ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.ดัง ทำหนังสือแจงบุคลากร กรณีมีชื่อสามีอธิการฯ ขอรับการฉีดวัคซีนในบัญชีบุคลากรช่วง พ.ค.2564 มีผู้ประสงค์ขอรับวัคซีน 184 จาก 200 คนรวมฝ่ายบริหารด้วย ส่วนอธิการฯประสานจุดฉีดขอเพิ่มชื่อสามี เหตุทำหน้าที่รับส่ง-เป็นผู้สูงอายุ ยืนยันการสำรวจไม่กระทบรายชื่อผู้ปฏิบัติงานที่ต้องจัดสอบออนไลน์ในมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด
---------------------------------------------------------------------------------
ความคืบหน้ากรณีที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการร้องเรียนจากบุคลากรมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี เกี่ยวกับปัญหาการจัดสรรวัคซีนโควิดเพื่อฉีดให้บุคลากร ที่พบว่าในบัญชีรายชื่อผู้เข้ารับการฉีดของมหาวิทยาลัย มีการบรรจุชื่อสามีของอธิการบดีเข้าไปด้วย โดยระบุตำแหน่งงานว่า กองอำนวยการสอบ
(ข่าวประกอบ : มหาวิทยาลัยดังสอดชื่อสามีอธิการฯขอฉีด ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ เข็มแรกบัญชีบุคลากร)
มีรายงานว่า ฝ่ายสื่อสารองค์กรได้ทำเอกสารชี้แจงกับบุคลากรภายในมหวิทยาลัย โดยมีรายละเอียด ดังนี้
เรื่อง ประชาสัมพันธ์ กรณีการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนของมหาวิทยาลัย ของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง
ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวสารจากสำนักข่าวแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนของมหาวิทยาลัย เมื่อวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม 2564 เวลา 19:03 น. นั้น ในกรณีนี้ มหาวิทยาลัยขอสื่อสารข้อมูลเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง และใช้ประกอบการพิจารณารับสารของบุคลากร ดังนี้
ในช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2564 มหาวิทยาลัยได้กำหนดการสอบปลายภาค ประจำภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ผ่านระบบออนไลน์ ในวันที่ 29 – 30 พฤษภาคม และ 5 – 6 มิถุนายน 2564 โดยมีการจัดซ้อมสอบเสมือนจริงในวันที่ 22 – 23 พฤษภาคม 2564 นั้น
สถานการณ์ ณ ช่วงกลางเดือน พ.ค. 2564 ของประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโรคโควิด – 19 เฉลี่ยวันละ 2,553 คน (15 พ.ค. 64) ดังนั้น มหาวิทยาลัยมีความห่วงใยในความปลอดภัยของบุคลากรที่มาปฏิบัติงานคุมสอบทุกท่าน จึงได้ขอความอนุเคราะห์ไปยังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เพื่อขอรับการสนับสนุนวัคซีนให้กับบุคลากรของมหาวิทยาลัย จำนวน 200 ราย โดยมหาวิทยาลัยได้ประสานงานไปยังหน่วยงานภายในที่เกี่ยวข้องกับการจัดสอบออนไลน์ เพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ปฏิบัติงานที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนตามความสมัครใจ และมีผู้แจ้งความประสงค์ จำนวน 133 ราย ซึ่งยังไม่เป็นไปตามจำนวนที่ได้รับการจัดสรร ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงได้คำนึงถึงผู้บริหารและกลุ่มบุคลากรที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการคุมสอบออนไลน์ แต่มีความเสี่ยงในการปฏิบัติงาน การประชุมกลุ่มใหญ่ และต้องมีปฏิบัติงานภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยเพิ่มเติม รวมมีผู้ที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนตามความสมัครใจเป็นจำนวน 184 คน
ในส่วนของกรณีที่ปรากฎในข่าวว่ามีสามีของอธิการบดีซึ่งเป็นบุคคลภายนอกของมหาวิทยาลัยได้รับการฉีดวัคซีนในลำดับที่ 2 นั้น เนื่องจากมหาวิทยาลัยได้สำรวจบุคลากรที่มีความเกี่ยวข้องกับการสอบออนไลน์ และบุคลากรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัยอย่างครบถ้วนแล้ว จึงได้สำรวจบุคคลที่มีความเชื่อมโยง และต้องเข้ามาในบริเวณมหาวิทยาลัย โดยพิจารณาเห็นว่า ท่านอธิการบดีเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นผู้อำนวยการสนามสอบ ต้องมาปฏิบัติงานทั้งการซ้อมสอบเสมือนจริง และการสอบออนไลน์ทุกครั้ง ท่านอธิการบดีเป็นผู้บริหารสูงสุดของมหาวิทยาลัย โดยมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทุกกิจกรรมของมหาวิทยาลัยให้ดำเนินการไปได้ด้วยดี มีประสิทธิภาพสูงสุด มีการเข้าร่วมประชุมทุกการประชุมที่สำคัญของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการสอบออนไลน์ ได้มีการประชุมบ่อยครั้ง และหารือกับกลุ่มคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลจำนวนมาก จึงถือว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงทั้งการรับและการแพร่เชื้อโรคโควิด – 19 ไปยังบุคคลอื่น ๆ ของมหาวิทยาลัยที่ร่วมประชุมด้วย ดังนั้นจึงได้สอบถามข้อมูลพบว่า สามีของท่านอธิการบดีเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการรับส่งท่านอธิการบดีในการมาปฏิบัติงานเป็นประจำและเป็นผู้สูงอายุที่ต้องได้รับวัคซีนตามนโยบายของภาครัฐ จึงได้ขอความอนุเคราะห์ไปยังหน่วยฉีดวัคซีนเพื่อขอรับการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติม ซึ่งไม่ได้กระทบกับจากรายชื่อผู้ปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัยที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนตามความสมัครใจ ตามที่มีผู้แจ้งความประสงค์ จำนวน 184 คน
จากนั้น ทางมหาวิทยาลัยได้รับข้อมูลจากการพิจารณาหน่วยงานที่จัดสรรการฉีดวัคซีนว่าเป็นไปตามนโยบายของภาครัฐ สามารถดำเนินการได้ ทางผู้บริหารจึงได้เพิ่มชื่อเข้าไปเป็นลำดับท้าย เพื่อจะได้ไม่ซ้ำซ้อนกับจำนวนวัคซีนที่ได้รับจัดสรรให้กับมหาวิทยาลัย ในลำดับที่ 169 และต่อมาได้รับข้อมูลจากหน่วยงานภายในเพิ่มเติม จึงทำให้บัญชีรายชื่อมีจำนวน 185 รายชื่อ
การที่รายชื่อปรากฏในลำดับที่ 2 นั้น เป็นการเรียงลำดับตามอายุ โดยหน่วยฉีดวัคซีนได้แจ้งให้มหาวิทยาลัยทราบ ซึ่งเป็นการจัดลำดับตามระบบที่ใช้ในการดำเนินการจัดสรรกับประชาชนทั่วไป และใช้สำหรับการประสานงานการเข้ารับการฉีดวัคซีนแต่ละกลุ่ม ตามช่วงเวลาที่กำหนด สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 59 ปีขึ้นไป ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และอายุต่ำกว่า 59 ปี ได้รับวัคซีนซิโนแวค ซึ่งท่านอธิการบดีมีรายชื่อเป็นลำดับแรก สามีท่านอธิการบดีจึงปรากฏชื่อเป็นลำดับที่ 2 และตามด้วยบุคลากรซึ่งยังไม่เป็นผู้เกษียณอายุราชการตามลำดับจนถึงบุคลากรคนสุดท้ายที่อายุ 24 ปี โดยเข้ารับการฉีดวัคซีนในวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามที่ได้รับแจ้งข้อมูลมา
นอกจากการจัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับสอบออนไลน์ข้างต้นแล้ว มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการจัดหา และขอรับการสนับสนุนวัคซีนให้กับบุคลากรทั้งหมดของมหาวิทยาลัย และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง โดยได้รวบรวมรายชื่อบุคลากรภายใน และบุคลากรภายนอกที่ต้องเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย ได้แก่ รปภ. แม่บ้าน พนักงานขับรถ ช่างแอร์ ผู้ขายอาหาร และบุคคลภายนอกที่เข้ามาปฏิบัติงานประจำภายในมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด – 19 โดยข้อมูล ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2564 มีบุคลากรได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจำนวน 1,983 ราย
จึงเรียนแจ้งข้อเท็จจริงที่ถูกต้องแก่บุคลากรทุกท่านมาให้ทราบโดยทั่วกัน และขอให้ร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด – 19 อย่างเคร่งครัด
ผู้รับผิดชอบด้านการป้องกันโรคโควิดประจำมหาวิทยาลัยดังกล่าว เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เราไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง และไม่ได้มีการแทรกคิวบุคลากร แต่ในข้อเท็จจริงเราได้ประสานการขอฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรประมาณ 200 คน แต่เมื่อสำรวจรายชื่อบุคลากรที่ต้องการฉีดวัคซีนตามความสมัครใจ พบว่ามีจำนวนเพียง 130 กว่าคน เนื่องจากว่าในช่วงเดือน พ.ค.2564 อาจมีบางส่วนที่ยังไม่ประสงค์ที่จะฉีดวัคซีนในขณะนั้น ต่อมาจึงได้สำรวจบุคคลที่มีความเสี่ยงเพิ่มเติม และได้บรรจุชื่อบุคลากรในฝ่ายบริหารที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสอบเข้าไปด้วย อาทิ คณบดี รองคณบดี รองผู้อำนวยการสำนัก จนได้รายชื่อบุคลากรที่ต้องการฉีดวัคซีน 184 คน จากนั้นอธิการบดีได้ประสานไปยังจุดฉีดวัคซีน เพื่อขอเพิ่มผู้เข้ารับการฉีดวัคซีน 1 คนคือสามี ซึ่งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ก็อนุญาตเนื่องจากว่าเป็นประชาชนในกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป พร้อมแจ้งให้มหาวิทยาลัยบรรจุชื่อสามีอธิการบดีอยู่ในบัญชีในการเข้ารับการฉีดวัคซีนชุดเดียว ดังนั้นขอยืนยันว่า บัญชีรายชื่อผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนไม่ได้กระทบกับบุคลากรแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่ชื่อสามีอธิการบดี ถูกระบุตำแหน่งว่า กองอำนวยการสอบ ผู้รับผิดชอบเปิดเผยว่า ตามบัญชีรายชื่อที่ถูกส่งไปยังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นั้น จะระบุเพียง ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด และเบอร์โทรศัพท์ในการติดต่อเท่านั้น ส่วนบัญชีรายชื่อที่มีการระบุตำแหน่งงานนั้น เป็นข้อมูลที่มหาวิทยาลัยจัดทำไว้สำรองในระบบหลังบ้านเท่านั้น ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้ว การดำเนินการสอบของมหาวิทยาลัย มีบุคลการที่เกี่ยวข้องกับการสอบเพียง 130 กว่าคนเท่านั้น ส่วนฝ่ายบริหารที่บรรจุชื่อในภายหลังก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสอบ แต่ก็ถูกเขียนตำแหน่งว่า กองอำนวยการสอบด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นการปรากฎชื่อสามีอธิการบดีอยู่ในลำดับที่ 2 ตามบัญชีที่เป็นข่าวนั้น คาดว่าเป็นการจัดเรียงบัญชีตามอายุของผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนในภายหลัง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/