‘สุชาติ’ รอ ศบค.เคาะ 'แฟคตอรีแซนด์บ็อกซ์' ตรวจเชื้อเชิงรุกแรงงาน 4 แสนคนใน 4 อุตสาหกรรม นำร่อง 4 จังหวัด ชลบุรี-นนทบุรี-ปทุมธานี-สมุทรสาคร คาดเริ่มโครงการปลาย ส.ค.นี้
------------------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) วันที่ 16 ส.ค. จะมีการเสนอมาตรการแฟคตอรีแซนด์บ็อกซ์ (Factory Sandbox) ซึ่งเป็นรูปแบบการผสมผสานมาตรการสาธารณสุขกับเศรษฐกิจเข้าด้วยกัน เพื่อให้มีการควบคุมโควิดในพื้นที่โรงงานและกิจการก็ยังสามารถเดินสายการผลิตต่อไปได้
สำหรับโครงการแฟคเตอรีแซนด์บ็อกซ์ เป็นความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยจะจัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจหาโควิดเชิงรุกภายในโรงงาน หากพบผู้ติดเชื้อจะนำผู้ป่วยแยกตัวไปเข้าสู่ระบบการรักษาตามโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือประกันสังคม ที่ส่วนใหญ่ได้มีการประสานงาน Hostpitel แต่ละพื้นที่เพื่อรองรับกับสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว ส่วนผู้ที่ไม่พบเชื้อจะได้รับการฉีดวัคซีนทันที โดยเบื้องต้นเตรียมขอวัคซีนประมาณ 200,000 – 300,000 โดส เพื่อใช้ในโครงการนี้
นอกจากนั้นยังกำหนดให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนี้ใช้ Antigen Test Kit (ATK) เพื่อทำการสุ่มตรวจหาเชื้อในแรงงานทุกสัปดาห์ และต้องควบคุมเส้นทางการเดินทางของแรงงาน (Sealed Route) เช่นเดียวกับการควบคุมการระบาดในแคมป์คนงานก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นยังได้มีการประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อออกใบรับรองให้กับโรงงานที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อใช้สร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าในต่างประเทศอีกด้วย
นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า โครงการแฟกเตอรีแซนด์บอกซ์ จะเริ่มต้นกับอุตสาหกรรม 4 ประเภท ประกอบด้วย อุตสาหกรรมอาหาร ยานยนต์ เครื่องมือแพทย์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำร่องใน 4 จังหวัด คือ ชลบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรสาคร โดยเน้นไปที่โรงงานอุตสาหกรรมที่มีแรงงานตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป ซึ่งสำรวจแล้วมีอยู่ประมาณ 400 แห่ง มีแรงงานรวมกันมากกว่า 400,000 คน คาดว่าหาก ศบค.ให้ความเห็นชอบ จะสามารถเริ่มโครงการได้ในช่วงปลายเดือน ส.ค. และจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนในการดำเนินการโครงการดังกล่าว
“วิธีการนี้จะทำให้เราแยกปลาออกจากน้ำ คนที่มีเชื้อโควิดจะถูกนำตัวไปรักษา ซึ่งเราเตรียมเตียงไว้รองรับแล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ส่วนคนไม่พบเชื้อก็จะได้รับการฉีดวัคซีน ก็จะทำให้กิจการเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่มีสะดุด ซึ่งขณะนี้ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมส่งออก คือเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวเดียวที่ยังทำงานอยู่ และมีการประมาณการมูลค่า 4 อุตสาหกรรมที่อยู่ในโครงการนี้ไว้ประมาณ 7 แสนล้านบาท ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการด้วยว่าจะร่วมมือกับเรามากน้อยแค่ไหน” นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจหาเชื้อเชิงรุกในแคมป์คนงานในพื้นที่ กทม. ว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงแรงงานได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข และฝ่ายความมั่นคง จัดเจ้าหน้าที่ 50 ชุด เพื่อตรวจสุขลักษณะของแคมป์คนงาน โดยได้ทำการตรวจแล้ว 588 แห่งจาก 622 แห่ง ผ่านการประเมินแล้วมากกว่า 500 แห่ง นอกจากนั้นยังมีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 70-80% ซึ่งตอนนี้แคมป์คนงานได้กลับมาเปิดกิจการตามปกติได้แล้ว 90%
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า สำหรับการประชุม ศบค.ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ นอกจากจะมีการพิจารณาโครงการแฟคตอรีแซนด์บ็อกซ์ ที่ประชุมจะพิจารณาการขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการคุมโควิดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม 29 จังหวัดจากเดิมที่จะครบกำหนด 18 ส.ค.อาจขยายไปถึง 31 ส.ค. นอกจากนั้นจะมีการพิจารณาผ่อนปรนมาตรการในห้างสรรพสินค้าตามที่สมาคมศูนย์การค้าไทยเสนอขอผ่อนปรน 4 ธุรกิจ คือ ธนาคารและสถาบันการเงิน ธุรกิจสื่อสารและไอที ร้านเบ็ดเตล็ด และร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าจำเป็น
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage