กลุ่มเยาวชนปลดแอกประกาศยุติการชุมนุม 'ม็อบ 7 สิงหา' โดยไม่สามารถเคลื่อนขบวนไปที่่ ร.1 พัน 1 รอ.ได้สำเร็จ ขณะที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิพบรถเจ้าหน้าที่ถูกไฟไหม้ - บช.น.สรุปสถานการณ์จับกลุ่มผู้ชุมนุมรวม 12 ราย ส่วนตำรวจถูกหัวน็อตยิงฝังลำคอบาดเจ็บสาหัส
------------------------------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2564 กลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่มนัดหมายชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในช่วงบ่ายวันนี้ ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนมาที่พระบรมมหาราชวัง เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่ง
โดยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตู้คอนเทเนอร์ ตู้รถไฟเก่า และลวดหนามมาวางเป็นแนวขวาง ตั้งแต่ท้องสนามหลวงยาวมาถึงศาลพระแม่ธรณีบีบมวยผม ถนนราชดำเนินใน ส่วนทางด้านแยก จ.ป.ร. สะพานมัฆวานรังสรรค์และเส้นทางถนนพิษณุโลก บริเวณแยกนางเลิ้ง ซึ่งเป็นเส้นทางไปทำเนียบรัฐบาล ก็มีการนำตู้คอนเทนเนอร์ และลวดหนามมาวางขวางเส้นทางเช่นกัน ขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอความร่วมมือให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางผ่านสนามหลวง พระบรมมหาราชวัง ถนนราชดำเนิน และถนนพิษณุโลก เส้นทางมุ่งหน้าเข้าทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากจะมีการชุมนุม และมีการปิดการจราจร
@ ตร.สรุปสถานการณ์จับผู้ชุมนุมรวม 12 ราย
เมื่อเวลา 20.30 น.พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุม ว่า การชุมนุมวันนี้ได้มีการนัดหมายที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อมีการรวมตัวก่อนตำรวจได้ประกาศให้ยุติการกระทำดังกล่าว เนื่องจากกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จึงมีประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติและเลิกการชุมนุม โดยกลุ่มผู้ชุมนุมไม่เชื่อฟังและได้ประกาศเชิญชวนให้ไปชุมนุมต่อที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ระหว่างทางกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามฝ่าแนวกั้นบริเวณแยกสะพานผ่านฟ้า บางส่วนได้รวมตัวกันแยกนางเลิ้ง จากนั้นพยายามรื้อสิ่งกีดขวางบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ แต่ไม่สามารถฝ่าแนวกั้นของตำรวจไปยังสถานที่สำคัญของประเทศได้ จึงได้ประกาศเชิญชวนให้รวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นได้มีการประกาศเชิญชวนให้ไปถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อชุมนุมหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ (ร.1 พัน 1 รอ.) ตำรวจได้ตั้งแนวรั้งหน่วงไว้บริเวณทางแยกสามเหลี่ยมดินแดง กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยพายามรื้อสิ่งกีดขวาง ไม่ว่าจะเป็นลวดหนาม ตู้คอนเทนเนอร์ รวมถึงใช้หัวน็อต ลูกแก้ว ลูกหินและสิ่งต่างๆทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการใช้พลุเพลิง พลุไฟ ประทัดยักษ์ รวมถึงระเบิดปิงปอง ขว้างใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ กระทั่ง 18.00 น
. มีการประกาศยุติการชุมนุม แต่บางส่วนยังชุมนุมอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและสามเหลี่ยมดินแดง
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า ในช่วงเช้าตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 กลุ่ม กลุ่มที่หนึ่งเป็นผู้ต้องหา 2 คน พร้อมคีมตัดลวด วิทยุสื่อสาร เกราะอ่อน หน้ากากกันแก๊ส หมวกนิรภัย ภายในห้องพักและรถยนต์บริเวณโรงแรมย่านถนนข้าวสาร ส่วนกลุ่มที่สองได้มีการตรวจค้นพบพลุไฟ 5 อัน หนังสติ๊กจำนวนหนึ่ง หัวน็อต ลูกแก้ว เกราะอ่อน หน้ากากกันแก๊ส วิทยุสื่อสาร ภายในรถยนต์ 2 คัน ผู้ต้องหา 6 คน ภายในลานจอดรถวัดมหรรณพารามวรวิหาร ย่านเสาชิงช้า เบื้องต้นตั้งข้อหาอั้งยี่และซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 และมาตรา 210 นอกจากนี้ช่วงบ่าย ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมรถเครื่องเสียง จำนวน 2 คัน ผู้ต้องหาอื่นๆ ที่มีการกระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ , ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาดำเนินคดีอีก 4 คน รวมการจับกุมวันนี้ทั้งสิ้น 12 คน
