โควิดวันนี้ ติดเชื้อใหม่ลดจากหลักสองหมื่นเหลือ 19,851 ราย ยอดสะสมทั้งหมดทะลุ 1 ล้าน เฉพาะกรุงเทพวันเดียว 4,181 ราย หายป่วยแล้ว 20,478 ราย ตายเพิ่ม 240 ราย เป็นเด็ก 2 ราย อายุ 7 เดือน-2 ปี
.............................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 19,851 ราย ติดเชื้อในประเทศ 19,516 ราย มาจากระบบบริการ 16,125 ราย เกิดจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 3,391 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ 325 ราย และอีก 10 รายเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมจากการระบาดทั้งหมด 1,009,710 ราย
ขณะที่มีผู้หายป่วย 20,478 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสมทั้งหมด 795,805 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 205,079 ราย โดยเป็นผู้ป่วยหนัก 5,388 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 1,161 ราย
โดยมีผู้เสียชีวิต 240 ราย มาจากกทม.และปริมณฑล 123 ราย 4 จังหวัดชายแดนใต้ 10 ราย จังหวัดอื่น 105 ราย และเรือนจำ 2 ราย มีรายละเอียดผู้เสียชีวิตเป็นชาย 129 ราย หญิง 111 ราย มีอายุระหว่าง 7 เดือน-93 ปี
ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ 162 คิดเป็น 68% และผู้ป่วยมีโรคเรื้อรัง 46 ราย คิดเป็น 19% ซึ่งหากรวมกันพบมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 87% ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 2 ราย แบ่งเป็น เด็กอายุ 2 ปี จังหวัดปทุมธานี และเด็ก 7 เดือน จังหวัดสมุทรสาคร ไม่มีโรคประจำตัว และผู้เสียชีวิตทั้งหมดต่างมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากในครอบครัว คนรู้จัก และอาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า สถิติผู้เสียชีวิตตั้งแต่ 25 ก.ค.-19 ส.ค.2564 รวม 4,656 ราย มี 2,969 ราย ไม่ได้ฉีดวัคซีน จึงขอเน้นย้ำให้กลุ่มผู้สูงวัย ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ รีบฉีดวัคซีนเพื่อลดอัตราป่วยหนักและเสียชีวิต
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 10 จังหวัดอันดับสูงสุด ประกอบด้วย กทม. 4,181 ราย สมุทรสาคร 1,556 ราย ชลบุรี 1,348 ราย สมุทรปราการ 1,055 ราย นครราชสีมา 575 ราย สระบุรี 494 ราย ปทุมธานี 461 ราย นครปฐม 460 ราย อยุธยา 453 ราย และระยอง 414 ราย
ทั้งนี้คลัสเตอร์แต่ละจังหวัดมีบริบทที่แตกต่างกัน โดยในบางจังหวัดพบการกลับมาระบาดของแคมป์คนงานก่อสร้าง โรงงานและสถานประกอบกิจการ
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 10 ราย แบ่งเป็น ฝรั่งเศส 1 ราย อิสราเอล 2 ราย กัมพูชา 5 ราย และมาเลเซีย 2 ราย
นอกจากนั้น มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกเพิ่ม 442,435 ราย เข็มที่ 2 เพิ่ม 201,318 ราย และเข็มที่ 3 เพิ่ม 7,853 ราย รวมสะสม 25,818,666 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 19,586,009 ราย ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 5,705,200 ราย และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 527,457 ราย
@ สถานการณ์การรอจัดสรรเตียงมีทิศทางดีขึ้น
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงสถานการณ์เตียงในปัจจุบันว่า จากกราฟระดับความรุนแรงของผู้ติดเชื้อรอจัดสรรเตียงในระบบคอลเซ็นเตอร์ จะเห็นว่า เส้นสีเขียวและเส้นสีเหลืองของกราฟดิ่งลง หมายความว่า เมื่อเรามีการพัฒนาระบบ Home Isolation และ Community Isolation ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ป่วยโควิดอาการน้อยที่มีอยู่ 80-90% ได้รับการรักษาที่บ้านหรือศูนย์พักคอย เป็นเหตุให้ผู้ป่วยภาวะรุนแรงเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น ผู้ป่วยสีแดงรอเตียงจำนวนลดลง และสิ่งสำคัญคือวันรอเตียง ทางเราจะพยายามทำให้เสร็จสิ้นภายในวันเดียวกัน
พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า เส้นกราฟที่ดิ่งลงเกิดขึ้นได้ต้องขอบคุณความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชน ที่ช่วยกันเปิดศูนย์พักคอย (Community Isolation) โดยในพื้นที่ กทม.จะเปิดศูนย์พักคอยรวมทั้งสิ้น 70 แห่ง รองรับได้ 9,426 เตียง ปัจจุบันเปิดดำเนินการแล้ว 64 แห่ง และอยู่ระหว่างการดำเนินการอีก 6 แห่ง ทำให้ฮอสพิเทลและโรงพยาบาลสนามสามารถปรับไปรองรับผู้ป่วยสีเหลืองอ่อนได้ และโรงพยาบาลบุษราคัมสามารถปรับไปดูแลผู้ป่วยอาการหนักได้ รวมทั้งโรงพยาบาลทั้ง 132 แห่ง จะเห็นว่าอัตราค่อนข้างเต็ม แต่จะทิศทางต่อจากนี้จะรองรับผู้ป่วยสีแดงได้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการสร้างศูนย์พักคอยกึ่งโรงพยาบาลสนาม เพื่อดูแลผู้ป่วยสีเหลืองเข้ม (Community Isolation Plus: CI Plus) อีก 7 แห่ง ได้แก่ ศูนย์พักคอบศูนย์สร้างสุขทุกวัย (จตุจักร) ศูนย์พักคอยวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการเจ้าพระยา ศูนย์พักคอยวัดสุทธิวราราม ศูนย์พักคอยร้านจงกั๋วเหยียน ศูนย์พักคอยศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ศูนย์พักคอยวัดศรีสุดาราม (อาคารศาลาวิจิตร รัตนศิริ วิไล) และศูนย์พักคอยสร้างสุขทุกวัย (บางแค) รวมจำนวนเตียงที่สามารถรองรับได้ทั้งหมด 1,036 เตียง
@ กทม.ตรวจคัดกรองเชิงรุกผู้ป่วยในชุมชนรวมทั้งสิ้น 4.02 หมื่น พบติดเชื้อ 4,701 ราย
ส่วนผู้ป่วยกักตัวอยู่ที่บ้านของกทม. ข้อมูล ณ วันที่ 18 ส.ค.2564 มีหน่วยที่ช่วยดูแลผู้ป่วยที่แยกกักตัวอยู่ที่บ้าน รวมทั้งสิ้น 262 หน่วยและมีทีม CCRT ที่ค้นหาผู้ป่วยในชุมชนให้ได้รับการตรวจ ATK โดยตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.-18 ส.ค.2564 สามารถตรวจได้ทั้งสิ้น 40,280 ราย พบผู้มีผลเป็นบวก 4,701 รายคิดเป็น 11.61%
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า มีรายงานพบผู้ป่วยตกหล่น หรือผู้ป่วยรับบริการแยกกับตัวที่บ้านไม่ได้รับยาและอาหารตามที่ควร ซึ่งตรงนี้มีการตรวจสอบแล้ว กทม.รายงานว่าเป็นการที่ผู้ป่วยเข้าไปอยู่ในระบบข้อมูลการรอเตียง โดยมีการแก้ไขและผู้ป่วยได้รับการดูแลเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีความซับซ้อนของข้อมูล เนื่องจากผู้ป่วยติดต่อไป 2 แห่ง และทั้ง 2 แห่งให้การดูแลทำให้ได้รับการดูแลและได้ยาซ้ำซ้อน
ทั้งนี้ทุกหน่วยงานได้รับฟังข้อเสนอแนะและจากพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับระบบโทรศัพท์เบอร์โทร 1330 โดยแต่ละเขตในกทม.เพิ่มสายด่วนอีก 50 เบอร์ โดยแต่ละเบอร์จะมีอีก 20 คู่สาย ซึ่งจากที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พยายามมอนิเตอร์การโทรศัพท์ พบว่ามีประชาชนโทรศัพท์ประมาณวันละ 4,000-5,000 สาย
@ 'ค้นโควิด.com' เพิ่มบริการค้นหาศูนย์แยกกักในชุมชน
นอกจากนี้เว็บไซต์ 'ค้นโควิด.com' จากเดิมที่มีการปักหมุดค้นหาจุดตรวจหาเชื้อ ตอนนี้ได้เพิ่มข้อมูล ศูนย์แยกกันและดูแลในชุมชน (Comunity isolation) รวมทั้งโรงพยาบาลสนามและโรงพยาบาลที่สามารถดูแลผู้ป่วยระดับเหลืองแดงในพื้นที่กทม.และปริมณฑล โดยกรอกรหัสไปรษณีย์ เพื่อตรวจสอบข้อมูลได้
พร้อมขอเน้นย้ำว่า ข้อมูลที่รายงานทั้งหมดนี้อาจจะยังมีข้อผิดพลาด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการอัปเดตศูนย์พักคอย หรือฮอลพิเทล นั้นปรับเปลี่ยนเร็วมาก บางวันเปิดเพิ่ม 5-6 จุด หรือในส่วนของภาคเอกชนตอนนี้ก็เริ่มมีความเข้าใจระบบการดูแลดีขึ้น จึงติดต่อมาที่กรมการแพทย์ หรือกรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันดูแลผู้ป่วยโควิดด้วยตอนนี้
@ ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 722,258 รวมสะสม 210.84 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 722,258 ราย รวม 210,845,425 ราย อาการหนัก 108,296 ราย หายป่วย 188,774,026 ราย เสียชีวิต 4,417,385 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 154,917 ราย รวม 38,231,787 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 967 ราย รวม 643,112 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 37,312 ราย รวม 32,358,210 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 559 ราย รวม 433,622 ราย บราซิล พบเพิ่ม 35,991 ราย รวม 20,494,212 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,030 ราย รวม 572,733 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 34 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage