับมาตรการตามสีของระดับจังหวัด ซึ่งต้องมาดูว่ามีเรื่องอะไรบ้าง นอกจากนี้ยังมีสถานีขนส่ง โรงเรียน และร้านอาหาร บางร้านได้รับรายงานว่ามีการละเมิด มีการนั่งกิน ดื่มด้วย
ทั่วโลกป่วย 373,175 รวมสะสม 225.46 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 373,175 ราย รวม 225,469,980 ราย อาการหนัก 103,211 ราย หายป่วย 202,037,081 ราย เสียชีวิต 4,644,028 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 35,450 ราย รวม 41,853,362 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 251 ราย รวม 677,988 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 31,374 ราย รวม 33,263,542 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 219 ราย รวม 442,907 ราย บราซิล พบเพิ่ม 10,615 ราย รวม 20,999,779 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 292 ราย รวม 586,882 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 29 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage