ป่วยใหม่ 21,038 ราย รวมป่วยสะสม 816,989 ราย รักษาตัวอยู่ใน รพ. 210,042 ราย หายดี 22,012 ราย ตาย 207 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 2 ราย-ตายที่บ้าน 2 ราย ฉีดวัคซีนทะลุ 5 แสน 2 วันติด ด้าน ศบค.ขอความร่วมมือ ปชช.เร่งพาผู้สูงวัยฉีดวัคซีนให้ได้ 60-70% หลังหลายจังหวัดยังต่ำ ยกเว้น กทม.ครอบคลุมกว่า 90% แล้ว
-----------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21,038 ราย ติดเชื้อในประเทศ 20,846 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 16,464 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 4,382 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 173 ราย และอีก 19 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 816,989 ราย หายป่วยเพิ่ม 22,012 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 210,042 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 5,407 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 1,094 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 207 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 6,795 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 207 ราย มาจาก กทม. 60 ราย ปริมณฑล 64 ราย ภาคใต้ 16 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 ราย ภาคเหนือ 24 ราย และภาคกลาง 26 ราย โดยมีอายุระหว่าง 21-93 ปี และในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตขณะตั้งครรภ์ 2 ราย และเสียชีวิตที่บ้าน 2 ราย แบ่งเป็น กทม. 1 ราย และนครศรีธรรมราช 1 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ประกอบด้วย โรคไต โรคอ้วน และติดเตียง ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากการอาศัยหรือไปในพื้นที่ระบาด ครอบครัว และคนรู้จัก
"โดยส่วนใหญ่อายุ 60 ปีขึ้น 57% และมีโรคเรื้อรัง 28% รวมกันแล้ว 85% ย้ำว่าประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรเร่งฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 4,525 ราย สมุทรสาคร 1,683 ราย สมุทรปราการ 1,388 ราย ชลบุรี 1,368 ราย นนทบุรี 691 ราย พระนครศรีอยุธยา 580 ราย ปทุมธานี 512 ราย ฉะเชิงเทรา 467 ราย อุบลราชธานี 420 และราชบุรี 399 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากจากต่างประเทศ ทั้งหมด 19 ราย แบ่งเป็น ดูไบ 1 ราย อิสราเอล 1 ราย มาเลเซีย 1 ราย และเมียนมา 16 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 10 ส.ค.2564 พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 364,685 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 125,685 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 56,474 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 21,717,954 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 16,701,428 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 4,692,030 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 324,496 ราย
@ CCRT ลงพื้นที่เพิ่ม 153 ชุมชน พบเชื้อ 126 ฉีดวัคซีนแล้ว 3,373 ราย
สำหรับผลการดำเนินงานโดยกลุ่ม CCRT ในพื้นที่ กทม.ระหว่างวันที่ 15 ก.ค.-10 ส.ค.2564 ระบุว่า ลงพื้นที่เพิ่ม 153 ชุมชน รวมสะสม 2,623 ราย ตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit เพิ่มอีกจำนวน 1,347 ราย พบเชื้อ 126 ราย รวมสะสม 3,627 ราย ส่งเข้าสู่ระบบการรักษาเรียบร้อยแล้ว
ฉีดวัคซีนเพิ่ม 3,373 ราย แบ่งเป็น ผู้สูงอายุ 875 ราย ผู้มีโรคประจำตัว 2,483 ราย และ หญิงตั้งครรภ์ 15 ราย รวมสะสม 97,697 โดส
@ กทม.ฉีดวัคซีนทะลุ 7 ล้านโดส เป็นเข็มแรกครอบคลุมกว่า 73%
ผลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในพื้นที่ กทม. ณ วันที่ 10 ส.ค.2564 มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มจำนวน 73,464 ราย แบ่งเป็น ซิโนแวค 4,710 ราย ซิโนฟาร์ม 4,681 ราย และแอสตร้าเซนเนก้า 63,093 ราย
ขณะที่ได้รับเข็ม 2 เพิ่มจำนวน 11,240 ราย แบ่งเป็น ซิโนแวค 74 ราย ซิโนฟาร์ม 10,190 ราย และแอสตร้าเซนเนก้า 655 ราย
และเข็ม 3 เพิ่มจำนวน 12,800 ราย แบ่งเป็น แอสตร้าเซนเนก้า 402 ราย และไฟเซอร์ 12,398 ราย
รวมสะสมมีผู้ได้รับวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.2564 จำนวน 6,918,698 ราย แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 5,620,394 ราย คิดเป็น 73% และเข็มที่ 2 จำนวน 1,217,223 ราย คิดเป็น 15.81%
@ พบ 3 คลัสเตอร์ใหม่ กระจาย 3 จังหวัด ติดเชื้อรวม 77 ราย
สำหรับสถานการณ์การระบาดในต่างจังหวัด พบคลัสเตอร์ใหม่ 3 แห่ง กระจาย 3 จังหวัด ติดเชื้อรวม 77 ราย ประกอบด้วย บริษัทปิโตรเลียม อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ติดเชื้อ 19 ราย บริษัทอาหารสำเร็จรูป อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ติดเชื้อ 32 ราย บริษัทเครื่องดื่ม อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ติดเชื้อ 26 ราย
@ ตั้งเป้าเร่งฉีดวัคซีนผู้สูงวัย 60-70% หลังหลายจังหวัดยังต่ำ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงผลการติดตามยุทธศาสตร์ การจัดการระบาของโควิดสัปดาห์ที่ 33 ระหว่างวันที่ 30 ก.ค.-5 ส.ค.2564 ว่า จากการติดตามพบว่า จากเดิมที่ผู้ติดเชื้อกระจุกตัวอยู่ใน กทม.และปริมณฑล ตอนนี้พบกระจายตัวไปยังภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากประชาชนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เข้าไปเป็นแรงงานในเมืองและปริมณฑล ทำให้สถานการณ์เตียงสำหรับผู้ป่วยสีแดงภาคตะวันออกเฉียงเหนือใกล้เกินขีดความสามารถ
โดยสถานการณ์เตียงสีแดงในปัจจุบัน พบ 13 จังหวัด เหลือเตียงพร้อมใช้ต่ำกว่า 20% ได้แก่ อยุธยา ฉะเชิงเทรา บึงกาฬ หนองบัวลำภู หนองคาย มหาสารคาม นครสวรรค์ ราชบุรี สมุทรสงคราม นครนายก พิจิตร สมุทรสาคร และภูเก็ต ส่วนสถานการณ์เตียงสีเหลือง พบ 19 จังหวัด เหลือเตียงพร้อมใช้ 41-60% ได้แก่ สมุทรปราการ สิงห์บุรี สระบุรี ระยอง ปราจีนบุรี ศรีสะเกษ สกลนคร ลำปาง อุตรดิตถ์ น่าน พะเยา ตากพิษณุโลก เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช พังงา ระนอง และสงขลา
สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่ส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง โดยจังหวัดนครปฐม เป็นเพียงจังหวัดเดียวที่พบผู้มีอาการหนักโด่งเกินกว่า 21% ส่วนอัตราการเสียชีวิตที่เกินกว่าเส้นแดง หรือ 1 % พบอยู่ 9 จังหวัด ได้แก่ กทม. สมุทรสาคร เพชรบุรี ระยอง อุบลราชธานี ประจวบ ชัยนาท บุรีรัมย์ และชุมพร แต่จังหวัดเพชรบุรี และอุบลราชธานีพุ่งสูงสุด คิดเป็น 3.4% และ 2.5% ตามลำดับ
ทั้งนี้หากเปรียบเทียบอัตราการตายต่อล้านประชากรระดับโลก ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้อยู่ที่ 148 เสียชีวิตอยู่ที่ 89 ราย ต่อล้านประชากร
"ถ้าเป้าหมายของเราในการลดอัตราป่วยและตาย เมื่อมาดูอัตราการฉีดวัคซีนของกลุ่มผู้สูงอายุ จะพบว่าทุกจังหวัดมีเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่าเป้า ยกเว้น กทม.ที่ฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุกลุ่มเป้าหมายได้ 90% ดังนั้นไม่ใช่เพียงแค่แพทย์ พวกต้องเร่งรัดฉีดวัคซีน ขอให้ท่านพาผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีน ซึ่งเราต้องฉีดให้ได้ 60-70%" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
@ ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 609,402 รวมสะสม 204.76 ล้านราย ไทยขึ้นอันดับ 35
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 609,402 ราย รวม 204,776,810 ราย อาการหนัก 100,832 ราย หายป่วย 183,899,166 ราย เสียชีวิต 4,326,877 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 101,254 ราย รวม 36,892,215 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 657 ราย รวม 634,662 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 36,316 ราย รวม 32,033,333 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 468 ราย รวม 429,183 ราย บราซิล พบเพิ่ม 35,245 ราย รวม 20,213,388 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,183 ราย รวม 564,890 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 35 ของโลก
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/