พล.ต.อ.ปิยะ กล่าวอีกว่า การชุมนุมวันนี้มีเรื่องที่น่าเสียใจ ตำรวจถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายร่างกายโดยใช้หนังสติ๊กพร้อมหัวน็อตยิงมาที่ร่างกาย ได้รับบาดเจ็บหัวน็อตฝังอยู่ในลำคอได้รับอันตรายสาหัสอยู่ระหว่างทำการผ่าตัดที่ รพ.ตำรวจ นอกจากนี้ยังมีการเผาทำลายรถควบคุมผู้ต้องหา และทำลายทรัพย์สินราชการอื่นๆ กรณีนี้ตำรวจจะทำการตรวจสอบ สำรวจความเสียหายและดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมตามกฎหมายต่อไป
@ 17.40 น.ประกาศยุติการชุมนุม
เมื่อเวลา 17.19 น. เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH แจ้งให้ผู้ชุมนุมกลับมาปักหลักชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หลังจากไม่สามารถเคลื่อนขบวนไปหน้า ร.1 พัน 1 รอ.ได้สำเร็จ เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางสกัดการเคลื่อขบวน ขณะเดียวกันมีรายงานว่ามีรถของเจ้าหน้าที่ถูกไฟไหม้อยู่บริเวณถนนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิด้วย
กระทั่งเวลา 17.40 น. กลุ่มเยาวชนปลดแอกประกาศยุติการชุมนุม พร้อมแจ้งให้ติดตามนัดหมายอย่างใกล้ชิด
@ ตร.แจงใช้กระสุนยาง-แก๊สน้ำตายับยั้งไม่ให้สถานการณ์บานปลาย
เมื่อเวลา 16.54 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า อุปกรณ์ที่ตำรวจใช้ในการควบคุมฝูงชน คือ กระสุนยางและแก๊สน้ำตา เป็นเครื่องมือที่ได้รับมาตรฐาน และเป็นเครื่องมือที่ต่างประเทศใช้กัน พร้อมระบุว่าตำรวจพยายามเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม อยากให้จะเดินทางกลับบ้าน ยุติการชุมนุม และกล่าวว่าได้พูดคุยกับผู้แทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แล้ว
"ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง เราไม่ได้มุ่งที่จะเน้นจับกุม เรามุ่งที่จะรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อที่จะไม่ให้สถานการณ์นั้นเกิดความวุ่นวายในวงกว้างและมีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน" พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เป็นปกติที่จะใช้กระสุนยาง หรืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อที่จะระงับยับยั้งไม่ให้เกิดสถานการณ์บานปลาย หรือไม่ให้เกิดความวุ่นวาย พร้อมขอร้องให้สื่อมวลชนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใช้ความระมัดระวัง สังเกตการณ์ และถ่ายทอดทุกขั้นตอน อย่านำภาพหรือคลิปส่วนใดส่วนหนึ่งไปตัดตอนเพื่อให้เกิดการบิดเบือน พร้อมเผยว่าช่วงเช้าวันนี้ มีการจับกุมผู้ที่จะมาร่วมชุมนุมไปแล้วทั้งหมด 8 คน โดยอ้างว่าพบอาวุธซุกซ่อนมาในรถพยาบาล ส่วนผู้ชุมนุมในพื้นที่ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการจับกุมหรือไม่
@เคลื่อนขบวนไปหน้าบ้านนายกฯ
เมื่อเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้ประกาศเคลื่อนขบวนอีกครั้ง เพื่อมุ่งหน้าไปที่ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ (ร.1 พัน 1 รอ.) โดยมวลชนได้นำธงสีแดงสกรีนตัวหนังสือ REDEM เข้าร่วมการเคลื่อนขบวนครั้งนี้ด้วย
ขณะที่บรรยากาศบริเวณด้านหน้า ร.1 พัน 1 รอ. เจ้าหน้าที่ได้ตรึงกำลังรองรับสถานการณ์ เตรียมนำรั้วลวดหนามปิดกั้นพื้นที่โดยรอบ โดยเมื่อเวลา 15.22 น. เจ้าหน้าที่สั่งเตรียมบรรจุกระสุนยาง พร้อมแจ้งให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ รวมถึงมีการใช้แก๊สน้ำตายิงสกัดการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
(ชุดภาพผู้ชุมนุมจาก เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH)
@ ตร.กระชับพื้นที่อนุสาวรย์ประชาธิปไตย
เมื่อเวลา 12.30 น. ตำรวจควบคุมฝูงชน พร้อมรถขยายเสียง ตั้งแถวจากถนนราชดำเนินเคลื่อนตัวเข้ากระชับพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมประกาศเป็นระยะขอให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน เพราะห่วงว่าจะมีผู้ไม่หวังดี จึงจำเป็นต้องกระชับพื้นที่ ทำให้เกิดเหตุชุลมุน และมีเสียงดังขึ้นเป็นระยะ
@ เปลี่ยนจุดชุมนุมเป็นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ต่อมาเวลา 13.29 น. เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประกาศเปลี่ยนจุดหมายการชุมนุมไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนจุดชุมนุมครั้ง 2 หลังจากเมื่อเวลา 12.40 น. แจ้งว่าจะย้ายการชุมนุมจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นทำเนียบรัฐบาล
@ 'คณะก้าวหน้า' แถลงการณ์จี้เจ้าหน้าที่หยุดใช้ความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะก้าวหน้า ออกแถลงการณ์ตอบโต้การใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่า ประชาชนยืนยันการชุมนุมโดยสงบ อุปกรณ์ที่ประกาศจะตระเตรียมกันมาเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ตั้งแต่เสื้อ ธง อุปกรณ์การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ไปจนถึงน้ำปลาร้าและไข่เน่าสำหรับป้องกันตัวกรณีถูกเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าปราบปราม แต่ฝ่ายรัฐกลับจัดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ตู้คอนเทนเนอร์ อาวุธยุทธโธปกรณ์ต่างๆ ราวกับจะทำสงครามกลางเมือง ทั้งที่ประชาชนมิใช่ศัตรู
@ เตือนร่วมม็อบเสี่ยงโควิด-ผิดกฎหมาย
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การรวมตัวกันไม่ว่าจุดใดล้วนมีความผิด ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่จัดกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยและรักษากฎหมาย โดยอยากให้แกนนำคำนึงถึงสถานการณ์การระบาดของโควิดด้วย ส่วนมาตรการรับมือจะยึดหลักการเจรจา ซึ่งตำรวจเข้าใจวัตถุประสงค์ของผู้ชุมนุม แต่อยากให้คำนึงถึงกฎหมาย หากมีการฝ่าฝืนหรือพบการกระทำผิด เช่น ละเมิดสิทธิประชาชน ทำลายสิ่งกีดขวาง หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่ ก็จำเป็นต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยจะทำตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีบางกลุ่มดำเนินการจัดกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดทางกฎหมายและละเมิดต่อสิทธิของผู้อื่นหลายลักษณะ เช่น การวางเพลิงเผาทรัพย์ ซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่นหรือทรัพย์สินของทางราชการ เข้าข่ายความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ , การสาดสีหรือพ่นสี ใส่ทรัพย์สินของผู้อื่นหรือทรัพย์สินของทางราชการ เข้าข่ายความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ และการใช้ยานพาหนะขับขี่หรือจอดในลักษณะการกีดขวางการจราจร เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เป็นต้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มที่จะร่วมชุมนุมจัดกิจกรรมในวันนี้ ซึ่งนอกจากจะสุ่มเสี่ยงและอาจเข้าข่ายกระทำผิดทางกฎหมายแล้ว ยังอาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด ร่วมถึงเป็นผู้แพร่เชื้อได้ตลอดเวลา และขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังบริเวณทีมีการชุมนุมและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อสวัสดิภาพของทุกคน
(ภาพประกอบ : แนวหน้า)
ข่าวประกอบ :
การข่าวเชื่อมีความรุนแรง! ตร.เตรียม 38 กองร้อย ตั้ง 14 จุดสกัด รับมือม็อบ 7 ส.ค.
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage