ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ แต่งตั้งรองผู้ว่าฯ นำทีมสอบข้อเท็จจริง กรณีโซเชียลฯแชร์ภาพ ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 3 อาจขัดคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ที่มีมติให้ฉีดเฉพาะแพทย์ด่านหน้า พร้อมส่งหนังสือแจ้งปลัด สธ.แล้ว - ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ แจงไม่ทราบเรื่อง เพราะลาราชการวันดังกล่าว
-------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2564 นายธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแ ละอดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Tongthong Chandransu ระบุว่า "ตำรวจที่บุรีรัมย์ได้ฉีดวัคซีนเข็มสามแล้ว ดีใจด้วยครับ เพียงแต่สงสัยว่า ผมตามไปดูในเพจของโรงพัก โพสต์นี้ไม่ปรากฏอยู่แล้ว ถ้าเปนข่าวปลอมก็บอกมาเลยนะครับ จะได้แก้ข่าวให้ แต่ถ้าเปนข่าวจริง ก็ชวนให้ผมสงสัยอะไรต่อไปอีกเยอะ เปนคนขี้สงสัยนี่ลำบากจริงๆครับ"
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภาพดังกล่าวเป็นโพสต์เฟซบุ๊กของ สถานีตำรวจภูธรบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้มีการเผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 3 เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2564 พร้อมระบุข้อความว่า พ.ต.อ.สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้ประสานการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้ากับทางสาธารณสุขอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ โดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับข้าราชการตำรวจแล้ว จำนวน 11 ราย อาการผลข้างเคียงไม่มี
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบไปที่เฟซบุ๊ก สถานีตำรวจภูธรบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่ปรากฎโพสต์ดังกล่าวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่โซเชียลมีเดียได้แชร์ภาพดังกล่าวออกไป ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย เนื่องจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) มีมติเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบให้มีการฉีดวัคซีนโวิดเข็มที่ 3 หรือ บูสเตอร์โดส สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคแล้ว 2 เข็ม โดยเข็มต่อไปจะฉีดกระตุ้นด้วยแอสตร้าเซนเนก้า หรือ mRNA ทั้งนี้ยังระบุในเอกสารที่เผยแพร่ต่อสาธารณชนด้วยว่า เมื่อมีวัคซีนเพียงพอและกลุ่มเสี่ยงได้รับวัคซีนแล้ว จะมีการพิจารณาการฉีดเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปในระยะถัดไป
(ข่าวประกอบ : ศบค.เตรียมปรับแผนคุมโควิดเข้มขึ้น เคาะฉีดเข็ม 3 ให้แพทย์ - ฉีดผสมสูตรให้ประชาชน)
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ติดต่อไปยัง สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ผ่านทางเบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏที่หน้าเพจเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับสายแจ้งว่า ไม่ทราบรายละเอียด และขอให้รอสอบถามจากผู้กำกับการเป็นผู้ชี้แจงเรื่องดังกล่าว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากได้ยื่นหนังสือลาราชการไว้ ระหว่างวันที่ 23-24 ก.ค.ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวระดับสูงในจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผย สำนักข่าวอิศรา ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ได้รับทราบและตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เนื่องจากขัดคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีมติให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับแพทย์ด่านหน้าเท่านั้น อย่างไรก็ตามพบว่า กรณีดังล่าวมีปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะ 1 อำเภอจากทั้งหมด 23 อำเภอของจังหวัด คือ อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ โดยจากการสอบถามพื้นที่ ได้รับคำชี้แจงเบื้องต้นว่า ตำรวจ ทหาร ปลัดอำเภอ ทำงานด่านหน้าเช่นกัน หากไม่ฉีดจะทำงานไม่ได้
ล่าสุด นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ออกคำสั่งจังหวัด เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ลงวันที่ 25 ก.ค.2564 ระบุว่า ด้วยปรากฎข้อมูลตามสื่อโซเชียล สังคมออนไลน์ (เฟสบุ๊ก) กรณีว่ามีกระแสข่าวการฉีดวัคซีนในพื้นที่ของอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ ให้กับเจ้าหน้าที่ให้บริการด่านหน้าอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์โดยตรง ในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการติดเชื้อไวรัสโควิดก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนของหน่วยงานภาครัฐ จังหวัดบุรีรัมย์
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 54 และ มาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีว่ามีกระแสข่าวการฉีดวัคซีนในพื้นที่ของอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ ให้กับเจ้าหน้าที่ให้บริการด่านหน้าอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ โดยตรง ในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการติดเชื้อไวรัสโควิด ประกอบด้วย
1. นายไชยวัฒน์ จุนระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานกรรมการ
2. พ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นรองประธานกรรมการ
3. นายยุทธนา สุริยะ นายแพทย์เชี่ยวชาญ เป็นกรรมการ
4. นายสุรพล เพ็งพันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานกฎหมาย ระเบียบ และเรื่องร้องทุกข์ เป็นกรรมการ
5. นายเอกวัฒน์ พวงประโคน จ่าจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นกรรมการและเลขานุการ
6. นายนฤชิต รุ่งศิลา เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
7. นายสงวน นะวะประโคน เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ให้มีอำนาจและหน้าที่ ดังนี้
1. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดำเนินการรวบรวมพยานเอกสาร ที่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าว
2. เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำพร้อมจัดส่งเอกสาร ชี้แจ้งข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณา
3. สรุปข้อเท็จจริงพร้อมเสนอความเห็นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ทราบโดยด่วน
4. หน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
ขณะเดียวกัน นายธัชกร ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้รับทราบถึงการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว และจะรายงานผลการสอบข้อเท็จจริงให้ทราบต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage